สาวตามหาพ่อ ขอดูหลักฐานที่พบโครงกระดูกที่กระบี่ เบื้องต้นเจ้าตัวคาดเป็นพ่อที่หายตัวไป ด้าน ตร.พาไปตรวจดีเอ็นเอเพื่อยืนยันว่าใช่หรือไม่ เชื่อหากเป็นพ่อจริงน่าจะถูกฆ่า ขอให้ ตร.ทำคดีให้ละเอียด
จากกรณีตำรวจ สภ.ปลายพระยา จ.กระบี่ รับแจ้งจากชาวบ้านพบโครงกระดูกปริศนา คาดว่าเป็นของผู้ชาย อยู่ภายในป่าพื้นที่บ้านทะเลหอย หมู่ 10 ต.ปลายพระยา ตำรวจต้องประกาศตามหาญาติผู้เสียชีวิต จากเสื้อผ้า รองเท้า และสิ่งของที่พบ อาทิ สร้อย พระเครื่อง นาฬิกา ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 ต.ค. น.ส.ทิพานัน สิทธิสังข์ อายุ 21 ปี ชาวบ้านหมู่ 9 ต.กะหรอ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เดินทางมาที่ สภ.ปลายพระยา เพื่อพบกับพนักงานสอบสวนในคดีนี้ เนื่องจากสงสัยว่าโครงกระดูกที่พบ น่าจะเป็นพ่อของเธอที่หายตัวไปตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเธอลงประกาศผ่านทางเฟซบุ๊ก เพื่อติดตามหาพ่อของเธอมาโดยตลอด แต่ยังไม่มีวี่แวว
ตำรวจพา น.ส.ทิพานัน ไปดูสิ่งของที่พบอยู่ที่กองโครงกระดูก ปรากฏว่า น.ส.ทิพานัน ยืนยันว่า ทรัพย์สินบางส่วนที่พบเป็นของที่เหมือนกับของพ่อเธอ คือ นายอรุณ สุทธิสังข์ อายุ 47 ปี ชาวบ้านหมู่ 9 ต.กะหรอ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช โดยเฉพาะรองเท้าผ้าใบสีน้ำเงิน รวมทั้งพระเครื่อง 2 องค์ แว่นตา และปากกา ที่จำได้ว่าเป็นของพ่อ ทำให้ น.ส.ทิพานัน ถึงกับปล่อยโฮออกมาทันทีที่เห็นสิ่งของดังกล่าว และเชื่อว่าน่าจะเป็นของพ่อเธอ จากนั้นตำรวจนำภาพถ่ายนายอรุณ มาให้เจ้าตัวยืนยัน เจ้าตัวถึงกับเป็นลมล้มลง จนท.ตำรวจ และญาติๆ ต้องช่วยกันประคองตัวไว้ ต่อมา ตำรวจพา น.ส.ทิพานัน ไปตรวจเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากกระพุ้งแก้ม เพื่อนำส่งไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของโครงกระดูกที่พบ และถูกส่งไปตรวจที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน ก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อยืนยันอีกครั้งว่าใช่คนเดียวกัน
...
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า พ่อของตนหายตัวไปตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนจะหายตัวไป พ่อจะติดต่อมาคุยกับตนตลอด จะบอกว่าพ่ออยู่ไหน ปลอดภัยดีหรือเปล่า แต่พอขาดการติดต่อไป โดยเวลาพ่อไปไหนมาไหน ก็จะขี่รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า CB300 ตลอด ตนจึงเข้าแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช และเริ่มนำข้อมูลมาโพสต์เพื่อตามหา ซึ่งโครงกระดูกที่พบดังกล่าว หากผลตรวจดีเอ็นเอยืนยันได้ว่าเป็นของพ่อจริง ตนก็อยากให้ตำรวจช่วยตรวจสอบคดีนี้อย่างละเอียด เพราะตนเชื่อว่าพ่อคงไม่มาประสบเหตุเสียชีวิตด้วยตัวเอง น่าจะมีบุคคลอื่นทำให้พ่อเสียชีวิต หรือถูกทำร้าย แล้วนำร่างมาทิ้งไว้เพื่ออำพรางคดี ส่วนสาเหตุความขัดแย้งของพ่อนั้น ตนเองก็ไม่ทราบ เพราะปกติพ่อจะไม่ค่อยบอกปัญหา แต่เชื่อว่าพ่ออาจจะถูกฆ่า จึงอยากให้ตำรวจทำคดีนี้อย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อความชัดเจน ซึ่งหากศพดังกล่าวเป็นของพ่อจริง ก็สงสัยว่ารถ จยย.ของพ่อหายไปไหน อยากให้ตำรวจติดตามหารถ อาจจะทำให้ทราบว่าใครคือคนก่อเหตุ
ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปลายพระยา ขอเบอร์โทรศัพท์ของนายอรุณ ไว้ทั้งหมด ซึ่งพบว่านายอรุณ ใช้เบอร์โทรศัพท์หลายเบอร์ในการติดต่อ ซึ่งตำรวจจะไปตรวจสอบย้อนหลังอีกครั้ง ว่าแต่ละเบอร์มีการติดต่อกับใครบ้าง นอกจากนี้ยังตรวจสอบประวัติของนายอรุณ พบว่าเจ้าตัวเคยต้องโทษคดียาเสพติดในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557 จากนั้นในปี 2559 พ้นโทษออกมา แต่ศาล จ.นครศรีธรรมราช ให้รายงานตัวต่อ จนท.คุมประพฤติ กระทั่งปี 2560 นายอรุณ ไม่มารายงานตัวตามคำสั่งศาล เบื้องต้นตำรวจยังไม่ยืนยันว่าศพที่พบ ถูกฆาตกรรมมาจากพื้นที่อื่นหรือไม่ โดยตั้งปมการตายไว้ว่าอาจจะมาจากอุบัติเหตุจากกลุ่มคนที่ไปล่าสัตว์ในป่าที่พบศพ รวมถึงผู้ตายอาจจะมาประสบอุบัติเหตุเอง อย่างไรก็ตามยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง.