“กำนันไข่” อดีตกำนันตำบลขุนกระทิง เมืองชุมพร บุกทวงหนี้เกือบ 10 ล้าน จากเจ้าของสวนทุเรียนแต่ถูกบ่ายเบี่ยงหลายครั้ง โมโหเดือดชักปืนรัวยิง 3 ศพ แม่ ลูก และหลานสาวชั้น ม.1 ดับอนาถคาจานข้าว ขณะกำลังจะไปโรงเรียน ส่วนสองพี่น้องชายหญิงวัย 12-15 ปี วิ่งหนีรอดตายหวุดหวิด หลังก่อเหตุมือปืนโร่เข้ามอบตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 9 พ.ย.62 ร.ต.ท.นันทิยา รักดี รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายหลายศพที่บ้านเลขที่ 9/2 หมู่ 7 ตำบลขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภัคพล ทวิชศรี รอง ผบก.ภ.จ.ชุมพร พ.ต.อ.ธานี นากหกวิ ผกก.สส.ภ.จ.ชุมพร พ.ต.ท.ปนินทร โชติ รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ต.ชนะภัย บุญนาค สวป. พร้อมกำลังชุดสายตรวจ สายสืบ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพร

ที่เกิดเหตุเป็นถนนหมู่บ้านสายทุ่งเบี้ยห่างจากถนนเอเชีย 41 ประมาณ 5 กิโลเมตร บ้านหลังเกิดเหตุอยู่ในซอยขุนศรี เป็นบ้านปูนชั้นเดียวหลังใหญ่ ที่หลังคาทำเป็นดาดฟ้า รอบๆ เป็นสวนทุเรียนและกล้วยหอมทอง รวมพื้นที่กว่า 15 ไร่ ตรวจสอบที่หน้าบ้านมีรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีบรอนซ์ ทะเบียน กง 585 ชุมพร จอดอยู่ บริเวณโต๊ะนั่งรับแขกใกล้ประตูเข้าบ้าน พบศพทราบชื่อคือ นางจินดา พรหมทอง อายุ 61 ปี เจ้าของบ้าน สภาพนอนตายอยู่บนโต๊ะนั่งรับแขก มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม.ที่ใบหน้า 3 นัด ส่วนอีกศพอยู่ใกล้ๆ กัน ทราบชื่อคือ นางพรทิพย์ ทองพรหม อายุ 38 ปี เป็นลูกสาวของนางจินดา ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกันที่ใบหน้า 2 นัด

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในห้องครัวภายในบ้านพบศพทราบชื่อคือ ด.ญ.นัยปพร ภูวิชิต อายุ 13 ปี ลูกสาวของนางพรทิพย์ และเป็นหลานของนางจินดา นอนตายอยู่ใต้โต๊ะกินข้าว ถูกยิงด้วยปืนชนิดเดียวกันที่ศีรษะและใบหน้ารวม 5 นัด ส่วนบนโต๊ะมีจานข้าว 3 จานพร้อมกับข้าวลักษณะกำลังนั่งกินกันอยู่ ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนตั้งแต่หน้าบ้านเข้าไปถึงในบ้าน กว่า 10 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

...

นอกจากนั้นยังมีผู้รอดชีวิตอีก 2 คน เป็นเด็กหญิงอายุ 15 ปี และเด็กชายอายุ 12 ปี ทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน และเป็นลูกสาวของนางพรทิพย์ผู้เสียชีวิต ซึ่งวิ่งหนีได้ทันขณะมือปืนไล่ยิงไม่เลือกหน้าออกไปขอความช่วยเหลือจากญาติๆ ในละแวกใกล้เคียง เนื่องจากทั้ง 2 คน ยังเป็นเด็กและอยู่ในอาการตกใจ เจ้าหน้าที่จึงต้องรีบนำตัวออกไปเพื่อสอบปากคำเป็นพยาน

จากการสอบสวนนายอนนต์ ภูวิชิต อายุ อายุ 38 ปี สามีของนางพรทิพย์และเป็นลูกเขยนางจินดาผู้ตาย กล่าวว่า ช่วงเช้าตนได้รีบขับรถออกไปทำงานแถวสี่แยกปฐมพร ส่วนแม่ยายกับภรรยาได้เตรียมหาอาหารให้ลูกๆของตนทั้ง 3 คน ได้กินเพื่อจะไปส่งที่โรงเรียนซึ่งยังเรียนอยู่ชั้น ม.3 ม.1 และ ป.6 โรงเรียนเอกชนในตัวเมืองชุมพร หลังจากตนกำลังขับรถไปที่ทำงานได้ไม่นานลูกสาวคนโตอายุ 15 ปีที่รอดชีวิตกับน้องชายวัย 12 ปี โทรมาบอกตนว่าแม่กับยายและน้องสาวอายุ 13 ปี ได้ถูก “กำนันไข่” อดีตกำนันตำบลขุนกระทิงบุกมายิงตายทั้ง 3 คน แล้ว ส่วนพี่สาวกับน้องชายคนสุดท้องวิ่งหนีตายรอดออกมาได้อย่างหวุดหวิด ตนตกใจมากจึงรีบขับรถมาที่บ้านทันทีก็พบว่าทั้งแม่ยายภรรยาและลูกสาวคนกลางของตนถูกยิงตายอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งมือปืนคนก่อเหตุคือ “กำนันไข่” มีบ้านอยู่ห่างกันประมาณ 3 กิโลเมตร เคยมาที่บ้านบ่อย และเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุก็ได้มาหาแม่ยายตน ส่วนจะพูดคุยกันเรื่องอะไรนั้นตนไม่ทราบ

ด้าน นายสุวพิศ เกตุสถิต ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ตำบลขุนกระทิงกล่าวว่า ผู้ก่อเหตุคือ “กำนันไข่” อดีตกำนันตำบลขุนกระทิง รู้จักสนิทกับตนก่อนเกิดเหตุได้มาปรึกษาพูดคุยกับตนว่า นางจินดาเจ้าของบ้านเป็นหนี้อยู่หลายล้านบาท ได้มาทวงหลายครั้งก็ผัดผ่อนเรื่อยมา ตอนนี้ตนเองกำลังย่ำแย่เดือดร้อนเรื่องเงินไม่รู้จะไปหาที่ไหน ส่วนสาเหตุจะมาจากเรื่องอะไรนั้นตนไม่ทราบ

ด้าน พ.ต.อ.ภัคพล ทวิชศรี รอง ผบก.ภ.จ.ชุมพร กล่าวว่าหลังเกิดเหตุได้ไม่นานตอนนี้ “กำนันไข่” หรือ นายสุนันท์ รามดง อายุ 65 ปี อดีตกำนัน อยู่บ้านเลขที่ 26/1 หมู่ 7 ตำบลขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร มือปืนที่ก่อเหตุยิง 3 ศพ ได้ขับรถยนต์กระบะไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชุมพรแล้ว พร้อมปืนขนาด 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นได้รับรายงานว่าสาเหตุมาจากปัญหาเรื่องหนี้สินที่ผู้ตายกู้ยืมจาก “กำนันไข่” มือปืน ซึ่งต้องรอผลการสอบสวนผู้ต้องหาอย่างละเอียดถึงสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบสวนของตำรวจหลังผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวทราบว่า นายสุนันท์ รามดง หรือ” กำนันไข่” อดีตกำนันตำบลขุนกระทิง ช่วงเช้าได้เดินทางมาหา นางจินดา พรหมทอง อายุ 61 ปี เจ้าของบ้าน เพื่อมาทวงหนี้ที่กู้ยืมไปลงทุนทำสวนทุเรียนและกล้วยหอมทองจำนวนกว่า 10 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2558 และได้ทยอยจ่ายเป็นเบี้ยหัวแตกมาเรื่อยๆ จนเหลือประมาณ 8 ล้านบาท ซึ่งผู้ตายได้บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา ประกอบกับช่วงหลัง “กำนันไข่” มีความเดือนร้อนเรื่องเงิน และที่ดินซึ่งจำนองไว้ก็กำลังจะถูกยึด จึงมาตามมาทวงหนี้อีก แต่ผู้ตายยังไม่มีให้จนเกิดมีปากเสียงกันขึ้นอย่างรุนแรง จึงชักปืนยิงรัวใส่นางจินดาและนางพรทิพย์ซึ่งกำลังนั่งอยู่ด้วยที่โต๊ะรับแขกหน้าบ้าน เพื่อจะขับรถเก๋งออกไปส่งลูกๆ ทั้ง 3 คนไปโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในตัวเมืองชุมพร

หลังจากรัวยิงทั้ง 2 ศพที่หน้าบ้านแล้ว กำนันไข่ได้ถือปืนวิ่งเข้าไปในบ้านยิง ด.ญ.นัยปพร อายุ 13 ปี ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.1 ที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่จนตายคาจานข้าว ส่วนพี่สาวอายุ 15 ปี เรียนชั้น ม.3 และน้องชายอายุ 12 ปี เรียนชั้น ป.6 กำลังนั่งกินข้าวอยู่ด้วยกันได้วิ่งหนีออกไปทางตูหลังบ้านได้ทัน แล้วไปขอความช่วยเหลือจากญาติในละแวกใกล้เคียง หลังจากก่อเหตุได้ไม่นานกำนันไข่มือปืนได้ขับรถยนต์ไปมอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองชุมพร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนอย่างเคร่งเครียดก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะต้องรอสอบปากคำพยานและญาติฝ่ายผู้ตายด้วย เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.

...