หนุ่มใหญ่ปืนโหด ฉุน ด.ต.เพื่อนรัก คว้าลูกซองยิงดับ ก่อนตกใจเผ่นหนี สุดท้ายจนมุม ขณะขี่ จยย.สวนทางตำรวจ หวังซื้อเหล้าซดย้อมใจ สอบสวนสารภาพ อ้างคาใจปัญหาส่วนตัว
เมื่อวันที่ 22 ก.ค.64 ร.ต.ท.หญิง ภคนันท์ ศรีนันทพันธ์ รอง สว.สอบสวน สภ.ตะกั่วป่า รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงเสียชีวิต ภายในสวนปาล์มน้ำมัน หมู่ 5 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.คุณเดช ณ หนองคาย ผกก.สภ.ตะกั่วป่า พ.ต.ท.นิพนธ์ ญาณไพศาล รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ตะกั่วป่า นายเชิดชาย ปัทมยุตานนท์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 พ.ต.อ.ประเทือง ศรีละมนตรี ผกก.สส.ภ.จว.พังงา พ.ต.ท.บัณฑิต หัตถพิถีพันธ์ รอง ผกก สส.ภ.จว.พังงา ร.ต.อ.จรรยงค์ โลหะกิจ รอง สวป.สส.ฯ ด.ต.จรินทร์ จินดาพล ด.ต.ณรงค์ เทียบพุฒ และ ด.ต.โกศล คงแก้ว
ที่เกิดเหตุทราบว่าผู้ถูกยิงชื่อ ด.ต.บัญชา แก้วนุ้ย อายุ 50 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ งานป้องกันและปราบปราม ปฏิบัติหน้าที่ สิบเวร สภ.ตะกั่วป่า ถูกยิงด้วยปืนลูกซองยาว จำนวน 1 นัด เข้าที่ชายโครงด้านขวาเป็นรูพรุน นับรอยกระสุนได้กว่า 25 รู ซึ่งก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปถึงนั้น ญาติๆ ได้นำตัว ด.ต.บัญชา ส่งรักษาที่ รพ.ตะกั่วป่า เสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว
ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ นายณรงค์ จันทร์แจ่มใส่ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78/2 หมู่ 5 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา หลังก่อเหตุด้วยความตกใจจึงรีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปหา นายปัญญา เอกภาพันธ์ อายุ 40 ปี ช่างก่อสร้างบ้านที่รู้จัก และอยู่ห่างที่เกิดเหตุไม่ไกล เพื่อให้พาไปซื้อสุรามานั่งดื่มกินย้อมใจ
ต่อมาชุดเฉพาะกิจตำรวจภูธรจังหวัดพังงา และเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพังงา พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ตะกั่วป่า สามารถสกัดจับกุม นายณรงค์ (ผู้ก่อเหตุ) ไว้ได้ขณะขี่รถจักรยานยนต์สวนทางตำรวจ ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งนายณรงค์มีอาการเมาสุรา เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวมายังที่เกิดเหตุทันที พร้อมให้ชี้จุดที่ก่อเหตุ และหาอาวุธปืนของกลางที่ใช้ยิง ด.ต.บัญชา เสียชีวิต
...
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ 3 จุด คือ จุดที่ 1 เป็นเพิงพักพบปืนขนาด 9 มม.ของ ด.ต.บัญชา วางอยู่บนโต๊ะ ใกล้กันพบกระบอกกัญชาและกัญชาวางอยู่บนเขียง จุดที่ 2 คือ หลังบ้านพบรอยเลือด และจุดที่ 3 อยู่ในรถเบนซ์ พบปืนลูกซองยาว จำนวน 2 กระบอก และพบหลักฐานเป็นปืนลูกซองยาวที่ นายณรงค์ ใช้ก่อเหตุยิง ด.ต.บัญชา วางอยู่ในรถคู่เบาะหน้าคนขับ
จากการสอบสวน นายณรงค์ รับสารภาพว่า เป็นคนยิง ด.ต.บัญชา ก่อนนั้นเป็นเพื่อนรัก และนับถือกันเหมือนพี่น้อง ตนและผู้ตายเป็นคน จ.สุราษฎร์ธานี เหมือนกัน ผู้ตายแวะมาเยี่ยมเยียนที่บ้านประจำ แต่ด้วยสาเหตุมีเรื่องส่วนตัวกัน บางครั้งเมาสุราพูดจาไม่เข้าหู เกิดเรื่องทะเลาะกันบ้าง ด้วยความเป็นตำรวจ ผู้ตายมักชักปืนขู่ยิงกันบ่อยๆ จนมาถึงวันนี้
ด้าน นายปัญญา พยานผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุทั้ง 2 คนใช้อาวุธปืนไล่ยิงกันในสวนปาล์มเหมือนในหนัง ตนจึงเข้าไปห้ามยกมือไหว้ ด.ต.บัญชา และขอปืนนำไปเก็บไว้ แต่พอสักพักขณะตนทำงานอยู่ ได้ยินเสียงปืนดังอีก จึงกลับไปดูก็พบ ด.ต.บัญชา ถูกยิง จึงให้ญาติพาไปส่งโรงพยาบาล จากนั้นตนได้พาผู้ก่อเหตุออกไปซื้อสุราจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวได้
ด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ กล่าวว่า ผู้ตายและผู้ก่อเหตุมีความสนิทสนมกันมาก ซึ่งก่อนเกิดเหตุทั้งคู่มีปากเสียงกัน น่าจะเป็นเรื่องสร้างบ้านจนทะเลาะกัน ต่อมาผู้ตายได้เดินไปหาผู้ก่อเหตุที่บ้านอีก จนทำให้ผู้ก่อเหตุโมโห ใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงจากในบ้าน ถูกผู้ตายเสียชีวิตทันที จากนั้นหลบหนีไปห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร และมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในที่สุด จากการสอบปากคำเบื้องต้น ตำรวจได้ตั้งข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง" เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.