“สมคิด” จี้คลังเดินหน้า “ชิม ช้อป ใช้” เฟส 2 พุ่งเป้าช่วยปฏิรูปเศรษฐกิจฐานราก “อุตตม” แทงกั๊กรายละเอียด บอกเพียงต้องดูให้ถี่ถ้วน จะมีผู้เข้าร่วมโครงการเฟสใหม่มากกว่า 10 ล้านราย
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้เศรษฐกิจโลกอยู่ในสถานการณ์ไม่ค่อยดี ทุกประเทศได้รับผลกระทบหมด รวมถึงประเทศไทย จึงหารือกับกระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานเศรษฐกิจ การคลัง (สศค.) ธนาคารออมสิน และธนาคาร อาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เร่งออกมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ระยะที่ 2 หรือเฟส 2 ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ (ต.ค.-ธ.ค.) หลังจากเศรษฐกิจไตรมาส 3 และ 2 ที่ผ่านมา มีปัญหาจากการส่งออกไม่ได้ และการเมืองมีการโจมตีกัน
“ปัจจุบันชิมช้อปใช้ได้รับผลการตอบรับที่ดี แม้จะมีจุดอ่อนหรือข้อบกพร่องบ้าง แต่เป็นเรื่องปกติของโครงการใหม่ ได้สั่งให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งประเมินผลว่ามาตรการนี้เกิดผลดีอย่างไรบ้างกับเศรษฐกิจภายในเดือน ต.ค.นี้ ก่อนจะขยายโครงการชิมช็อปใช้ออกไปตลอดไตรมาส 4 จากเดิมสิ้นสุดในวันที่ 30 พ.ย.นี้ โดยจะยึดการท่องเที่ยวเป็นหลักสำคัญ เพราะช่วงไตรมาส 4 ถือว่าเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว และขยายไปถึงเศรษฐกิจฐานรากให้มากขึ้น จึงประสานงานให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน ซึ่งมีร้านค้าชุมชนทั่วประเทศกว่า 100,000 ร้านค้า เข้าร่วมโครงการเพื่อครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวชุมชนมากขึ้น”
“ชิมช้อปใช้เฟส 2 ไม่ใช่แค่มาตรการกระตุ้น แต่เป็นการช่วยปฏิรูปเศรษฐกิจฐานราก ดังนั้นจะต้องให้ความสำคัญกับร้านค้าชุมชน แหล่งท่องเที่ยวชุมชน ส่วนในเรื่องงบประมาณที่จะนำมาใช้นั้นเป็นเรื่องหลังสุด แต่หลักการต้องชัดเจนก่อนว่าทำแล้วเกิดประโยชน์หรือไม่ ก่อนจะตั้งงบประมาณ”
นอกจากนี้ ยังติดตามงานประชารัฐสร้างไทย ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน โดยมีแนวคิดจะปฏิรูปภาคการเกษตรฐานราก ทั้งเรื่องท่องเที่ยว เกษตรแปรรูป วิสาหกิจชุมชน ให้ก้าวไปสู่การค้าออนไลน์ (อีคอมเมิร์ซ) โดยเตรียมนำโครงการประชารัฐสร้างไทย นำร่องในชุมชนภาคเหนือช่วงเดือน พ.ย.นี้ โดยหัวใจสำคัญของการปฏิรูป ต้องมองทิศทางการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้น จะดึงธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มาช่วยสนับสนุนในโครงการบ้านล้านหลังทางภาคเหนือ และให้ธนาคารออมสินช่วยดูแลธนาคารประชาชน นอกจากนี้ ได้ฝากให้กระทรวงการคลังไปดูแนวทางการช่วยเหลือคนชั้นกลางที่กำลังสร้างครอบครัว ว่ารัฐบาลจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง จากก่อนหน้านี้รัฐบาลเน้นดูแลกลุ่มคนจนไปแล้วผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 ต.ค.62 ซึ่งเป็นวันที่ 10 ของการลงทะเบียนมาตรการชิมช้อปใช้ยังมีประชาชนจำนวนมากรอลงทะเบียน โดยเต็ม 1 ล้านราย เมื่อเวลา 03.14 น. โดยขณะนี้ยังไม่เต็ม 10 ล้านราย ดังนั้น จึงลงทะเบียนได้จนถึงวันที่ 15 พ.ย.นี้ หรือจนกว่าจะครบ 10 ล้านราย
ขณะที่นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า กำลังพิจารณาผู้ลงทะเบียน “ชิม ช้อป ใช้” เฟส 2 อยู่ว่าจะเพิ่มหรือคงจำนวนเดิมที่ 10 ล้านราย เพราะมีคนต้องการเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก โดยในเฟส 2 จะเปิดโอกาสให้วิสาหกิจชุมชน ร้านค้ารายย่อย เข้าร่วมโครงการได้มากขึ้น โดยเฉพาะธนาคารออมสิน และ ธอส. ซึ่งมีเครือข่ายร้านค้าชุมชนอยู่กว่า 100,000 ร้านค้า ให้มาเข้าร่วมด้วย ทำให้คาดว่าชิมช้อปใช้ เฟส 2 ที่จะเกิดขึ้นจะมีร้านค้าครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย ทั้งนี้ อาจจะขยายเวลารับลงทะเบียนผู้ประกอบการและร้านค้าอีกครั้ง จากเดิมขยายให้ถึงวันที่ 15 ต.ค.2562 มารอบหนึ่งแล้ว
“เรื่องจำนวนคนลงทะเบียน ชิม ช้อป ใช้ เฟส 2 จะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน ส่วนเรื่องร้านค้านั้นจะต้องเปิดโอกาสให้ร้านค้าในแหล่งท่องเที่ยวเข้ามาสมัครมากขึ้น เพราะรัฐบาลอยากให้คนในพื้นที่ท่องเที่ยวใช้เงินในกระเป๋าเงินช่องที่ 2 ซึ่งจะได้รับเงินคืน 15% ของยอดรวม ไม่เกิน 4,500 บาท ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ปลายปีได้ดี”
ด้านนายนรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้เข้าร่วมโครงการชิม ช้อป ใช้ของรัฐบาล โดยประชาชนทั่วไปสามารถใช้เงิน 1,000 บาท ผ่านแอปเป๋าตังของธนาคารกรุงไทย โดยนำมาใช้จ่ายได้ที่โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ในกรุงเทพฯ 13 สาขา ได้แก่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สาขารัชโยธิน, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัล พระราม 2, เซ็นทรัล พระราม 3, เซ็นทรัล บางนา, แฟชั่น ไอส์แลนด์, โลตัส บางกะปิ, พารากอน ซีนีเพล็กซ์, ไอคอน ซีเน-คอนิค, ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต, เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดา, ซีคอน ซีนีเพล็กซ์, แกรนด์ อีจีวี ซีคอน บางแค และโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ สาขารัชโยธิน นอกจากนี้ ยังสามารถนำมาใช้จ่ายที่บลูโอ ริธึม แอนด์ โบว์ล สาขาในกรุงเทพฯ อีก 5 สาขาโดยสามารถใช้ได้ตั้งแต่ 3 ต.ค.-30 พ.ย.2562.