อดีตพนักงานกองกษาปณ์ วัย 62 ปี เบิกเงินเหรียญ 1.2 แสน แอบนำออกมาใช้จ่ายส่วนตัว ถูกจับได้ไล่ออก ชดใช้เงินแล้ว แต่ยังมีคคีเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์ ถูกกองปราบบุกจับก่อนหมดอายุความ 26 วัน


วันที่ 29 พ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป) พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป. พร้อมด้วย นายธีรเดช พวงเงิน นักสืบสวนคดีทุจริตชำนาญการ สำนักงาน ป.ป.ช. นำกำลังจับกุม นายศุภชัย หรือ ธนิก สีดาว อายุ 62 ปี ชาว จ.นนทบุรี ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 1350/2549 ลง 22 มี.ค.2549

ข้อหา "เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารกรอกข้อความลงในเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสาร กระทำการปลอมเอกสาร โดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น และกระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำการต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ" โดยจับได้ภายใน ซ.สุชาวดี ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2543 ขณะที่ นายศุภชัย ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานการคลัง สำนักกษาปณ์ กรมธนารักษ์ มีหน้าที่เก็บและดูแลรักษาเหรียญกษาปณ์ ได้เบิกเหรียญจำนวน 120,000 บาท แต่ไม่มีเอกสารขออนุมัติเบิก จากนั้นได้นำเหรียญกษาปณ์ดังกล่าวออกจากสำนักกษาปณ์ จนถูกจับได้ ไล่ออกจากราชการ และให้ชดใช้เงินคืน ต่อมาศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาไว้ กระทั่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาอยู่ในบ้านพักหมู่ที่ 5 ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี จึงนำหมายค้นเข้าตรวจสอบ แต่ผู้ต้องหาไหวตัวทันวิ่งหลบหนีออกจากบ้าน กระทั่งไปจนมุมภายในซอยดังกล่าว

...

อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวจะหมดอายุความในวันที่ 22 มิ.ย.2563 หรืออีก 26 วันเท่านั้น

สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มีหนี้สินมาก จึงได้แอบนำเหรียญไปใช้หนี้ โดยคิดว่าถ้ามีเงินจะนำมาใช้คืน แต่ถูกจับได้และถูกไล่ออกจากราชการ ซึ่งได้ชดใช้เงินจำนวน 120,000 บาทไปแล้ว แต่ยังมีหมายจับติดตัว จึงได้หลบหนีมาขายอาหารตามสั่งได้ประมาณ 2 ปี จนถูกจับกุมดังกล่าว นำตัวส่งอัยการสูงสุดดำเนินการต่อไป.