พม. ตำรวจ ปคม. เร่งตามหา ด.ญ.14 ปี ที่ถูก”ครูพละ”ข่มขืนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก โดยมีการเจรจาจ่าย 3 แสนบาทหวังจบ แต่เด็กยังผวาไม่กล้าไปเรียน เหตุครูพละยังไม่ได้ย้ายออกนอกพื้นที่

วันที่ 5 ธันวาคม 25562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอัญชรินทร์ กลิ่นศิริ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลก กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วย ร.ต.อ.เดชชัย จำปาทอง รองสารวัตรกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจสอบสวนกลาง เดินทางไปพบผู้ปกครองและเด็กที่บ้านพักในตำบลดินทอง หลังมีข่าวเผยแพร่ทางสื่อต่างๆ ว่า มีครูรายหนึ่งโรงเรียนที่ จ.พิษณุโลก ข่มขืนเด็กนักเรียน ด.ญ.น้อย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 ตั้งแต่วันที่ 11 - 15 พ.ย.ที่ผ่านมา รวมแล้วจำนวน 5 ครั้ง

ต่อมาได้มีการย้ายครูดังกล่าวไปช่วยราชการที่ สพป.พิษณุโลก เขต 2 แต่มีกระแสข่าวว่าจะให้ครูคนดังกล่าวกลับมาสอนที่เดิมต่อไป ทำให้ผู้ปกครองเด็กนักเรียนต่างไม่สบายใจ จึงเข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อ สพป.พิษณุโลก เขต 2 ให้พิจารณาย้ายครูคนดังกล่าวออกนอกพื้นที่ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปหาเด็กหญิงผู้เสียหายดังกล่าวที่บ้านพัก แต่ปรากฏว่า บิดาและมารดารวมทั้งตัวเด็กนักเรียนไม่อยู่ที่บ้านพัก ปิดล็อกกุญแจไว้ 

สอบถามตาของเด็กหญิงผู้เสียหาย กล่าวว่า ไม่ทราบว่าลูกและหลานไปไหนกัน และไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น เบื้องต้นคาดว่าบิดาและมารดามีเจตนานำบุตรหลบหนีเจ้าหน้าที่ เพราะก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า ผู้นำท้องที่ได้แจ้งกับบิดาและมารดาของเด็กไว้ว่า จะมีเจ้าหน้าที่จาก พม.มาพบเพื่อสอบถามข้อมูล

ล่าสุด ตำรวจ ปคม.และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลก ได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวัน ร.ต.อ.กล้าณรงค์ จันทรมณี รอง สว.(สอบสวน) สภ.วังทอง ไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากเด็กมีอายุเพียง 14 ปี และต้องอยู่ในความคุ้มครองและเป็นเรื่องที่ยอมความไม่ได้

...

ด้าน หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า การเดินทางมาพบครอบครัวของน้องผู้หญิงที่มีปัญหา ก็เพื่อให้การช่วยเหลือตามภารกิจบ้านพักเด็กและครอบครัว แต่มาถึงพ่อ แม่ พาเด็กหลบหนีไปก่อนที่จะเดินทางถึงบ้าน จึงติดต่อขอข้อมูลจากผู้ใหญ่บ้าน จากนั้นจึงมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สถานีตำรวจภูธรเจ้าของพื้นที่ เพราะเด็กมีอายุเพียง 14 ปี ต้องได้รับความคุ้มครองสวัสดิภาพ และทางบ้านพักเด็กฯ จะมาพบให้ปากคำเมื่อสามารถติดต่อตัวเด็กผู้เสียหายได้พร้อมกับผู้ปกครองและทีมสหวิชาชีพ ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปที่ผู้อำนวยการ สพป.พิษณุโลก เขต 2 แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดราชการ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าวเบื้องต้นได้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยกัน และฝ่ายครูผู้ก่อเหตุยินยอมจ่ายเงิน 3 แสนบาทให้กับผู้ปกครองของเด็กเรียบร้อยแล้ว โดยมีผู้นำท้องที่คนหนึ่งเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย จึงไม่มีการแจ้งความหลังเกิดเหตุ แต่ชาวบ้านทราบข่าวมีปฏิกิริยาแสดงออกว่าอยากให้ทางผู้บริหารของโรงเรียนย้ายครูคนดังกล่าวไปนอกพื้นที่ จนทาง สพป.พิษณุโลก เขต 2 ได้มีคำสั่งให้ครูพละที่ก่อเหตุไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่ฯ แต่เด็กที่ถูกกระทำเกิดความละอาย ไม่กล้าไปเรียนหนังสือ ประกอบกับมีกระแสข่าวว่าครูพละจะกลับมาสอนที่โรงเรียนเดิมอีกในเร็ววันนี้ ก็ยิ่งทำให้ชาวบ้านเกิดความไม่พอใจอย่างยิ่ง เพราะกลัวว่าบุตรหลานของพวกตนจะตกเป็นเหยื่อของครูหื่นคนดังกล่าว

ล่าสุด นายวิเชียร ภักดี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.จ.) พิษณุโลก เขตอำเภอวังทอง และ ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ ได้พาผู้ปกครองและเด็กหญิงนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ถูกครูพละล่วงละเมิดทางเพศ ไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับ นายอุดม สายโท รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2 ขอให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีข้าราชการครูคนดังกล่าวล่วงละเมิดทางเพศเด็กนักเรียนในโรงเรียนที่ตนเองสอนอยู่ และให้ย้ายออกนอกพื้นที่โดยด่วน ก่อนที่มีการเสนอข่าวทางสื่อต่างๆ ส่งผลให้ทาง รมว.พม.และ รมว.ศธ.สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่หาข้อมูลและข้อเท็จจริง เพื่อรายงานให้ทราบโดยด่วนแล้ว.