รวบแล้วโจรสาวขี่ จยย. มาคนเดียว วิ่งราวทอง 11 บาทภายในร้าน “ห้างทองภูมิฐาน” ในพื้นที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง สารภาพติดพนันอย่างหนัก หาเงินไปไถ่รถเก๋งที่ถูกไฟแนนซ์ยึด ลั่นทำคนเดียวผัวไม่เกี่ยว
จากกรณีคนร้ายเป็นหญิงอายุ ประมาณ 30 ปี ก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท 1 เส้น และสร้อยข้อมือหนัก 3 บาท 2 เส้น รวม 11 บาท ก่อนขี่รถจักรยานยนต์สีแดง-ดำ หลบหนีไปได้ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ภายในร้าน “ห้างทองภูมิฐาน” ริมถนนสาย 3013 ปลวกแดง-สะพานสี่ ใกล้ซอยมาบยางพร 20 หมู่ 2 ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
หลังเกิดเหตุตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.ปลวกแดง ได้แบ่งกำลังเป็น 2 ชุด ออกติดตามคนร้ายจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งตรวจสอบภาพหญิงสาวคนร้าย ทำให้ทราบว่าหญิงคนร้าย เป็นพนักงานโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอปลวกแดง จากนั้นตำรวจจึงไปดักซุ่มที่บ้านเลขที่ 88 ทับ 501 ตลาดบ่อวิน ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านของคนร้าย คือ นางสาวบุญแตง ชินภูเขียว อายุ 36 ปี แต่เจ้าตัวไม่กลับเข้าบ้าน เนื่องจากหลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน กจ 7011 ชลบุรี ซึ่งในขณะก่อเหตุได้ถอดป้ายทะเบียนออก ไปทำงานในโรงงานตามปกติ
ในขณะที่ชาวโซเชียลได้ช่วยกันแชร์ภาพหญิงคนร้ายที่ก่อเหตุ เพื่อให้สมาชิกช่วยกันติดตามและแจ้งบาะแสให้กับตำรวจ สภ.ปลวกแดง กระทั่งทราบว่า นายสาโรจน์ ผาสุก อายุ 36 ปี เป็นสามีของนางบุญแตง โดยนายสาโรจน์ไม่ทราบว่าภรรยา เป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมตัว นางสาวบุญแตง และนายสาโรจน์ได้แล้ว ขณะเดินทางกลับมาจากอ.บ้านบึง จ.ชลบุรี หลังจากไปรับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมาสด้า 2 สีขาวทะเบียน กว 1669 ระยอง ที่ถูกไฟแนนซ์ยึดไว้ เพราะขาดส่งไป 6 งวด กลับคืนมา โดยนำเงินที่ได้มาจากการขายสร้อยข้อมือ 2 เส้นที่วิ่งราวมา โอนเงินไปให้ไฟแนนซ์ ส่วนสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท ยังเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าที่บ้าน
...
เบื้องต้นนางสาวบุญแตง ให้การยอมรับว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยอ้างว่าเงินที่ได้มาจากการขายทอง นำไปชำระค่างวดรถยนต์ที่ติดค้างกับไฟแนนซ์จนหมดแล้ว พร้อมบอกอีกว่า ตัวเองติดพนันออนไลน์ และถอนเงินเก็บกว่า 1 แสนบาทที่ฝากไว้กับธนาคารออกมาเล่นพนันจนหมดตัว โดยที่นายสาโรจน์ สามีไม่ทราบเรื่อง ทำให้ไม่มีทางออก จึงตัดสินใตก่อเหตุวิ่งราวทองดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายสาโรจน์ ทราบว่าหญิงสาวซึ่งเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวทอง หนัก 11 บาท จากร้านทองภูมิฐาน คือภรรยาตัวเอง ถึงกับตกใจอย่างมาก เนื่องจากตนเองและภรรยามีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง ได้เงินรวมกันประมาณ 4 หมื่นบาท ต่อเดือน.