รองโฆษก ตร.เผย “บิ๊กแป๊ะ” ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นกระบวนการตรวจสอบ แยกแยะ ตำรวจดี-ไม่ดี สั่งฟันไม่เลี้ยงให้ออกจากราชการ หากพบ 3 ตำรวจสืบภาค 8 มีมูลรีดเงินจริง ขณะที่พ่อค้าหอยโร่แจ้งความ 3 ข้อหาหนัก
เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2563 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.ภ.8 เข้าจับกุมชาวประมงพื้นบ้าน และเรียกเงินเป็นการแลกเปลี่ยนกับที่จะไม่ถูกดําเนินคดี ว่า ได้รับรายงานจาก บก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. นายอนุชา บินมูซา ได้มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” ซึ่งในวันนี้ผู้เสียหาย พร้อมพยาน จะเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน และยืนยันตัวผู้ต้องหา โดย พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้มีคำสั่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อเร่งคลี่คลายประเด็นข้อสงสัยให้ความกระจ่างกับสังคมและให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ตลอดจนการดําเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
รองโฆษก ตร. กล่าวต่อว่า ในเรื่องนี้ได้มีการดำเนินการทั้งหมด 2 ส่วน คือ ส่วนของการดำเนินการทางวินัย ซึ่งได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จในเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมเร่งรัดให้รายงานผลภายใน 15 วัน โดยหากพบว่ามีมูล ก็จะมีคำสั่งตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงและหากมีความผิดชัดแจ้ง ก็จะดำเนินการพิจารณาลงโทษทางวินัย หรือมีคำสั่งให้ออกจากราชการ และในส่วนของการดำเนินการทางอาญา ซึ่งผู้เสียหายได้เข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษนั้น ยังอยู่ระหว่างสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ตามฐานความผิดที่กล่าวหา และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากมีความคืบหน้าประการใดจะแจ้งให้ทราบต่อไป
...
สำหรับในเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับความประพฤติ วินัย การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอด อยากให้พี่น้องประชาชน เชื่อมั่นในกระบวนการตรวจสอบ แยกแยะ ตำรวจดี ตำรวจที่ไม่ดี ซึ่งในส่วนตำรวจที่ไม่ดีนั้น ก็จะมีการดำเนินการลงทัณฑ์ทางวินัย และดำเนินคดีทางอาญาอย่างเด็ดขาดอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง และให้เสียขวัญกำลังใจกับตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดี