"เต๋า ซังฮี้" เซียนเครื่องรางของขลัง ย่านฝั่งธน เมาเลือดร้อน เห็นเมียนุ่งกระโจมอกผืนเดียว-อยู่กับเพื่อนรุ่นน้อง เกิดฟิวส์ขาด-ปรี่กระทืบฝ่ายชายน่วมดับคาบ้าน ส่วนฝ่ายหญิงโดนเก้าอี้ฟาดหัวแตก รับฉุนเห็นภาพบาดตา-จึงบันดาลโทสะ

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 7 ส.ค.64 ร.ต.อ.พีรยุทธ ศรีเมือง รอง สว.(สอบสวน) สน.บางพลัด รับแจ้งเหตุฆ่ากันตาย ที่บ้านเลขที่ 16 ถนนจรัญสนิทวงศ์ ใกล้ปากซอย 66 แขวงและเขตบางพลัด กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.จิรพัฒน์ พรหมสิทธิการ ผกก.บางพลัด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.วชิรพยาบาล และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นศูนย์รับเช่าและจำหน่ายเครื่องรางของขลังชื่อร้าน "เต๋า ซังฮี้" ให้บริการจัดหาวัตถุมงคลสายตรง "บ้านมีดี" ของ อาจารย์เที่ยง น่วมมานา และ อาจารย์ป่อง น่วมมานา ฆราวาสสายสักยันต์ชื่อดังฝั่งธนบุรี

จากการตรวจสอบบนที่นอนในโซนพักผ่อนหลังบ้านชั้นล่าง พบศพ นายภาณุพล กังวานนครชัย หรือเบียร์ อายุ 34 ปี นอนตะแคงซ้ายคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดแขนสั้นลายพรางทหารสีขาวดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา มีบาดแผลถูกทำร้ายที่ใบหน้า กระดูกดั้งจมูกแตก เบ้าตาช้ำ 2 ข้าง ใบหูขวาฉีก จนถึงแก่ความตาย เบื้องต้นมอบศพให้แพทย์นิติเวช นำไปผ่าชันสูตรหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง 

ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเจ้าของศูนย์จัดหาเครื่องรางดังกล่าว และเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของผู้ตาย ชื่อ นายทรัพย์สิน ธรรมรัชสุนทร หรือเต๋า อายุ 37 ปี ยืนรอมอบตัวกับตำรวจในสภาพเมามายสุราอย่างหนัก พร้อมให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับภรรยา ชื่อ น.ส.อรสา สท้านอาจ อายุ 28 ปี ที่เพิ่งคบหากันมา 5 เดือน และผู้ตายที่แวะมาเยี่ยมเยียน ได้นั่งกินดื่มเบียร์อยู่ในบ้านจนเมา เมื่อตนง่วงนอนจึงขอตัวขึ้นไปนอนบนห้องพักชั้น 2 จากนั้นรู้สึกปวดปัสสาวะก็ลงมาเข้าห้องน้ำ แต่เห็นภาพบาดตา คือ ภรรยาตนกำลังนุ่งผ้าขนหนูกระโจมอกผืนเดียว อยู่กับผู้ตายบนที่นอนในโซนพักผ่อนชั้นล่าง ทำให้เกิดบันดาลโทสะใช้เท้าเตะและกระทืบผู้ตายจนแน่นิ่ง จากนั้นใช้เก้าอี้ฟาด น.ส.อรสา จนบริเวณศีรษะด้านหลังแตกแล้วรอมอบตัวกับตำรวจ 

...

ด้าน พ.ต.อ.จิรพัฒน์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัว น.ส.อรสา ไปรักษาอาการบาดเจ็บศีรษะแตกที่ รพ.วชิรพยาบาล จากนั้นจะให้พนักงานสอบสวนตามไปสอบปากคำว่า ให้การสอดคล้องหรือต่างกับ นายทรัพย์สิน สามีเลือดร้อนหรือไม่ ส่วน นายทรัพย์สิน นั้น ระหว่างที่ตำรวจเข้ามาตรวจที่เกิดเหตุ สามารถตรวจยึดอาวุธปืน ยี่ห้อโคลท์ รุ่นดีเฟนเดอร์ ขนาด 11 มม.ที่เจ้าตัวอ้างว่า เป็นของส่วนตัวมีทะเบียนถูกต้องไว้ได้ 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน แต่ไม่ได้ใช้ยิงใคร จากนี้จะนำตัว นายทรัพย์สิน ไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก เพื่อดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนอาวุธปืนจะยึดไว้ตรวจสอบว่า เคยนำไปก่อคดีใดมาก่อนด้วยหรือไม่

ขณะที่ นางจุฑาทิพ ช่อจอหอ อายุ 56 ปี มารดาของผู้ต้องหา ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ เล่าว่า เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา ทราบว่า นายภาณุพล เพื่อนรุ่นน้องคนสนิทของลูกชายเเวะมาหา และชักชวนลูกชายกับภรรยานั่งดื่มเบียร์กัน กระทั่งทราบอีกทีว่าเกิดเรื่องขึ้นจึงรีบเดินทางมาดูลูก โดยก่อนหน้านี้ตนก็เคยตักเตือนแล้วว่า ช่วงเข้าพรรษาขอให้งดดื่มสุราและตั้งใจสวดมนต์ภาวนาให้มากๆ เนื่องจากลูกชายก็เป็นคนศรัทธาพระพุทธศาสนา ชอบศึกษาพระเครื่องและเครื่องราง ประกอบกับเป็นคนมีครูบาอาจารย์สักอักขระเลขยันต์เต็มร่างกาย กระทั่งวันนี้พอดื่มสุราเข้าไป จึงทำให้เกิดเหตุน่าสลดใจ ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นดังกล่าว