ทยอยเปิดประเทศ ทำส่งออกรถไทยยอดพุ่ง ตั้งเป้าผลิตปีนี้ 1.5 ล้านคัน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา มีทั้งสิ้น 104,506 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือน มี.ค.2563 เฉลี่ย 16.38% และเพิ่มขึ้นจากเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา 31.50% นับเป็นการส่งออกสูงสุดในรอบ 24 เดือน เนื่องจากเศรษฐกิจและยอดขายรถยนต์ของประเทศคู่ค้าเติบโต เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เวียดนาม ฯลฯ ส่งผลให้ 3 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.) ประเทศไทยสามารถส่งออกรถยนต์ 258,108 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.13% มีมูลค่าการส่งออก 143,081 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.05% ซึ่งหากสถานการณ์โควิด-19 ในต่างประเทศมีแนวโน้มที่ดีมีโอกาสลุ้นที่ไทยจะส่งออกรถยนต์มูลค่า 1 ล้านล้านบาทอีกครั้งหนึ่ง

“กลุ่มยานยนต์จะต้องติดตามการแพร่ระบาดโควิด-19 ในต่างประเทศอย่างใกล้ชิดว่าจะกลับมาระบาดรุนแรงอีกหรือไม่ ซึ่งหากแนวโน้มการฉีดวัคซีนของประเทศต่างๆดีขึ้น และปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) ไม่รุนแรง การส่งออกรถยนต์ของประเทศไทยอาจเติบโตเพิ่มขึ้นในปีนี้ จากที่ไทยตั้งเป้าหมายการผลิตรถยนต์ปีนี้ 1.5 ล้านคัน แบ่งเป็นผลิตเพื่อขายในประเทศและส่งออกประเภทละ 750,000 คัน และมั่นใจว่าทำได้ตามเป้า”

สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา มีจำนวน 74,925 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือน มี.ค.2563 ประมาณ 25.47% และเพิ่มขึ้นจากเดือน ก.พ. 26.01% เป็นการเพิ่มขึ้นจากการเร่งส่งมอบรถยนต์ ให้ลูกค้าที่จองในงานมอเตอร์โชว์ที่จัดขึ้น เพื่อใช้เดินทางในช่วงสงกรานต์ที่ปีนี้เดินทางได้ และมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐ เช่น โครงการคนละครึ่ง ราคายางพาราที่ยังดีอยู่ ส่งผลให้รถยนต์นั่ง รถพีพีวี และรถบรรทุกขายเพิ่มขึ้น.