จับแล้ว ลูกชาย ร.ต.ต.โรงพักปักธงชัย ใช้ปืนพ่อยิงหัวเด็กปั๊มชาวกัมพูชา เสียชีวิตแบบไม่ทันตั้งตัว สารภาพหมดเปลือกไม่มีทางออก ติดหนี้เพื่อน 4 พัน โดนทวงอย่างหนัก หลังยืมไปจ่ายโต๊ะบอล
ความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนจ่อยิง นายโมโรด อายุ 26 ปี สัญชาติกัมพูชา เด็กปั๊ม เสียชีวิตภายในปั๊มแก๊สแอลพีจี เจเค.แก๊ส ริมถนน 304 ราชสีมา-กบินทร์บุรี เลขที่ 179 ม.8 ต.นกออก อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ขณะกำลังนั่งเล่นมือถือใกล้กับตู้เติมแก๊ส ก่อนที่จะมีคนมาพบศพในเวลา 05.00 น. วันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งแกะรอยจากกล้องวงจรปิด จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา
โดยผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายทศวรรษ หรือ ฟลุ๊ค (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของตำรวจนายหนึ่ง ยศ ร.ต.ต. ตำแหน่ง รอง สว.(ป) สภ.ปักธงชัย ซึ่งเป็นหนุ่มรูปหล่อหน้าตาดี โดยติดตามจับกุมได้ภายในบ้านพักเลขที่ 124/10 หมู่ 7 ต.นกออก อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3-4 กิโลเมตร พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 9 มม. กระสุน 12 นัด กระเป๋าของผู้ตาย รวมทั้งรถจักรยานยนต์ และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ
...
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 ก.ค.62 ที่ สภ.ปักธงชัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เดินทางลงพื้นที่มาร่วมสอบสวนผู้ต้องหาด้วยตนเอง ต่อหน้าทนายของผู้ต้องหาและผู้เป็นแม่ ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุตั้งแต่ขับรถจักรยานยนต์ดูต้นทาง ขี่วนผ่านไปหนึ่งรอบ ก่อนวนมาทางด้านหลังใช้อาวุธปืนยิง โดยที่ผู้ตายไม่ทันได้ตั้งตัวแล้วชิงกระเป๋าเงินหลบหนี
ขณะเดียวกันหลังทำแผนเสร็จ ผู้ต้องหาได้จุดธูปเพื่อขอขมาผู้เสียชีวิตให้อโหสิกรรมให้ โดยอ้างว่าที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ คิดอะไรไม่ออก
พล.ต.ต.วัชรินทร์ เปิดเผยว่า จากการสอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุยิงนายโมโรดจริง เพื่อต้องการชิงเงินสดที่อยู่ในกระเป๋า เนื่องจากเป็นหนี้จากการเล่นพนันฟุตบอล ไปยืมเงินเพื่อนมา 4 พันบาท นำไปใช้หนี้โต๊ะบอล
“ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุช่วงเย็น ถูกเพื่อนทวงเงินอย่างหนัก จนไม่มีทางออก จึงตัดสินใจขโมยอาวุธปืนของพ่อที่เป็นตำรวจที่ซุกไว้บนหัวเตียง โดยขี่รถจักรยานยนต์ไปเรื่อยๆ ตั้งใจจะจี้ชิงเงินเท่านั้น แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้จอดรถพูดคุยกับผู้ตาย จึงเกรงว่าผู้ตายจะจำหน้าได้ จึงตัดสินใจยิงทิ้งก่อนชิงกระเป๋าเงิน ได้เงินไปประมาณ 3 พันกว่าบาท
โดยนำเงินที่ได้มาทั้งหมดรวมกับเงินของตัวเองที่มีอยู่นำไปใช้หนี้เพื่อนทั้งหมด 4 พันบาท แล้วกลับบ้านนำอาวุธปืนไปเก็บไว้ที่หัวเตียงที่เดิม ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนที่จะมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว” เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ชิงทรัพย์ พกพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถามเพื่อนร่วมงาน ทราบอีกว่า นายโมโรด ผู้ตาย นอกจากจะทำงานเข้ากะที่ปั๊มตอนกลางคืนแล้ว ในช่วงเวลากลางวันยังทำโอที ด้วยการไปส่งถังแก๊สเชื้อเพลิงเพื่อหาเงินเพิ่มอีกด้วย โดยทำงานอยู่ที่ปั๊มแก๊สมาได้ประมาณ 5 ปี เป็นคนดี ขยันทำมาหากิน จึงเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนร่วมงาน และทราบมาว่าผู้ตายเพิ่งมีลูกน้อย อายุได้ 7 เดือน ให้ภรรยาเลี้ยงอยู่ที่กัมพูชา โดยเจ้าตัวจะส่งเงินกลับบ้านทุกเดือน และอีกไม่นานมีแผนที่จะลางาน เพื่อเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดไปเยี่ยมภรรยากับลูกน้อย แต่มาถูกฆ่าชิงทรัพย์เสียก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับการช่วยเหลือครอบครัวของนายโมโรด เบื้องต้น น.ส.สมพรทิพย์ นมเกษม เจ้าของปั๊มดังกล่าว จะรับผิดชอบเรื่องการทำศพของนายโมโรดทุกอย่าง พร้อมจะนำเงินไปมอบให้ภรรยาของนายโมโรด จำนวนสองแสนบาท พ่อแม่อีกหนึ่งแสนบาท เพื่อเยียวยาสำหรับการสูญเสียในครั้งนี้ รวมถึงส่งเสียเลี้ยงดูบุตรของนายโมโรด ที่เพิ่งคลอดได้เพียง 7 เดือน ให้เรียนจนจบปริญญาตรีด้วย.