ตำรวจสุราษฎร์ธานี ตามรวบอีก 1 ทีมฆ่าเสี่ยรับซื้ออาหารทะเล สามีสาวไลฟ์สด พร้อมเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไปตรวจสอบ ล่าสุด ตร.ตามยึดรถกระบะ 2 คันที่ขนศพไปฝังแล้ว คาดจะสาวถึงตัวการและขอหมายจับเร็วๆ นี้
จากกรณี นางจินดาหรา วศินทรัพย์ อายุ 31 ปี ได้ไลฟ์เฟซบุ๊ก ขอความช่วยเหลือ หลังจากนายโกศล เรืองดุก อายุ 45 ปี ผู้เป็นสามี ออกไปดื่มสุรากับเพื่อนที่ศาลาข้างบ้านเลขที่ 89 หมู่ 5 ต.ตะกรบ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ต่อมาเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบพบเพียงรอยเลือดจำนวนมากลากเป็นทางยาวออกจากศาลาไปบนถนนยาวกว่า 60 เมตร และพบรองเท้าแตะของนายโกศล ตกอยู่ที่เกิดเหตุ จึงสงสัยว่าจะถูกลวงออกไปทำร้ายและนำตัวไปซ่อนที่ใดแห่งหนึ่ง ทำให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางลงมาสืบสวนคลี่คลายคดีด้วยตนเอง จนล่าสุดได้มีการนำพยานคนหนึ่งมาเค้นสอบ จนให้การเปิดปากรับสารภาพ และอ้างว่า หลังเกิดเหตุได้นำศพของนายโกศล ไปฝังไว้บริเวณป่าบ้านทุ่งใสไช พื้นที่หมู่ 5 ต.พุมเรียง ซึ่งเป็นพื้นที่ในการดูแลของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่มีเขตแดนตติดต่อกับบ่อทรายของผู้ต้องสงสัย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกลับไม่พบร่างของนายโกศล ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
...
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 04.30 น. ชุดปฏิบัติการพิเศษ กก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองปราบ และชุดสืบสวน บก.สส.ภ.8 ได้นำกำลังเข้าเชิญตัวพยานคนหนึ่งในพื้นที่ อ.ท่าชนะ หลังนายเนสให้การพาดพิงว่าเป็นผู้หนึ่งที่ร่วมกันนำศพนายโกศล ไปฝังอำพราง ทั้งนี้ในการเข้าเชิญตัวพยานคนดังกล่าว เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 ได้เข้าเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ และตรวจยึดเสื้อผ้าของพยานรายดังกล่าวมาตรวจสอบด้วย
ต่อมา ตำรวจได้สืบสวนทราบว่า รถกระบะยี่ห้อโยโต้ รุ่นวีโก้ พรีรันเนอร์ สีดำ แบบตอนครึ่งยกสูง ทะเบียน บห 3735 สุราษฎร์ธานี ที่ได้รับความเสียหายชนเสาไฟฟ้า ถูกนำมาส่งซ่อมที่อู่ซ่อมรถยนต์แห่งหนึ่งใน อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จึงนำกำลังติดตามมาตรวจยึดไว้ได้นำมาเก็บที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งสภาพด้านหน้าซ้ายมีรอยชนจนยุบ ส่วนตัวถังรถตั้งแต่หัวรถไปจนถึงท้ายกระบะ มีรอยครูดเป็นทางยาว ส่วนรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์เงิน ตอนเดียว ทะเบียน ผจ 4822 สุราษฎร์ธานี พบจอดอยู่ในโรงจอดรถบ้านพ่อตานายเนส ฝั่งตรงข้ามบ้านผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ได้เข้าตรวจหาหลักฐานคราบเลือด พร้อมอายัดไว้เป็นของกลางแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.มีภารกิจต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ แล้ว ซึ่งก่อนกลับได้สั่งกำชับทีมชุดสืบสวนให้รวบรวมพยานหลักฐานสาวให้ไปถึงตัวผู้ต้องสงสัยรายใหญ่ กับผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาให้ได้ รวมทั้งการทำสำนวนสอบสวนให้รัดกุมเพื่อที่จะแจ้งข้อหาผู้ร่วมก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 7 คน ตามลักษณะพฤติกรรมการก่อเหตุประทุษร้าย, เคลื่อนย้าย ปิดบัง ทำลายศพ ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอศาลจังหวัดไชยาออกหมายจับ.