ตั้งปมขัดแย้งส่วนตัวเรื่องยาเสพติด ธุรกิจสีเทา เหตุคนร้ายยิงหัว 2 หนุ่มดับกลางสวนยางพารา ท้องที่ สภ.เมืองบึงกาฬ อีกรายบาดเจ็บสาหัส กระสุนพุ่งเข้าหน้าท้อง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 เม.ย.2563 ร.ต.อ.รัฐพล เดชนรสิงห์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองบึงกาฬ ได้รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจตำบลโนนสมบูรณ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ว่า มีผู้ถูกยิงเสียชีวิตภายในสวนยางพารา ท้องที่บ้านเหล่าถาวร ม.6 ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จึงรายงานให้ พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ และผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นทราบ ก่อนไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชนินทร์ จิตรแจ้ง ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และหน่วยกู้ภัยนทีธรรม
ที่เกิดเหตุ บริเวณสวนยางพาราของ นายลุน โพธิ์ศรี อายุ 61 ปี ที่อยู่ท้ายหมู่บ้านเหล่าถาวร ราว 3 กิโลเมตร พบศพชายวัยรุ่น 2 คนถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าที่ศีรษะเสียชีวิตอยู่ข้างกระท่อม ใกล้กันพบผู้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงเข้าที่หน้าท้องจำนวน 2 แห่ง นอนร้องโอดครวญอยู่กลางสวนยาง ห่างจากกระท่อมราว 60-80 เมตร หน่วยกู้ภัยฯ จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลบึงกาฬอย่างเร่งด่วน
ต่อมา พ.ต.อ.อนุกูล ดาวลอย รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ, พ.ต.อ.สุกฤษณ์ ข้อร่วมคิด ผกก.สืบสวน ภ.จว.บึงกาฬ พร้อมด้วย พญ.ณัฐนรี รัศมี แพทย์เวรประจำวัน รพ.บึงกาฬ และตำรวจพิสูจน์หลักฐานบึงกาฬ เข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายศักดา หรืออ้น เขาภูเขียว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 374 ม.2 บ.ดอนอุดม ต.โนนสมบูรณ์ อ.เมืองบึงกาฬ เสียชีวิตอยู่ในสภาพนอนหงาย ใส่เสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ สวมรองเท้าผ้าใบสีดำ มีกระเป๋าสีแดงคาดไว้ที่เอว มีรอยกระสุนถูกยิงที่บริเวณขมับเหนือหูซ้าย 1 นัด กระสุนไปตุงอยู่หลังท้ายทอย และที่บริเวณใต้ราวนมขวากระสุนไปตุงอยู่ที่ซี่โครงซ้าย และแขนขวาทะลุมือซ้าย รวม 3 นัด
...
ผู้เสียชีวิตอีกราย คือ นายอุดม หรือเตื่อย โพธิศรี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 355 ม.9 ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ เสียชีวิตอยู่ในสภาพนอนหงายตะแคงขวา ใส่เสื้อแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว สวมร้องเท้าผ้าใบสีน้ำตาล ที่ศีรษะยังสวมหมวกไหมพรมสีแดงดำ และยังมีโคมไฟติดอยู่ที่หัว ภายในมือขวายังกำไฟแช็กไว้แน่น จากการชันสูตรพบรอยกระสุนปืนยิงเข้าที่หน้าผากเหนือคิวขวาจำนวน 1 นัด กระสุนฝังใน จึงร่วมกันเก็บร่องรอยหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนขนาด .380 ออโต้ จำนวน 2 นัด ตกอยู่ใกล้ผู้ตายรายที่ 1 คือนายศักดาฯ และพบกระสุนปืนขนาดเดียวกันอีก 1 นัดที่ยังไม่ได้ยิงตกอยู่ใกล้กับผู้ตายรายที่ 2 จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้บาดเจ็บที่ถูกนำส่งโรงพยาบาล ทราบชื่อต่อมา คือ นายชูพงษ์ หรือทัศ เสาะสมบูรณ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194 ม.10 ต.ซาง อ.เซกา จ.บึงกาฬ อยู่ระหว่างการผ่าตัดของทีมแพทย์ รพ.บึงกาฬ
สอบถามนายลุน โพธิ์ศรี อายุ 61 ปี ผู้เห็นศพคนแรกและเป็นพ่อของนายอุดม เล่าว่า ช่วงค่ำตนได้ให้นายอุดม ลูกชายออกมาเปิดหน้ายางหลังจากปิดกรีดไปนาน และได้กำชับว่าให้แล้วเสร็จก่อนเคอร์ฟิว 4 ทุ่ม โดยลูกชายบอกจะชวนเพื่อนมาช่วยเปิดกรีดยางพาราด้วย พอเช้ามาไม่เห็นลูกกลับบ้านก็เลยออกมาดูที่สวนยาง
“มาถึงมองเห็นรถจักรยานยนต์จอดอยู่ เลยจอดรถลงมาดู เห็นนอนตากแดดอยู่ 2 คน ก็เอะใจทำไมมานอนตากแดด จึงเข้าไปดูใกล้ๆ พบว่ามีเลือดออกปากออกหูคิดว่าตายแล้วจึงรีบแจ้งผู้ใหญ่บ้าน โดยที่ยังไม่รู้ว่ายังมีคนเจ็บนอนอยู่ในสวนยางอีกคน และยังมีรถจักรยานยนต์อีกคันหายไป เป็นรุ่นเวฟ สีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้านทะเบียน ซึ่งไม่นานมานี้มีคนชื่อเปียว ได้มาขอกรีดยางกับลูกชาย กรีดแล้วก็เก็บขายไปครั้งหนึ่งได้เงินพันกว่าบาท ก็แบ่งให้นายเปียว 200 บาทค่ากรีด ซึ่งก็ไม่พอใจมาตบตีกันที่บ้าน ก็มีเรื่องนี้เรื่องเดียว”
ขณะที่ นายเตียง ชัยสิทธิ์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 ม.2 บ.ดอนอุดม เจ้าของที่นา อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุห่างราว 300 เมตร เล่าว่า ตอนเกิดเหตุไม่รู้ช่วงเวลาไหน ตนนอนอยู่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดจนสะดุ้งตื่น ลุกมามันมืดไม่รู้ดังจากแถวไหนก็เลยนอนต่อ “ที่รู้ๆ ก่อนจะเกิดเหตุนั้น ดูเวลาประมาณ 3 ทุ่ม เช้ามาก็ลุกมาหุงข้าวเอาควายออกไปเลี้ยงปกติ มารู้อีกทีเกือบเที่ยงว่ามีเหตุยิงกัน”
ด้าน พ.ต.อ.ชนินทร์ จิตรแจ้ง ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้รวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งกระสุนปืน ปลอกกระสุนขนาด .380 ออโต้ ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ มีการสอบสวนปากคำพ่อแม่และภรรยาผู้ตายแล้ว ในเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากความขัดแย้งส่วนตัวเรื่องยาเสพติด ธุรกิจสีเทา และทะเลาะวิวาท ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนกำลังลงพื้นที่ติดตามคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด.