ตำรวจเปิดยุทธการ “ข้ามฟ้า ล่า App เงินกู้” บินไปเชียงรายทลายแก๊งเงินกู้ดอกโหด ออฟฟิศอยู่ริมชายแดน ตะลึงพบ “คัมภีร์ทวงหนี้” แถมเจอพนักงานทวงหนี้ทำงานจากบ้านกว่าร้อยราย เร่งสาวหาผู้เกี่ยวข้อง

พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร. และ ผอ.ศปน.ตร. แถลงข่าวยุทธการ “ข้ามฟ้า ล่า App เงินกู้” บุกจับแก๊งนายทุนเงินกู้นอกระบบ หนีขึ้นดอย ตั้งฐานทวงหนี้ริมตะเข็บชายแดน ยึดของกลางอื้อ ตะลึงพบ "คัมภีร์ทวงหนี้" "พนักงานทวงหนี้ From Home" กว่าร้อยชีวิตที่ห้องศรียานนท์ 

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 มิ.ย.64 พล.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทำให้ได้รับความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง บางส่วนหันไปพึ่งพาการกู้เงินจากนายทุนเงินกู้นอกระบบ ซึ่งมีการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา การทวงถามหนี้โดยผิดกฎหมาย อันเป็นการซ้ำเดิมประชาชน ทำให้เกิดปัญหาทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และอาชญากรรมต่างๆ ตามมา รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เล็งเห็นความสำคัญของการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งปราบปรามนายทุนเงินกู้นอกระบบ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกเอารัดเอาเปรียบและการทวงถามหนี้โดยผิดกฎหมายอย่างจริงจัง

...

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้มอบหมายให้ ศปน.ตร. นำโดย พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร. และ ผอ.ศปน.ตร., พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรอง ผอ.ศปน.ตร., พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.สง.ก.ตร. และรอง ผอ.ศปน.ตร., พล.ต.ท.สมชาย เกาสำราญ ผบช.ประจำ
สง.ผบ.ตร. และเลขานุการ ศปน.ตร. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ โดย พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ปอศ. เร่งดำเนินการปราบปรามความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบมาอย่างต่อเนื่อง

ที่ผ่านมาพบว่า แนวโน้มการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบในปัจจุบัน เปลี่ยนจากแก๊งหมวกกันน็อก หรือกู้ยืมเงินโดยยึดโฉนดที่ดินเป็นหลักประกัน เปลี่ยนเป็นการกระทำความผิดทางออนไลน์ หรือ แอปพลิเคชันผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้เข้าถึงคนจำนวนมาก จะมีนายทุนชาวต่างชาติเข้ามากระทำความผิดในประเทศไทย ในลักษณะ ขบวนการ ซึ่งการกระทำความผิดดังกล่าวสร้างความสูญเสียให้กับระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก

พล.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า เดิมการกระทำความผิดในลักษณะแอปพลิเคชันเงินกู้ผิดกฎหมายดังกล่าว มักจะมีที่ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล แต่จากการกดดันอย่างหนักและเร่งจับกุมปราบปรามของ ศปน.ตร. ในช่วงปลายปี พ.ศ.2563 ต่อเนื่องต้นปี 2564 พบว่ากลุ่มคนร้ายปรับเปลี่ยนรูปแบบการกระทำความผิดโดยย้ายที่ตั้งไปอยู่ตามแนวชายแดน และจากการรวมกลุ่มเปิดบริษัททวงหนี้ในรูปแบบคอลเซ็นเตอร์ มีพนักงานจำนวนมาก เปลี่ยนเป็นให้พนักงานโทรศัพท์ทวงหนี้จากบ้านในลักษณะ "ทวงหนี้ FROM HOME" เพื่อให้ตรวจพบได้ยาก

ศปน.ตร.ได้มอบหมาย พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด กก.4 บก.ปอศ. สืบสวนมาโดยตลอด จนพบว่า แอปพลิเคชัน คือ "Consumer Finance" และ "Mini Loan" ดำเนินงานโดย บริษัท ไทย วาลึ จำกัด มีการประกอบธุรกิจให้กู้ยืมเงินโดยผิดกฎหมาย เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และมีการทวงหนี้โดยผิดกฎหมาย ได้ย้ายที่อยู่เพื่อหลบหนีการจับกุมมาหลายครั้ง โดยครั้งสุดท้ายหลบมาเช่าบ้านพักเป็นฐานสำหรับติดตามทวงถามหนี้และยังใช้เป็นที่พักพนักงาน อยู่ที่หมู่ที่ 19 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

...

สำหรับตัวนายทุนจะแยกไปสั่งการและบริหารงานอยู่บนดอยแม่สลอง ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อตะเข็บชายแดน เพื่อสะดวกต่อการหลบหนี และยากต่อการติดตามจับกุม วันที่ 31 พ.ค. ชุด ศปน.ตร. โดย กก.5 บก.ปอศ. พร้อม กก.ตชด.32, กก.16 บก.รน., กก.5 บก.ทล. และ กก.สส.ภ.จว.เชียงราย นำหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงรายเข้าตรวจค้นสถานที่ทั้ง 2 แห่ง จับกุมผู้ต้องหา 10 คน ประกอบด้วย นายอนุวัตร ชื่อเดิม ไทยฝา กังสดาลบรรพต กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ในฐานะนิติบุคคลและฐานะส่วนตัว น.ส.สุภาวรรณ กังสดาลบรรพต ทำหน้าที่ควบคุมพนักงานทวงหนี้ หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ น.ส.ปิยฉัตร นภาพันธ์ ทำหน้าที่อนุมัติสินเชื่อ นายภัทรณิชา โพธิกุล ทำหน้าที่ฝ่ายบุคคล และจับกุมพนักงานทวงหนี้ของบริษัทฯ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้อีก 6 คน

รองผบ.ตร. กล่าวว่า ชุดสืบสวนตราจยึดของกลางในที่เกิดเหตุ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 18 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 50 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร 7 เล่ม, แฟ้มประวัติพนักงาน 3 แฟ้ม จำนวน 3 ชุด, เอกสารแนะนำทวงหนี้ เอกสารที่เกี่ยวข้อง 1 ลัง แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหา ได้แก่ 1.ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ใด้รับอนุญาต 2.ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด 3.ร่วมกันกระทำการทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น

...

รองผบ.ตร. กล่าวว่า พฤติการณ์ในการกระทำความผิดจากการสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้กระทำความผิดดังกล่าวจริง โดยมีการปล่อยกู้ให้กับลูกหนี้ ปัจจุบันมีฐานลูกหนี้ทั่วประเทศกว่า 3,500 คน บริษัทยังมีการกระทำความผิดเชื่อมโยง 21 APPLICATION ประกอบด้วย Consumer Finance / Loanmaket / Taka THB / cash borrow / Moobin loan / เงินกู้ดีที่สุด / Innovat cash / Loan studio / same dayloan / money loan /ใช้ตังค์ /cash ready / Mini (oan / 365 loans / TiK Tak /SpeedLoan / Big money / We cash / หมูบิน เงินกู้ /loan studio / และ Full wallet ทั้งนี้บริษัทมีพนักงานทวงหนี้กว่า 100 คน

พล.ต.อ.ปิยะ กล่าวอีกว่า รูปแบบการทำงาน คือ เมื่อรับพนักงานทวงหนี้เข้ามาจะทำการอบรมพร้อมแจกเอกสารวิธีทวงหนี้ให้พนักงาน จากนั้นจะให้แยกย้ายไปทำงานทวงหนี้แบบ Work From Home เพื่อไม่ให้มีพนักงานรวมกันอยู่จำนวนมากเป็นที่ผิดสังเกต โดยในเอกสารจะระบุวิธีการทวงหนี้ต่างๆ เช่น การพูดกดดันทำอย่างไร ควรโทรเวลาไหน ถ้าลูกหนี้ปิดเครื่องหรือบล็อกเบอร์ให้โทรทวงกับคนใกล้ชิด รวมไปถึงการส่งข้อความทวงหนี้ หรือข่มขู่ในรูปแบบต่างๆ ลักษณะเป็นเหมือนคู่มือในการปฏิบัติงาน ขณะนี้ได้อายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 60 บัญชี พบยอดเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 200 ล้านบาท สืบสวนจนทราบรายชื่อพนักงานทวงหนี้ WORK FROM HOME หมดทุกคนแล้ว อยู่ระหว่างขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องต่อไป

...

"ศูนย์ปราบปรามหนี้นอกระบบฯ จะรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดที่เกี่ยวข้อง และติดตามผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติม ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ตรวจสอบของกลางที่ตรวจยึดได้ และขยายผลดำเนินคดีกับนายทุนและผู้เกี่ยวข้องทุกราย ขอเตือนไปยังบุคคลบางกลุ่มที่ยังมีพฤติการณ์ที่ชอบเอารัดเอาเปรียบชาวบ้านประกอบกิจการ หรือมีพฤติกรรมเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ คิดดอกเบี้ยโหด ทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ คุกคามชาวบ้าน ให้หยุดการกระทำเสีย ตำรวจจะเอาจริงแบบถอนรากถอนโคน ดำเนินคดีทุกข้อหาความผิดอย่างเฉียบขาด และไม่ยอมให้มีการเอาเปรียบช้ำเติมประชาชนเป็นอันขาด" พล.ต.อ.ปิยะ กล่าว.



ข่าวที่เกี่ยวข้อง