พิโกไฟแนนซ์หนี้เสียพุ่ง! ผลกระทบจากโควิด-19

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยสถานการณ์การประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เดือน มิ.ย.63 ว่า เริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัวจากเดือน พ.ค.63 ไปในทิศทางบวกทั้งยอดสินเชื่ออนุมัติและจำนวนผู้ยื่นคำขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ เนื่องจากวิกฤติไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ทำให้ประชาชนและภาคธุรกิจอุตสาหกรรมเริ่มกลับมาประกอบธุรกิจได้ตามปกติ ทั้งนี้ เดือน มิ.ย.63 มีผู้ยื่นคำขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์สะสมสุทธิ 1,214 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ค.15 ราย และนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.59 ถึง มิ.ย.63 มีนิติบุคคลยื่นคำขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อทั้งพิโกไฟแนนซ์และพิโกพลัสรวมทั้งสิ้น 1,350 ราย ใน 76 จังหวัด โดยจังหวัดที่มีผู้ยื่นคำขออนุญาตสะสมมากที่สุด 3 อันดับแรก นำโดย นครราชสีมา กรุงเทพมหานคร และขอนแก่น ส่วนจังหวัดอ่างทองไม่มีผู้ยื่นคำขอเลย

ส่วนยอดขอสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ณ สิ้นเดือน พ.ค. 63 มียอดสินเชื่อคงค้างสะสมรวมทั้งสิ้น 113,150 บัญชี คิดเป็นเงิน 2,675 ล้านบาท และมีสินเชื่อค้างชำระเกินกว่า 3 เดือนซึ่งเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) สะสม อยู่ 16,195 บัญชี คิดเป็นเงิน 423.69 ล้านบาท หรือ 15.84% ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสม เพิ่มขึ้นจากสิ้น เม.ย.63 ที่มียอดเอ็นพีแอล อยู่ที่ 15.28% เนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบอาชีพรับจ้างหรือกลุ่มพนักงานโรงงาน ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ลูกหนี้หลายรายมีความสามารถในการชำระหนี้ลดลง

นอกจากนี้ ณ เดือน มิ.ย.63 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จับกุมผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยสูงเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด เพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ค.63 จำนวน 490 รายส่วนผลการจับกุมผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบผิดกฎหมายนับตั้งแต่เดือน ต.ค.59-มิ.ย.63 มีทั้งสิ้น 6,002 ราย.