กองปราบตามรวบอดีตพยาบาลสาว เบี้ยวนัดศาล-ปลอมเอกสารแจ้งตาย สร้างเรื่องหนีความผิด หลังตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าชิงทรัพย์กิ๊ก-เผาอำพรางศพ

เมื่อวันที่ 10 ม.ค.64 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผิด.1 บก.ป. พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.กก.1 บก.ป. นำกำลังจับกุม น.ส.กนกรัชต์ สุวรรณฟู อายุ 33 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 272/2560 ลงวันที่ 21 มี.ค.2560 ข้อหา "ไม่มาศาลตามกำหนดนัด มีพฤติการณ์หลบหนี ในความเรื่องนี้ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่น ลักทรัพย์ ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังสาเหตุการตาย ปลอมแปลงเอกสารราชการปลอม" ได้ที่โรงพยาบาลย่านนวมินทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม.

สืบเนื่องจากเมื่อปี 2558 น.ส.กนกรัชต์ ซึ่งเคยประกอบอาชีพรับจ้างดูแลผู้สูงอายุ และเป็นอดีตเจ้าหน้าที่พยาบาล อยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว ได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวหลังตกเป็นผู้ต้องหาในดคีฆ่า นายสมมาศ พงษ์โภคา อายุ 61 ปี ที่ปรึกษากฎหมายบริษัทแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง ก่อนนำศพไปเผาทิ้งอำพรางไว้ในพงหญ้าข้างทางในพื้นที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา แล้วขโมยรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ ของผู้ตายหลบหนี

จากการจับกุมในครั้งนั้น น.ส.กนกรัชต์ ให้การภาคเสธอ้างว่า แอบคบกับผู้ตายในลักษณะเป็นกิ๊กกัน เนื่องจากผู้ตายมีภรรยาอยู่แล้ว กระทั่งก่อนเกิดเหตุได้นัดพบกับผู้ตายที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านมีนบุรี เพื่อจะร่วมหลับนอน แต่ขณะที่อยู่ในห้อง นายสมมาศ ได้กินยาไวอากร้าเข้าไป ก่อนเกิดอาการแน่นหน้าอกและช็อกเสียชีวิต ด้วยความตกใจจึงนำศพไปทิ้งไว้ข้างทางดังกล่าว แต่ทางพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงแจ้งดำเนินคดีตามกฎหมาย 

อย่างไรก็ตาม ขณะที่คดีอยู่ในชั้นพิจารณาของศาล ผู้ต้องหาได้ยื่นประกันขอปล่อยตัวชั่วคราว แต่เมื่อได้รับการปล่อยตัว กลับมีพฤติกรรมหลบหนี ไม่เดินทางมาตามนัดของศาล ทั้งยังมีการทำเอกสารปลอมขึ้นมาเพื่อตบตาว่า เสียชีวิตแล้ว ศาลจึงได้อนุมัติหมายจับดังกล่าวขึ้นมา กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบชุดจับกุมสืบทราบว่า ปัจจุบัน น.ส.กนกรัชต์ ได้หลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ กทม. จึงนำกำลังติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

...

จากการสอบสวน น.ส.กนกรัชต์ ให้การปฏิเสธอ้างว่า ไม่มีเจตนาจะหลบหนีศาล และเอกสารการตายเป็นการกระทำโดยพลการของบุคคลอื่น ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ก่อนนำตัวส่งศาลอาญาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป