“บิ๊กอู๊ด” พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.แถลงความพร้อมรับมือม็อบรีเดม (REDEM) นัดชุมนุมสนามหลวงวันพรุ่งนี้ ใช้กำลังตำรวจควบคุมฝูงชน (อคฝ.) 22 กองร้อย เตือนผู้ชุมนุมมีความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 มีนาคม 2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. และโฆษก บช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. และพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. แถลงข่าวการเตรียมความพร้อมดูแลรักษาความสงบความเรียบร้อย กรณีผู้ชุมนุมกลุ่ม REDEM ประกาศผ่านโซเชียลต่างๆ ให้ออกมาร่วมชุมนุมที่บริเวณสนามหลวง ในวันเสาร์ที่ 20 มี.ค. เวลา 18.00-21.00 น.
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า บช.น.ได้มีการจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนไว้รองรับสถานการณ์ จำนวน 22 กองร้อย จากการข่าวยังไม่พบความรุนแรงแต่อย่างใด หากการชุมนุมไม่กระทบสถานที่สำคัญก็จะไม่ตั้งเครื่องกีดขวาง ตามกฎหมายขณะนี้ห้ามชุมนุมตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งนี้สนามหลวงเป็นพื้นที่รับผิดชอบกรุงเทพมหานครและพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ตามประกาศห้ามชุมนุม และวันที่ 20 มี.ค.จะมีการเข้าสอบของนักเรียนหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลให้เกิดความสงบเรียบร้อยมากที่สุด
...
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีกลุ่มการ์ดวีโว่ ก่อเหตุชิงตัวผู้ต้องหานายปิยรัฐ หรือโตโต้ จงเทพ และพวก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ว่า กรณีที่มีการชุมนุมที่ศาลอาญา ชุดสืบสวนจับกุมนายปิยรัฐ พร้อมพวกที่บริเวณชั้น 5 ลานจอดรถ ห้างเมเจอร์รัชโยธิน ทั้งหมด 48 คน โดยระหว่างที่มีการควบคุมผู้ต้องหามีกลุ่มการ์ดวีโว่บางส่วนเข้าทำร้ายตำรวจ ทุบทำลายรถตำรวจ แย่งชิงตัวผู้ต้องหาไปจากการควบคุมของเจ้าพนักงาน ต่อมาผู้ถูกจับกุมที่ได้หลบหนีทั้งหมด 30 คน มารายงานตัวที่ สน.พหลโยธิน พนักงานสอบสวนได้รับตัวและสอบปากคำ จากนั้นให้กลับโดยไม่ได้มีการควบคุมตัว
ต่อมาได้พิสูจน์ทราบแล้วยืนยันว่าทั้ง 30 คน เป็นผู้ต้องหาที่หลบหนี จึงได้ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อหา ได้แก่ 1. ตามความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2. พ.ร.บ.โรคติดต่อ มาตรา 34 (6) 3. ข้อหาเป็นอั้งยี่ และ 4. ข้อหาซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.209 และ ม.210 ทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอยื่นคำให้การเป็นเอกสารภายในวันที่ 19 เม.ย. โดยพนักงานสอบสวนให้ทั้งหมดมารายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 29 มี.ค. ที่สน.พหลโยธิน
“ในจำนวน 30 คน มีผู้ต้องหา 3 คน อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบว่าและพิจารณาดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหาร่วมกันหลบหนีจากที่ควบคุม และ 1 ใน 3 ก่อเหตุทำลายทรัพย์สินและทำร้ายตำรวจ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างแจ้งข้อหาเพิ่มเติมด้วย เรามีการแบ่งการดำเนินการเป็น 4 คดี ได้แก่ อั้งยี่ซ่องโจร ผู้ต้องหาหลุดจากการควบคุม เรื่องการชุมนุม และคดียิงรถตำรวจ ผู้ต้องหาส่วนหนึ่งให้การว่าไม่ได้หลบหนี นั่งอยู่ ตำรวจก็ให้ความเป็นธรรมต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ ใครทำลายรถ ทำร้ายเจ้าหน้าที่ต้องถูกดำเนินคดีไป ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน” พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. กล่าวว่า ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางตั้งแต่เวลา 16.00 น. วันที่ 10 มี.ค. ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางถนนพระจันทร์ ถนนหน้าพระลาน ถนนราชินี ตั้งแต่แยกพระอาทิตย์-แยกผ่านพิภพ ถนนราชดำเนินใน แยกผ่านพิภพ-แยกป้อมเผด็จฯ ถนนกัลยาณไมตรี (สะพานช้างโรงสี) ถนนสนามไชย แยกป้อมเผด็จฯ-วงเวียนรด. ถนนมหาราช แยกท่าพระจันทร์-แยกท่าเตียน ถนนหน้าพระธาตุ วงเวียนอาสา-แยกถนนพระธาตุตัดถนนพระจันทร์ และสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า สอบถามข้อมูลเส้นทางได้ที่โทร. 1197 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทางแอปพลิเคชัน M-Help Me และ www.trafficpolice.go.th รวมทั้งดาวน์โหลดแผนที่จราจรเพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางได้ที่ Line Official ชื่อ “Police Traffic News”
...