ห้ามโกงเงินกู้ บิ๊กตู่-เอาจริง

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ห้ามโกงเงินกู้ บิ๊กตู่-เอาจริง

Date Time: 16 เม.ย. 2563 05:33 น.

Summary

  • ครม.ไฟเขียวร่าง พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ ปลัด ก.คลังเผยรอนำทูลเกล้าฯ เริ่มกู้ได้ปลาย เม.ย.-ต้นเดือน พ.ค. กางแผน

Latest

ชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ส่ง Lightnet จับมือ WeLab ฟินเทคฮ่องกง ลงสนามชิงใบอนุญาตฯ Virtual Bank

1 ล้านล้านใช้ 3 ส่วน รักษา-ดูแล-ฟื้นฟู มท.ย้ายผู้ว่าฯภูเก็ต

ครม.ไฟเขียวร่าง พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ ปลัด ก.คลังเผยรอนำทูลเกล้าฯ เริ่มกู้ได้ปลาย เม.ย.-ต้นเดือน พ.ค. กางแผนแบ่ง 3 ก้อน รักษาคนป่วย-ผลิตวัคซีน 4.5 หมื่นล้าน ทุ่ม 5.5 แสนล้านจ่ายเยียวยา และเตรียมฟื้นฟูประเทศอีก 4 แสนล้าน “ประยุทธ์” บ่นอุบเงินยังไม่มีสักบาท แต่หลายคนเอาตัวเลขไปหารแบ่งกันแล้ว ฮึ่มต้องไม่มีทุจริตเด็ดขาด ขอพรรคร่วมรัฐบาลหยุดทำเพื่อการเมืองก่อน กองทัพอากาศยอมเฉือนงบฯ 23เปอร์เซ็นต์ เลื่อนซื้อเครื่องบินไปปีงบฯ 2564 ครม.เด้ง ผวจ.ภูเก็ตไปเพชรบุรี ให้ผู้ว่าฯชัยภูมิเสียบแทน เซ่นแก้ปัญหาโควิดบกพร่อง “ภัคพงศ์” หน้าเครียดบอกทำดีที่สุดแล้ว

จากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ผ่านความเห็นชอบร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) 3 ฉบับ เพื่อระดมงบประมาณมาใช้ในการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ย้ำว่าการใช้จ่ายงบประมาณต้องไม่มี การทุจริตโดยเด็ดขาด พร้อมขอร้องพรรคร่วมรัฐบาลหยุดการกระทำเพื่อการเมืองไว้ก่อน เพราะรัฐบาลต้องดูแลประชาชนทุกคนในประเทศ

“บิ๊กตู่”ขอพรรคร่วม รบ.หยุดการเมือง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 เม.ย. ที่ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เชื่อมสัญญาณไปแต่ละกระทรวง ต่อมา เวลา 13.20 น. นายกฯ กล่าวภายหลังการประชุมว่า วันนี้ต้องขอความร่วมมือกับพรรคร่วมรัฐบาลให้หยุด การทำเพื่อการเมืองไปก่อน วันนี้เป็นเรื่องของการบ้าน การบริหารราชการแผ่นดิน ต้องดูแลพี่น้องประชาชนคนไทย เพราะเราต้องเป็นรัฐบาลของประชาชนทุกคน ในประเทศ ขณะเดียวกันอีกฝ่ายที่กำลังโจมตีอยู่ในขณะนี้ขอให้ฟังเหตุฟังผล บางทีพูดแล้วทำให้คนคล้อยตาม ได้ง่าย ตรงนี้อันตรายอย่างยิ่ง หากมาทำตรงนี้แล้วจะรู้ว่ามันยากแค่ไหน มันเสี่ยงอันตรายแค่ไหน

ย้ำต้องไม่เกิดทุจริตเด็ดขาด

นายกฯกล่าวว่า เรื่องของงบประมาณได้ย้ำแล้ว ต้องไม่มีทุจริตเด็ดขาด เรื่องเงินกู้และการโอนงบฯ อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน ส่วน พ.ร.บ.การปรับ โอนงบประมาณปี 63 ปรับโอนร้อยละ 10 ต้องเข้าสู่ การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ผ่านความคิดเห็นของ ส.ส. และ ส.ว. ต้องใช้เวลาประมาณเดือน มิ.ย. ถึงจะได้เงินก้อนนี้ วงเงินไม่เกินแสนล้านบาท ส่วนที่ การกู้เงินเป็น พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ตรงนี้ยังไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว อยู่ขั้นเตรียมการและกู้เงิน มาเยียวยา รอการประกาศใช้น่าช่วงปลายเดือน เม.ย. หรือเดือน พ.ค.จึงต้องขอชี้แจงว่าถึงวันนี้ยังไม่มีเงินเลย มีเพียงตัวเลขเท่านั้น

บ่นเงินยังไม่มีสักบาทหารแบ่งกันแล้ว

“หลายคนนำตัวเลขนี้มาหารแบ่งกันไปเรียบร้อยแล้ว รัฐบาลเพียงแต่ได้ตั้งไว้ว่าจะนำมาทำ อะไรบ้าง วันนี้เราใช้เงินรายจ่ายจากงบฯ กลางปี 63 และบางโครงการที่ยังไม่ดำเนินการก็เอาคืนมาช่วยในช่วงนี้ก่อน มีอยู่ประมาณ 50,000 กว่าล้านบาท และ เงินกู้ทยอยกู้เป็นก้อนๆ ไม่ได้มีเงิน 1 ล้านล้านบาท ในมือครั้งเดียว ส่วน พ.ร.ก. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นการบริหารจัดการด้านการเงินการคลังเพื่อ ไม่ให้เกิดความวุ่นวาย สับสน และไม่น่าเชื่อถือซึ่งจะ ส่งผลต่อตลาดหุ้นและระบบธนาคาร” นายกฯ กล่าว

รอทูลเกล้าฯ ร่าง พ.ร.ก. 3 ฉบับ

นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) 3 ฉบับ ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจสอบแล้ว คือ 1.ร่าง พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท 2.ร่าง พ.ร.ก.ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สามารถออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) 500,000 ล้านบาท 3.ร่าง พ.ร.ก.ให้อำนาจ ธปท.สามารถเข้าไปซื้อตราสารหนี้เอกชนคุณภาพดีที่ครบกำหนดชำระ 400,000 ล้านบาท ขั้นตอนจากนี้ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ก่อนประกาศ ลงในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

ปลาย เม.ย. หรือต้น พ.ค. เริ่มต้นกู้เงิน

นายประสงค์กล่าวอีกว่า เบื้องต้นกระทรวงการคลังมองว่า ตามร่าง พ.ร.ก.ที่ให้กระทรวงการคลังกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท กระบวนการกู้เงินน่าจะเริ่มทำได้ช่วงปลายเดือน เม.ย. หรือต้นเดือน พ.ค.นี้ แต่ไม่ใช่เป็นการกู้ทีเดียวทั้งก้อน 1 ล้านล้านบาท เพื่อมาเยียวยาผู้เดือดร้อน การใช้เงินต้องเป็นขั้นตอน ขณะนี้รัฐบาลจะใช้เงินก้อนแรกจากงบกลางรายการสำรอง ในกรณีฉุกเฉินและจำเป็นปี 2563 และปรับงบฯ บางส่วนมาเป็นงบกลาง พร้อมปรับปรุงแผนงาน ของบฯปี 2564 มาใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ถ้าไม่พอ จึงจะนำเงินกู้ 1 ล้านบาท มาเสริม

แบ่ง 3 ก้อนรักษา–เยียวยา–ฟื้นฟู ปท.

“โดยแยกเป็น 3 ส่วนคือ 1.ใช้เพื่อระบบสาธารณสุข โดยเฉพาะเพื่อดูแลป้องกันรักษาประชาชนทั้งหมด 45,000 ล้านบาท โดยในส่วนนี้ได้รวมเรื่องวัคซีนสำหรับประชาชนทุกคน 60 ล้านคนไว้แล้ว 2.เงินเยียวยา 5,000 บาทสำหรับลูกจ้างรายวัน ผู้ทำงานอิสระ และจะมีกลุ่มอื่นๆ เพิ่มเติมขึ้นมาอีกวงเงิน 555,000 ล้านบาท 3.ภายหลังปลอดจากการระบาดของโควิด-19 แล้วจะต้องมีการฟื้นฟูประเทศใช้วงเงิน 400,000 ล้านบาท ส่วนการช่วยเหลือด้วยการให้เงินเยียวยาเกษตรกรจะต้องรอให้ พ.ร.ก.กู้เงินออกมาก่อน จากนั้นจึงกำหนดหลักเกณฑ์ การช่วยเหลือจะครอบคลุมอย่างไรบ้าง เพราะต้องเป็นเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยตรง เท่าที่เห็นชัดเจนตอนนี้คือเกษตรกรที่ปลูกกล้วยไม้ ที่ส่งออกไม่ได้เป็นต้น” ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าว

ทอ.เสียสละเฉือนงบฯ 23% สู้โควิด

ที่อาคารรณนภากาศ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ.กล่าวว่า ทอ.พิจารณาตัดงบฯปี 2563 ช่วยประชาชนจากผลกระทบโควิด-19 เรียบร้อยแล้ว เราตัดไปประมาณ 23 เปอร์เซ็นต์กว่าๆ เรายินดีสำหรับชีวิตและความปลอดภัยของประชาชน ไม่มีความเสียหายกับ ทอ.ยังรักษาระดับความพร้อมไว้ได้ส่วนหนึ่ง ที่เหลือต้องวางแผนทบทวนเล็กน้อยไม่ใช่เรื่องยาก โดยเลื่อนโครงการงบประมาณไปในปี 2564

เลื่อนซื้อเครื่องบินไปงบฯ ปี 2564

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้งบฯกว่า 23% จะตัดเฉลี่ยออกมาจากการปรับโครงการต่างๆของ ทอ. ที่ระบุไว้ในสมุดปกขาวของ ทอ.ในงบฯปี 63 ได้แก่ โครงการจัดหาเครื่องฝึกทดแทน 12 เครื่อง ผูกพันงบฯ 4 ปี (2563-2566) วงเงิน 5,195 ล้านบาท โครงการจัดหาเครื่องฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้น T-50 (ระยะที่ 4) 2 เครื่อง วงเงิน 2,450 ล้านบาท (ผูกพันงบฯ 2563-2565) โครงการจัดหาเครื่องบินฝึกนักบินลําเลียงขั้นต้น ฝูงฝึกขั้นปลาย 4 เครื่อง วงเงิน 233 ล้านบาท ผูกพันงบฯปี 2563-2564 โครงการพัฒนาและปรับปรุงระบบป้องกันทางอากาศ (ระยะที่ 6) (mid-life Refurbish and upgradex) เรดาร์ป้องกันภัยทางอากาศรุ่น AN/TPS-78 วงเงิน 850 ล้านบาท ผูกพันงบฯปี 63-65 โครงการจัดหาระบบสำรวจภูมิประเทศด้านความมั่นคงด้วยเครื่องบินลาดตระเวนทางอากาศ 3 เครื่อง วงเงิน 400 ล้านบาท ผูกพันงบฯปี 63-65

เรียกสำรองเหล่าแพทย์ 50 นาย

วันเดียวกัน พล.อ.อ. มานัตได้เป็นประธานพิธีเปิดเรียกกำลังพลสำรองเพื่อปฏิบัติราชการของ ทอ. สนับสนุนภารกิจด้านการแพทย์ รับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เรียกกำลังพลสำรองเหล่าทหารแพทย์ ประเภทนายทหารสัญญาบัตร และนายทหารประทวน 50 คน เพื่อมาปฏิบัติราชการระหว่างวันที่ 15-30 เม.ย.63 ฝึกเบื้องต้น 4-5 วัน ซักซ้อมศึกษาเครื่องมือใหม่ๆและเข้าแบ่งเบาภาระหน้าที่ของแพทย์โรงพยาบาลภูมิพล โรงพยาบาลทุ่งสีกันและโรงพยาบาลจันทรุเบกษา ทอ.มีต้นทุนทางเทคโนโลยีพอสมควร เช่น เทอร์โมสแกน หุ่นยนต์ เครื่องช่วยหายใจ หน่วยงานใดหรือโรงพยาบาลใดอยู่ห่างไกลต้องการร้องขอมาได้ทางศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ทอ.หรือกองงานโฆษก ทอ.

ครม.ผ่อนปรนแรงงานต่างด้าวอยู่ต่อ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.เห็นชอบผ่อนปรนการดำเนินการตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 20 ส.ค.62 ให้ทุกหน่วยงานดำเนินการทุกขั้นตอนให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 มิ.ย.63 เป็นวันที่ 30 พ.ย.63 โดยให้แก้ไขเงื่อนเวลาในร่างประกาศกระทรวงมหาดไทยและประกาศกระทรวงแรงงาน ทบทวนระยะเวลาการผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวและผู้ติดตาม อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวได้ต่อไปจนถึงวันที่ 30 พ.ย.63 และใช้บัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าวที่กรมการจัดหางานออกให้และใบอนุญาตทำงานฉบับเดิมไปพลางก่อน และแรงงานต่างด้าวซึ่งนายจ้างหรือผู้รับอนุญาตให้นำคนต่างด้าวมาทำงานได้ยื่นบัญชีรายชื่อความต้องการจ้างต่อกระทรวงแรงงานผ่านเจ้าหน้าที่ หรือผ่านระบบออนไลน์ไว้แล้วภายในวันที่ 31 มี.ค.63 แต่ไม่สามารถดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ได้ ในช่วงที่เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงเป็นแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานต่อไปได้ในกิจการที่ขาดแคลนแรงงาน

ครม.เห็นชอบต่อร่างปฏิญญาอาเซียน

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.มีมติให้ความเห็นชอบต่อร่างปฏิญญาของการประชุมสุดยอดอาเซียน สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีสาระสำคัญแสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันเสริมสร้างความร่วมมือด้านสาธารณสุขควบคุมการแพร่ระบาดและคุ้มครองประชาชน ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างทันท่วงที ดำเนินมาตรการของประเทศสมาชิกด้านการรักษา การวิจัย การพัฒนาวัคซีนและยาต้านไวรัส สนับสนุนบทบาทศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน สนับสนุนการนำเงินกองทุนความร่วมมือต่างๆ รวมทั้งการกำหนดแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังวิกฤติ

เด้ง ผวจ.ภูเก็ต–ชัยภูมิเสียบแทน

เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอให้โยกย้าย 1.นายกอบชัย บุญอรณะ ผวจ.เพชรบุรี เป็น ผวจ.ชัยภูมิ 2.นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผวจ.ภูเก็ต เป็น ผวจ.เพชรบุรี 3.นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผวจ.ชัยภูมิ เป็น ผวจ. ภูเก็ต ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง นอกจากนี้ยังแต่งตั้งนายศรายุธ ทองกูล นักการข่าวเชี่ยวชาญ กลุ่มงานที่ปรึกษา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ เป็นที่ปรึกษาด้านข่าวกรองความมั่นคงและสถาบันหลัก

เซ่นพิษโควิดบกพร่องแก้ปัญหาช้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การโยกย้ายครั้งนี้ เนื่องจากย้ายเพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่ในกรณีการจัดการกับการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่มีการแพร่ระบาดเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ เพราะเกิดความล่าช้าในการดำเนินการ หลังจากที่มีการระบาดของโรคโควิด ยังมีการปล่อยปละละเลยให้สถานที่ท่องเที่ยวทั้งผับ บาร์ชายหาดเปิดเป็นปกติ แก้ไขปัญหาล่าช้า จนมีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง กระทั่งมีคำสั่งปิดเมืองภูเก็ตทั้งหมด ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากประชาชนและสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใหญ่ในรัฐบาล

“ภัคพงศ์” เครียดยันทำดีที่สุดแล้ว

ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผวจ.ภูเก็ต ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดหลังมีคำสั่งย้ายไปเป็น ผวจ.เพชรบุรีว่า ก็แล้วแต่ผู้บังคับบัญชา ตนมีหน้าที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตามหน้าที่เท่านั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า การย้ายระหว่างสู้กับปัญหาโควิด ทีมหรือผู้ใต้บังคับบัญชาจะเสียขวัญหรือไม่ นายภัคพงศ์ตอบว่า ทีมงานเราเข้มแข็ง อย่าไปยึดติดกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เราทำงานกันเป็นทีม

“อนุทิน” สั่งปลดผู้ช่วย ส.ส.ตำหนิ ปชช.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีผู้ช่วย ส.ส. สังกัดพรรคภูมิใจไทย แสดงความคิดเห็นตำหนิประชาชน ที่ไปขอความช่วยเหลือที่กระทรวงการคลัง ว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขอโทษต่อประชาชนทุกคน ที่ผู้ปฏิบัติงานของพรรคได้แสดงความเห็นดังกล่าว และได้สั่งการให้ ส.ส.ปลดว่าที่ ร.ต.บุญเกื้อ ปุสสเทโว ผู้ช่วยนายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน ส.ส.กาญจนบุรี พรรคภูมิใจไทย ออกจากการเป็นผู้ช่วยดำเนินงาน ส.ส. ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และ ให้ ส.ส. แถลงข่าวขอโทษประชาชนด้วย เพราะคนที่มีแนวคิดเช่นนี้ มีพฤติกรรมเช่นนี้ ไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้ปฏิบัติงานทางการเมือง และไม่เหมาะสมที่จะเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยด้วย ในขณะที่ประชาชนมีความเดือดร้อน เราต้องช่วยกันแก้ปัญหา เยียวยาความเดือดร้อนให้ประชาชน ไม่ใช่ไปตำหนิประชาชน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ทุกคนในพรรค กำลังช่วยเหลือประชาชน แต่มีคนมาทำให้พรรคเสื่อมเสียแบบนี้ ต้องลงโทษเด็ดขาด ในนามหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขอเป็นตัวแทนสมาชิกพรรคทุกคน ขอโทษประชาชน

“ยศวัฒน์” ไลฟ์เฟซบุ๊กกราบขอโทษ

เมื่อเวลา 10.10 น.นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน ส.ส.กาญจนบุรี พรรคภูมิใจไทย ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุ “ต้องกราบขอโทษพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกๆคน ในความผิดพลาดของผม ซึ่งมีผู้ช่วย ส.ส.ที่ได้โพสต์แสดงความเห็นส่วนตัว เป็นสิ่งที่ขัดกับการทำงานของผม และขัดกับการทำงานของพรรคภูมิใจไทย ต้องขอปลด ว่าที่ร้อยตรีบุญเกื้อออกจากการเป็นผู้ช่วยดำเนินการของผม ได้แจ้งไปยังรัฐสภาไปแล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป หากมีสิ่งใดที่ติดขัดหรือว่าข้องใจอยากจะคุยกับผมได้โดยตรงทุกช่องทาง ไม่ว่า facebook หรือทางโทรศัพท์ สิ่งที่ผิดพลาดไปขอน้อมรับผิด ขอนำไปปรับปรุง พิจารณาบุคคลที่จะมาเป็นทีมงาน ต้องกราบขอประทานอภัยพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกๆคนอีกครั้งหนึ่งจากหัวใจ กราบขออภัยครับ”

“องอาจ” โวยคนจนเมืองตกสำรวจ

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จาก การที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนพบว่า คนจนเมืองตามชุมชนแออัดในเขตเมืองเป็นคนอีกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เป็นคนหาเช้ากินค่ำ มีรายได้เป็นรายวัน บางคนเป็นรายชั่วโมงหรือมีรายได้เป็นครั้งคราวถ้ามีคนจ้าง ส่วนมากเป็นกลุ่มคนรับจ้างใช้แรงงาน เช่น คนเสิร์ฟอาหาร คนล้างจานตามรถเข็นขายอาหารข้างทาง ซึ่งมักเช่าห้องเช่าราคาถูกอยู่รวมกันหลายคน ไม่สามารถเข้าถึงการช่วยเหลือเยียวยาเดือนละ 5,000 บาท จากโครงการเราไม่ทิ้งกัน ไม่มีความพร้อม ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ รัฐบาลจึงควรหามาตรการและวิธีการที่จะช่วยเหลือเยียวยาคนจนเมืองตามชุมชนแออัดต่างๆในเมืองให้เร็วที่สุด

วอนสั่งผู้ว่าฯ–อปท.เร่งช่วยด่วน

“วิธีการที่จะช่วยเหลือเยียวยาคนจนเมืองให้ได้ผลจริง รัฐบาลควรมอบหมายให้ผู้ว่าฯทำงานร่วมกับท้องถิ่น เช่น เทศบาลต่างๆ กทม.มอบให้ผู้ว่าฯกทม.สำรวจชุมชนแออัดมีใครเข้าข่ายเยียวยา อาจจัดถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้งให้เพียงพอยังชีพ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย งบประมาณขอการสนับสนุนจากรัฐบาลได้ ขอฝากให้รัฐบาลอย่าลืมคนจนเมืองตามชุมชนแออัดใน กทม. และเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศ” นายองอาจกล่าว

“เทพไท” สอนมวยโฆษก พปชร.

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการ รมว.คลังและโฆษกพรรคพลังประชารัฐ พาดพิงการแสดงความเห็นโครงการเราไม่ทิ้งกันว่า ไม่เข้าใจทำไมจึงฟาดงวงฟาดงา เสียดสีเหน็บแนม ตนพูดปัญหาปากท้องและความเดือดร้อนของประชาชน เป็น ส.ส.ต้องเป็นกระบอกเสียงทำงานให้คุ้มภาษีประชาชน ต่างกับนายธนกรใช้สถานะ โฆษกพรรคและเลขานุการรัฐมนตรีแกว่งปากหาศัตรูให้รัฐบาลทุกวัน โครงการเราไม่ทิ้งกันมีข้อบกพร่องหรือจุดอ่อนหลายจุด ไม่สามารถให้ความเป็นธรรมประชาชนได้ ถูกตัดสิทธิจำนวนมากทั้งที่มีคุณสมบัติครบถ้วน รัฐบาลควรจะรับฟัง นำไปแก้ไขมากกว่าออกมาพูดจาเสียดสีโจมตีหรือดิสเครดิตทางการเมือง แม้แต่ในพรรคพลังประชารัฐยังเห็นไม่ตรงกันด้วยซ้ำ พรรคร่วมรัฐบาลเสนอแนะได้ อยากให้คนอยากเป็น ส.ส.ตัวสั่น เข้าใจหัวอกคนจนบ้าง

“ธนกร” สวนไม่รู้จักมารยาทการเมือง

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงมาตรการเยียวยา 5,000 บาท ทนไม่ได้กับพฤติกรรมนายเทพไท เป็น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล แต่วิพากษ์วิจารณ์ตำหนิรัฐบาลแทบทุกวันหลายเดือนที่ผ่านมา ไม่เข้าใจมารยาททาง การเมืองของพรรคร่วมรัฐบาล ยังคงตำหนิรัฐบาลตลอดเวลา ชี้แจงด้วยถ้อยคำสุภาพแต่กลับถูกนายเทพไทดูถูกดูแคลน ไม่เป็นไรเป็นลูกชาวบ้านรับได้ เชื่อว่าคนนครศรีธรรมราชทราบดีว่านายเทพไทเป็นอย่างไร วันนี้รัฐบาลรับฟังคำแนะนำจากทุกฝ่าย จึงไม่มีเวลาจะไปตอบโต้อะไร ตนทำงานทุกวัน ไม่ได้นั่งบนหอคอยงาช้าง ไม่ได้อยากเป็น ส.ส.จนตัวสั่น ที่ผ่านมาไม่เคยแม้แต่จะส่งพี่น้องลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่นแย่งกับใครให้พรรคต้องปวดหัว ถ้าหากเป็น ส.ส.แล้วต้องแลกกับการสร้างความวุ่นวายให้พรรค ขอไม่เป็นจะดีกว่า

พท.ซัด รบ.ยอดแย่บริหารจัดการเหลว

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาทว่า ได้รับการร้องทุกข์จากประชาชนว่ารัฐบาลจ่ายเงินล่าช้ามาก เขาเดือดร้อนจริงๆ การคัดกรองอาชีพ สร้างปัญหามากมาย พิสูจน์ให้เห็นว่ารัฐบาลบริหารจัดการล้มเหลว แถม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ยังบอกมีเงินจ่ายแค่เดือนเดียว ต้องรอเงินกู้จาก พ.ร.ก.เงินกู้ก่อน ยิ่งแสดงให้รู้ชัดเจนว่ารัฐบาลนี้บริหารงานยอดแย่ ไม่เตรียมการอะไรเลย เพิ่งจ่ายเงินไปแค่ 2.5 ล้านคนกว่า 20,000 ล้านบอกเงินหมด ไม่ให้บอกว่าแย่แล้วจะให้ใช้คำไหน พรรคเพื่อไทยเสนอแต่แรกให้รีบโอนงบฯ ปี 63 แต่แรก ให้ตัดงบฯไม่จำเป็น แต่จนวันนี้สำนักงบประมาณยังหาตัวเลขไม่จบว่าจะตัดใครบ้าง อยากให้รัฐบาลเร่งรัดทุกเรื่องเกี่ยวกับเงินช่วยเหลือประชาชน อย่าคิดเล็กคิดน้อย นายกฯต้องกล้าตัดสินใจโดยเร็วดึกดื่นอย่างไรต้องประชุมพิจารณาเรื่องเดือดร้อนประชาชน อย่ารอแต่ประชุมคณะรัฐมนตรี มันจะเข้าตำรากว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้

เผย “ทักษิณ” ให้เงิน ส.ส.แจกแอลกอฮอล์

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเหตุการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ห่วงใยคนไทยทุกคน เกิดปัญหาหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ล้างมือขาดแคลน จึงได้มอบเงินจำนวนหนึ่งช่วยเหลือประชาชนผ่าน ส.ส.พรรคเพื่อไทยทั่วประเทศ ให้นำไปจัดหาแอลกอฮอล์แจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ พื้นที่ละ 100-200 ขวด แต่ภาคอีสาน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคและตน ร่วมสมทบนำแอลกอฮอล์ไปแจกจ่ายพี่น้องชาวอีสานเพิ่มเติม ทยอยแจกแล้ว 3 จังหวัดคือ จ.อุบลราชธานี ยโสธร และอำนาจเจริญ จังหวัดละ 15,000 ขวด ภาคอีสานขาดแคลนแอลกอฮอล์อย่างมาก มีจำหน่ายก็แพงมาก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แอลกอฮอล์ 75% ที่แจกให้ประชาชนบรรจุขวดใส มีภาพนายทักษิณระบุข้อความว่า “เป็นห่วงพี่น้องชาวไทย จากใจ ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ คนที่ 23”

“เด็กเสรีฯ” บี้ลากไส้แก๊งกักตุนแมสก์

น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่ตำรวจพยายามดำเนินคดีกับเพจแหม่มโพธิ์ดำ ข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จากกรณีเปิดโปงขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย เพจดังกล่าวทำให้สังคมรับรู้ถึงขบวนการที่ทำให้หน้ากากอนามัยหายไปจากท้องตลาด สวนทางกับรัฐบาลที่ยืนยันมาตลอดว่ามีเพียงพอ เชื่อว่าการทำหน้าที่ของเพจแหม่มโพธิ์ดำไม่มีเรื่องผลประโยชน์แอบแฝง ไม่มีเจตนาร้ายต่อรัฐบาล แต่ทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ส่วนรวมในฐานะประชาชนที่พอทำได้ หากตำรวจยังมีคุณธรรมในใจไม่ควรเอาผิดคนที่กล้าเปิดเผยความจริงเพื่อปกป้องผลประโยชน์สาธารณะ ไม่ควรทำให้สังคมคิดว่า มีการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือปิดปากประชาชน ขณะนี้ สังคมข้องใจท่าทีตำรวจที่ไม่เน้นตั้งข้อหากักตุนหน้ากากกับบุคคลที่ปรากฏในคลิปภาพที่ถูกเปิดเผย ส่วนตัวยังเชื่อมั่นว่าตำรวจจะไม่ทำงานสวนความรู้สึกประชาชน และทำหน้าที่ได้อย่างอิสระ ไม่ถูกใครชี้นำ อยากเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยความจริงเรื่องนี้โดยเร็ว หากไม่มีคลิปภาพจากเพจแหม่มโพธิ์ดำ สังคมจะไม่ได้รับรู้เรื่องขบวนการกักตุนหน้ากาก ดังนั้นสังคมต้องช่วยกันปกป้องเพจดังกล่าว ไม่ให้ถูกดำเนินคดีทั้งที่ทำเพื่อสังคม

“ชวน” หายไข้ออก รพ.กลับบ้านได้

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลรามาธิบดี จากอาการไข้จากทางเดินท่อน้ำดีอักเสบ ตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. ขณะนี้หายป่วยแล้ว และคณะแพทย์อนุญาตให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้ จึงออกจากโรงพยาบาล เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น.วันนี้ ซึ่งก่อนเดินทางกลับได้มอบของที่ระลึกขอบคุณทีมแพทย์และพยาบาลที่ดูแล ยังได้เดินทักทายประชาชนที่โรงพยาบาล มีประชาชนขอถ่ายรูปด้วย

ด้านนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า นายชวนหายป่วยแล้ว หน้าตาสดใสและกลับมาแข็งแรง จึงได้กลับไปพักผ่อนที่บ้านในวันนี้จากนั้นในวันพรุ่งนี้ (16 เม.ย.) ก็พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ตามปกติ และจะเดินทางไปทำงานที่รัฐสภา เนื่องจากขณะนี้ยังมีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 พร้อมกันนี้ นายชวนได้ฝากขอบคุณประชาชนและทุกฝ่ายที่แสดงความห่วงใยมาด้วย

“พิเชษฐ” แนะประชุมรัฐสภาออนไลน์

นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธรรมไทย กล่าวว่าปลายเดือน พ.ค.จะเปิดประชุมรัฐสภาสมัยสามัญแล้ว มีร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 2564 จ่อพิจารณาอยู่ ขอให้ประธานสภาหารือผู้เกี่ยวข้องว่า ถ้าสถานการณ์ไวรัสโควิดยังไม่คลี่คลาย ควรเตรียมประชุมผ่านออนไลน์ เพื่อให้กลไกรัฐสภาเดินหน้าไปได้ ที่สำคัญต้องมีการรื้อร่าง พ.ร.บ.งบฯใหม่หมด ใช้กรอบแนวคิดแบบเดิมๆไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะบริบทการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ถูกบังคับให้เปลี่ยนโฉมหน้าไปทั้งหมด กรอบการใช้งบฯต้องสอดคล้องและรองรับการเปลี่ยนไปของมิติต่างๆ

หนุนแจกแท็บเล็ตโดดเข้ายุค 5 จี

นายพิเชษฐกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีหลายฝ่ายคัดค้าน รมว.ศึกษาธิการ แจกแท็บเล็ตให้นักเรียน ขอให้เดินหน้าเพื่อรองรับสถานการณ์นี้ โควิดไม่จบช่วงเปิดเทอม เปิดเรียนผ่านออนไลน์ได้ ไม่ต้องห่วงบุตรหลานเข้าถึงสื่อไม่เหมาะสม มีเทคโนโลยีให้ผู้ปกครองตั้งระบบควบคุมได้ ทั้ง 2 กรณีหากวางระบบรองรับไว้ให้เรียบร้อย เราจะเป็นประเทศแรกๆเดินเข้าสู่ยุค 5 จีเต็มตัวตามยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ