นางวราภรณ์ ภรรยา "บรรยิน" เข้าพบตำรวจกองปราบ เพื่อชี้แจงปมเอี่ยวแผนแหกคุก โดยยืนยันไม่ได้โอนเงินให้ทนายประกันตัวลูกสมุน และไม่รู้จักบุคคลดังกล่าว ส่วนคดีคืบไปมาก จ่อเรียกพยานอีกรายมาสอบ


เมื่อวันที่ 8 ก.ค.63 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ ภรรยาของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าพบ พ.ต.ท.ภิรมย์ เมืองไสย รอง ผกก.1 บก.ป. เพื่อให้ปากคำในฐานะพยานคดีการวางแผนชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน จากเรือนจำ หลังก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้มีการออกหมายเรียกให้มาเข้าพบ เนื่องจากพบว่านางวราภรณ์มีความเกี่ยวข้องกับพยานหลักฐานบางอย่างทางคดี โดยใช้เวลาในการสอบปากคำนานร่วม 3 ชั่วโมงครึ่งจึงแล้วเสร็จ

นางวราภรณ์ กล่าวว่า สำหรับการมาพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ เป็นไปตามหมายเรียกที่พนักงานสอบสวนได้เชิญตัวมา แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะได้ชี้แจงให้พนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว และไม่ได้มีประเด็นใดที่ต้องหนักใจ ทั้งนี้ยืนยันว่า นายวรภัทร์ ตั้งภากรณ์ ลูกชายนั้นไม่ได้เป็นเพื่อนหรือสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัวกับ นายณัฐพล หรือท็อป นรการ อายุ 30 ปี ลูกน้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตามที่มีการกล่าวอ้าง และยืนยันว่าตนเองก็ไม่ได้รู้จัก นายสุธน หรือโจ ทองศิริ ลูกน้อง พ.ต.ท.บรรยิน อีกคน รวมทั้งไม่ได้โอนเงินให้ทนายกรณ์ กันเที่ยง ไปใช้ประกันตัวนายสุธนแต่อย่างใด

ขณะที่ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ออกหมายเรียกให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีมาสอบปากคำเพิ่มเติม 2 ราย โดยรายแรกที่มาเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนี้คือ นางวราภรณ์ ภรรยาของ พ.ต.ท.บรรยิน เนื่องจากตำรวจสงสัยว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการแหกคุกดังกล่าว จึงจำเป็นต้องออกหมายเรียกมาสอบปากคำในประเด็นที่พนักงานสอบสวนสงสัย ส่วนพยานบุคคลอีกรายที่ออกหมายเรียกเช่นเดียวกันนั้นคือ นายณัฐพล หรือท็อป พยานอีกคน ที่เคยถูกคุมขังร่วมกับ พ.ต.ท.บรรยินภายในเรือนจำ ที่รับว่ารู้ถึงแผนการแหกคุกของ พ.ต.ท.บรรยิน เพราะเจ้าตัวเป็นคนพูดโอ้อวดในเรือนจำ โดยจะนำตัวมาสอบสวนในฐานะพยานประกอบคดีถึงความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับแผนของ พ.ต.ท.บรรยิน โดยกำหนดการตามหมายเรียกของนายณัฐพลนั้น พนักงานสอบสวนได้นัดหมายให้มาเข้าพบในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ค.)

...

พ.ต.อ.เอนก กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าในการแจ้งข้อกล่าวหากับ พ.ต.ท.บรรยิน ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าเหลือเพียงเอกสารที่ตำรวจได้ยื่นขอไปยังธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง เพื่อนำมาตรวจสอบเส้นทางการเงินยืนยันถึงแผนการของ พ.ต.ท.บรรยินและผู้เกี่ยวข้อง โดยคาดว่าน่าจะได้ข้อมูลมาภายในสัปดาห์นี้ จากนั้นเมื่อตรวจสอบข้อมูลพยานหลักฐานเสร็จเรียบร้อยแล้วจะนำข้อมูลทั้งหมดไปแจ้งข้อกล่าวหากับ พ.ต.ท.บรรยิน ภายในเรือนจำบางขวาง ในฐานะผู้ใช้ให้ผู้อื่นร่วมแหกคุกชิงตัวในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่พนักงานสอบสวนเรียกตัวนางวราภรณ์มาสอบปากคำ เนื่องจากมีข้อมูลว่า นางวราภรณ์เป็นผู้โอนเงินให้กับนายกรณ์ กันเที่ยง ทนายความที่ประสานประกันตัวนายโจออกมาจากเรือนจำ อีกทั้งนายกรณ์ยังเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกเรียกตัวมาสอบปากคำไปก่อนหน้านี้ ทำให้พนักงานสอบสวนจำเป็นจะต้องสอบปากคำในประเด็นเกี่ยวกับเงินจำนวนดังกล่าวว่าเกี่ยวข้องกับแผนการแหกคุกของสามีหรือไม่ ส่วนการเรียกตัวนายณัฐพลมาสอบปากคำเพื่อซักถามในประเด็นเกี่ยวกับข้อมูลที่ พ.ต.ท.บรรยิน ได้เล่าให้ฟังในระหว่างถูกควบคุมตัวไว้ด้วยกันภายในเรือนจำว่า จะมีแผนการในการแหกคุกหรือชิงตัวอย่างไรบ้าง เพื่อใช้เป็นพยานร่วมกิจกรรม.