โมโหเลือดขึ้นหน้า สามีสุดที่รักบอกเลิก มาตามก็แล้ว ยังไม่ยอมใจอ่อนกลับบ้าน สาวนครนายกวัย 47 ปี เลือกกระโดดถีบจยย.ล้มไม่เป็นท่า แล้วขับรถกระบะพุ่งชนดะ ทั้งต้นไม้และโรงเก็บขยะ

เมื่อวันที่ 9 พ.ย.62 ร.ต.ท.ธีรพล บัวผัน รองสว.(สอบสวน) สภ.บ้านนา ได้รับแจ้งเหตุมีรถกระบะชนเสาไฟฟ้าส่องสว่างบนถนนสายบ้านนา-กะอาง หมู่ 1 บ้านตาอิน ต.ศรีกะอาง อ.บ้านนา จ.นครนายก จึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพ อบต.ศรีกะอาง รีบไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ผจ 1767 นครศรีธรรมราช สภาพหน้ารถพังเสียหายจอดติดเสาไฟฟ้าส่องสว่าง ตรวจสอบเสาไฟไม่มีร่องรอยถูกเฉี่ยวชน ส่วนคนขับทราบชื่อต่อมาคืน นางอ้วน (นามสมมติ) อายุ 47 ปี เป็นชาว จ.นครนายก ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

สอบถามนายสุพงศ์ชัย สุดจิตร หรือเก่ง อายุ 35 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช เล่าว่า มาอยู่กินกับนางอ้วน ซึ่งเป็นภรรยาได้ประมาณ 3 ปีเศษ จดทะเบียนสมรสกัน ตนมีอาชีพรับจ้างเป็นวิทยากรสอนผู้ที่ชื่นชอบผจญภัย ใกล้ชิดกับบุคคลทั่วไปมีทั้งผู้ชายและผู้หญิง ส่วนภรรยาเป็นคนคอยถ่ายรูปช่วยงาน ซึ่งเกิดความหึงหวงและมีปากเสียงกันอยู่เป็นประจำ เวลาหลับนอนก็พยายามจะดึงกระชากอวัยวะเพศของตน จนเกิดความหวาดระแวงอยู่ไม่เป็นสุข จึงบอกเลิกขอหย่า แต่ถูกภรรยาข่มขู่ว่า “ยังไงมึงก็ต้องตายไปกับกู” จึงตัดสินใจไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.บ้านนา เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 62

โดยก่อนเกิดเหตุตนออกมาที่ ศูนย์ กศน. ต.ศรีกะอาง อ.บ้านนา นั่งเล่นกีตาร์อยู่ ภรรยาขับรถกระบะมาตามให้ตนกลับบ้าน แต่ตนไม่กลับ เลยบอกไปว่า “ไม่กลับจะไปศาล” ภรรยาเกิดความหุนหันถีบรถจักรยานยนต์ของตนล้มลง แล้วขับรถกระบะพุ่งชนต้นไม้ และโรงเก็บขยะของ กศน. ต.ศรีกะอาง พังเสียหาย ซึ่งก่อสร้างด้วยงบประมาณกว่าสามหมื่นบาทเศษ จากนั้นภรรยาได้ขับรถมาตามถนน โดยขับส่ายไปส่ายมาเพื่อเรียกร้องความสนใจ กระทั่งตนขี่รถจักรยานยนต์ตามมาพบรถกระบะคันดังกล่าวจอดติดอยู่กับเสาไฟข้างทาง

...

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงเรียกนางอ้วน มาเจรจาตกลงชดใช้ค่าเสียหาย และปรับ 400 บาท ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อนปล่อยตัวไป.