ส่องแนวโน้ม "ราคาทองคำ" ในปี 63 ไตรมาสแรกอาจพักฐาน ก่อนทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นจนถึงสิ้นปี คาดอาจได้เห็นราคาทองเคลื่อนไหว 20,500 - 23,750 บาท ต่อบาททอง หรืออยู่ในกรอบ 1,430-1,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ
นางสาวทิพย์รัตน์ นันทปรีดาวัฒน์ นักวิเคราะห์กลยุทธ์ทิสโก้ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) เปิดเผยว่า ภาพรวมในปี 2562 พบว่าราคาทองคำโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงมาก โดยหากนับตั้งแต่สิ้นปี 2561 จนถึงวันที่ 17 ธ.ค. 2562 ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นแล้วประมาณ 15% เพราะได้รับปัจจัยบวกจากความกังวลเรื่องสงครามการค้า ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอลงทั่วโลก
สำหรับในปี 2563 เราประเมินว่า ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,430 ถึง 1,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ หรือประมาณ 20,500 - 23,750 บาทต่อบาททอง โดยราคาทองคำจะทำจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 1/2563 ก่อนจะทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นจนถึงสิ้นปี 2563 โดยเรามองว่า ปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มี 4 ประการ ดังนี้
1. ความกังวลเรื่องสงครามการค้าที่จะยังคงมีอยู่ โดย TISCO ESU มองว่า การบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างจีน และสหรัฐฯ หรือ Phase One จะส่งผลดีต่อตลาดเพียงชั่วคราว เนื่องจากการเจรจาในระยะถัดไปเป็นประเด็นอ่อนไหว เกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนความรู้ทางเทคโนโลยีของจีน ซึ่งจะสำเร็จได้ยาก
2. ตลาดจะมีความกังวลเพิ่มขึ้นจากนโยบายของผู้สมัครท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต (Democrat) ซึ่งผู้ท้าชิงจากเดโมแครต ส่วนใหญ่มีนโยบายที่กดดันตลาดหุ้น เช่น การเพิ่มภาษีนิติบุคคล, เพิ่มภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้มีรายได้สูง
พร้อมทั้งเพิ่มภาษีจากรายได้จากการลงทุน (Capital gain tax) โดยตั้งแต่เดือน มี.ค. จะเริ่มเห็นแล้วว่าใครจะมาเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไปแข่งกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในวันที่ 3 พ.ย. 2563
3. TISCO ESU มองว่าความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย (Recession) อาจกลับมา ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจในขณะนี้ยังอ่อนแอ ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยุโรป ญี่ปุ่น ISM ของสหรัฐฯ ล่าสุดยังคงหดตัว ในระยะข้างหน้า เรามองว่าเศรษฐกิจน่าจะยังชะลอตัวอยู่ ทำให้ตลาดกลับมากังวลเรื่องเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง
4. ธนาคารกลางสำคัญๆ ทั้งธนาคารกลางของสหรัฐฯ (Fed), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BoJ) ได้กลับมาระดมซื้อสินทรัพย์ จนยอดสุทธิการเข้าซื้อสินทรัพย์กลับมาเป็นบวกเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2561
โดยในปีที่ผ่านมายอดสุทธิการเข้าซื้อสินทรัพย์ (Net Monthly Changes in Central Banks’ Balance Sheets) ของ 3 ธนาคารกลางได้เพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกับการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนจากทองคำ (%YoY Returns of Gold) ในปี 2563 การเข้าซื้อเฉลี่ย 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือนของธนาคารกลาง ไปจนถึงกลางปีเป็นอย่างน้อย น่าจะหนุนให้ราคาทองคำไม่ลดลงมากไปกว่านี้นัก
"ในช่วงที่ราคาทองคำกำลังพักฐานในขณะนี้ เราจึงแนะนำให้ผู้ที่สนใจซื้อสะสมทองคำในกรอบราคา 1,450-1,480 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ หรือ 20,750 ถึง 21,180 บาทไทยต่อบาททอง"