ลูกชายวัย 35 ปี เมาแล้วอาละวาดถีบประตูบ้านพัง ทำลายข้าวของ พยายามเข้าไปทำร้ายแม่ตัวเอง เสี่ยรับซื้อเศษยางคนเป็นพ่อเลี้ยงมาเห็นเข้า คว้าปืนขู่ก็แล้วไม่ยอมหยุด ตัดสินใจลั่นไกไป 1 นัด ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 6 ส.ค.2563 ร.ต.ท.(หญิง) สิริกานต์ รังคะวงษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกระบี่ รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่ รพ.กระบี่ ว่ามีคนถูกยิงมารักษาตัวแล้วเสียชีวิต หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.ณรงค์ ลักษณะวิมล ผกก.สภ.เมืองกระบี่ พ.ต.ท.สัญญา ธรรมรัตน์ สว.สส.สภ.เมืองกระบี่ ตำรวจชุดสืบสวน รุดไปตรวจสอบ
ที่ห้องฉุกเฉิน รพ.กระบี่ พบคนถูกยิงคือนายบุญรักษ์ กัณหกุล อายุ 35 ปี อาชีพรับจ้างตัดปาล์ม อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 5 ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่ มีบาดแผลถูงยิงด้วยกระสุนปืนเข้าบริเวณเอวด้านขวา 1 นัด เสียชีวิตเพราะมีอาการเลือดตกใน ที่หน้าห้องฉุกเฉิน พบผู้ก่อเหตุนั่งรอมอบตัวกับตำรวจ ทราบชื่อคือนายทวีศักดิ์ ชัยวิเศษ อายุ 46 ปี อาชีพรับซื้อเศษยาง เป็นพ่อเลี้ยงของผู้ตาย โดยมีนางเรณู สุขกุล อายุ 50 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ และเป็นแม่แท้ๆ ของผู้ตายนั่งร้องอยู่ด้วยอาการโศกเศร้า
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 251 หมู่ 5 บ้านตลิ่งชัน ต.ทับปริก ซึ่งเป็นบ้านของนางเรณู ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนยาวแบบไทยประดิษฐ์ ยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 1 นัด โดยหลังก่อเหตุนำอาวุธปืนไปทิ้งลงในคลองหลังบ้าน ตำรวจจึงคุมตัวนายทวีศักดิ์ แจ้งข้อหาฆ่าคนตายดำเนินคดีตามกฎหมาย
...
ต่อมา ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบบ้านเกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ข้างบ้านเป็นลานรับซื้อเศษยาง ที่หน้าบ้านพบประตูบ้านเป็นไม้พังกองอยู่บนพื้น ภายในบ้านเป็นห้องโถง มีรอยหยดเลือดอยู่ ทราบว่าเป็นจุดที่เกิดเหตุยิงกัน ส่วนหลังบ้านพบประตูไม้พังล้มอยู่เช่นกัน ห่างจากบ้านเกิดเหตุไปด้านหลังบ้านประมาณ 20 เมตร เป็นบ้านของผู้ตาย ที่ลานหน้าบ้านพบซากรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย ล้มอยู่ 2 คัน ส่วนจุดที่อาวุธปืนถูกนำไปทิ้ง อยู่ห่างไปทางหลังบ้านอีกประมาณ 300 เมตร เป็นลำคลองขนาดเล็ก ตำรวจพยายามค้นหาอาวุธปืนแต่ยังไม่พบ เนื่องจากกระแสน้ำค่อนข้างไหลเชี่ยว จึงยกเลิกการค้นหา เตรียมเข้ามาค้นหาอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น จากนั้นคุมตัวนายทวีศักดิ์ ไปสอบสวนที่ สภ.เมืองกระบี่
ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ก่อนจะเกิดเหตุ ตนกับผู้ตายซึ่งเป็นลูกเลี้ยง และเพื่อนบ้านอีก 2-3 คน นั่งดื่มเหล้ากันที่ศาลาหน้าบ้านของผู้ตาย กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 22.30 น. ตนก็ขอแยกตัวกลับเข้าบ้านเพื่อจะนอนพัก ต่อมาไม่นานได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากหน้าบ้านของผู้ตาย มาทราบทีหลังว่าผู้ตายมีอาการเมามาก ทะเลาะกับภรรยาผู้ตายเอง ก่อนจะอาละวาดทำลายข้าวของในบ้านตัวเอง และออกมาทำลายรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน ซึ่งเป็นรถของผู้ตาย
ต่อมาก็มาเคาะประตูด้านหลังบ้านของตนเสียงดัง ภรรยาของตนซึ่งเป็นแม่ผู้ตาย ก็เดินไปดูเห็นผู้ตายมีอาการเมาพูดไม่รู้เรื่อง จึงต่อว่าให้กลับไปนอน แต่ผู้ตายไม่พอใจถีบประตูหลังบ้านพัง ก่อนจะเข้ามาในบ้าน อาละวาดทำลายข้าวของ พร้อมทั้งมาถีบประตูหน้าบ้านพังอีก ก่อนจะพยายามเข้าไปทำร้ายแม่ตัวเอง ตนเห็นดังนั้นก็พยายามร้องห้ามแต่ผู้ตายก็ตรงมาชกต่อย และเข้ามาทำร้ายตน ตนเห็นปืนตั้งอยู่ใกล้ๆ จึงหยิบปืนขึ้นมาถือขู่ว่าอย่าเข้ามาทำร้ายตน แต่ผู้ตายไม่ยอมหยุด เดินเข้ามาประชิดและจะทำร้ายตนจึงลั่นไกไป 1 นัด จนผู้ตายล้มลง ตนจึงรีบนำตัวผู้ตายขึ้นรถกระบะ ขับพาไปส่ง รพ. เพราะไม่คิดว่าจะเสียชีวิต ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุ ตนบอกให้หลานชายที่บ้าน นำไปทิ้งลงคลองหลังบ้าน แต่สุดท้ายผู้ตายก็เสียชีวิต จึงตัดสินใจรอมอบตัวกับตำรวจ
ขณะที่ นางเรณู แม่ผู้ตายให้การด้วยว่า ขณะที่สามีของตนเข้ามานอนหลังเลิกจากวงเหล้า ต่อมาไม่นานก็ได้ยินเสียงดังโครมครามมาจากหน้าบ้านของลูกชาย ก็เชื่อว่าน่าจะมีปัญหาทะเลาะกับภรรยาตัวเอง แล้วภรรยาปิดประตูไม่ให้เข้าบ้าน แต่ลูกชายก็ยังอาละวาด ไปถีบประตูบ้านญาติๆ ซึ่งอยู่ใกล้กันอีก 2 หลัง ตนทนดูไม่ได้ก็พยายามจะเข้าไปห้าม จนลูกชายเข้ามาอาละวาดในบ้านถีบประตูบ้านพัง ทำลายข้าวของและจะเข้ามาทำร้ายตน สามีเห็นก็พยายามจะห้ามจนเกิดการต่อสู้ ชกต่อยกัน สามีก็หยิบปืนมาถือขู่แต่ลูกชายก็ยังเข้าไปจะทำร้ายจึงถูกยิงดังกล่าว.