หนุ่มแสบ ตุ๋นขายเซิร์ฟสเก็ต-สินค้าวัยรุ่น บนโลกออนไลน์ ใช้เฟซฯ ลวงเหยื่อมากกว่า 20 บัญชี ถูกเหยื่อตั้งเพจขึ้นบัญชีดำ ถูกตำรวจตามรวบ คาบ้านเกิดที่สุพรรณฯ อ้างหาสินค้าไม่ทัน-นำเงินไปหมุน-ติดพนันออนไลน์

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 64 พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ รอง ผบก สส.บช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ เข้าจับกุม นายภัคภาคิน ปภาภรภิวัฒน์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง โดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายฯ หลังหลอกขายเซิร์ฟสเก็ตและสินค้าอื่นๆ บนโลกออนไลน์แก่เหยื่อหลายราย โดยจับกุมตัวได้บนถนนนางบัวคลี่ ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี 

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก นายภัคภาคิน ซึ่งเคยเปลี่ยนชื่อสกุลมาแล้วหลายครั้ง อาทิ เตชินท์ เเก้วสุทธิผล, ศุภพิชญ์ แก้วสุทธิผล ได้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก มากกว่า 20 บัญชี หลอกขายสินค้าประเภท เซิร์ฟสเก็ต (Surfskate) นาฬิกา Mi Watch และสินค้าวัยรุ่นอื่นๆ ในราคาถูกกว่าท้องตลาดให้เหยื่อ โดยโพสต์ขายตามเพจรับหิ้วสินค้าต่างๆ มีผู้หลงเชื่อโอนเงินให้มากมาย แต่เจ้าตัวไม่ยอมส่งสินค้าให้ เหยื่อบางรายไม่พอใจและแสดงท่าทีจะดำเนินคดี นายภัคภาคิน ก็จะออกอุบายขอหักเงิน 50% ของยอดสินค้าที่เหยื่อโอนจ่าย บางรายก็ไม่ได้เงินคืน สร้างความเสียหายรวมแล้วหลายแสนบาท จนเหยื่อต้องรวมตัวตั้งเพจขึ้นบัญชีดำ นำข้อมูลออกมาประจานชื่อ-นามสกุล และเลขบัญชีที่ นายภัคภาคิน ใช้ต้มตุ๋นจนโด่งดังในโลกออนไลน์ เมื่อชุดจับกุมสืบทราบว่า นายภัคภาคิน หนีไปกบดานในพื้นที่บ้านเกิด จ.สุพรรณบุรี จึงติดตามไปรวบตัวมาดำเนินคดี 

...

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายภัคภาคิน ยอมรับว่าไม่ได้ตั้งใจหลอกลวงเหยื่อรายใด เนื่องจากบางครั้งหาสินค้ามาส่งให้ไม่ทันจริงๆ จึงนำเงินลูกค้ารายใหม่ๆ ที่โอนมาให้ ไปหมุนใช้หนี้ให้ลูกค้ารายเก่าๆ ประกอบกับตนชอบเล่นพนันออนไลน์ จึงชดใช้ให้ไม่ทัน โดยก่อนหน้านี้เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน, พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ถูกจำคุกที่เรือนจำธัญบุรี เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 63 เพิ่งพ้นโทษเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 64 ยังไม่มีงานทำ จึงใช้เฟซบุ๊กขายสินค้าเพราะเห็นว่าได้เงินง่าย 

ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อหา "ฉ้อโกง โดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายฯ" ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางมด และยังพบข้อมูลด้วยว่า ตั้งแต่ นายภัคภาคิน พ้นโทษออกมา ได้ก่อเหตุลวงเหยื่อมาแล้วกว่า 40 ราย ได้เงินจากเหยื่อไปรายละหลักพันบาท ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามผู้เสียหายทั้งหมดเข้ามาอายัดตัว เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.