"พิพัฒน์" สั่ง ททท. ประสานคลัง ตรวจสอบพฤติกรรมฉ้อโกงโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" พบธุรกรรมการจองสิทธิ์ผิดปกติ คาดเป็นการร่วมมือระหว่างโรงแรมและผู้ได้รับสิทธิ์
วันที่ 14 ธ.ค. 2563 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการฉ้อโกง "โครงการเราเที่ยวด้วยกัน" ที่รัฐบาลให้เงินสนับสนุนค่าห้องพัก 40% แต่ไม่เกินคืนละ 3,000 บาท ให้ผู้ร่วมรับสิทธิ์ค่าโรงแรมที่พัก 5 ล้านคืน โดยได้รับคนละ 10 คืน ซึ่งเริ่มต้นโครงการมาตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค. 2564 และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ขยายไปถึงวันที่ 30 เม.ย. 2564 และเพิ่มห้องพักให้อีก 1 ล้านห้อง เป็นรวม 6 ล้านห้อง
ขณะที่ล่าสุด ห้องพัก 5 ล้านห้องแรกมีผู้ใช้สิทธิ์จองไปครบ คงเหลือจำนวนศูนย์ห้องแล้ว ทั้งนี้เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมายังเหลือจำนวนห้องพัก 225,922 คืน ตั๋วเครื่องบิน 1.68 ล้านใบ แต่ได้หมดลงในวันที่ 11 ธ.ค.2563 ซึ่งล่าสุด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ประสานกับกระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทย ทำการวิเคราะห์ธุรกรรมในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาและประสานงานกับสมาคมโรงแรมไทย เพื่อหาทางป้องกันการหลอกลวงในอนาคต
ทั้งนี้ การจองที่รวดเร็วเป็นพิเศษอาจได้รับแรงสนับสนุนจากความต้องการออกท่องเที่ยวสูงในช่วงไฮซีซั่น แต่ต้องตรวจสอบธุรกรรมเหล่านั้นเพื่อดูว่ามีการกระทำผิดหรือไม่ ซึ่งรูปแบบการฉ้อโกงพบได้อย่างสม่ำเสมอในแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวหลายรายการที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ และรัฐบาลพยายามมากขึ้นในการหาแนวทางแก้ไขที่เป็นประโยชน์เพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว
ทางด้าน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.จะแถลงข่าวถึงกรณีที่เกิดความร่วมมือฉ้อโกงในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่ ททท. เวลา 8.30 น. วันที่ 15 ธ.ค.2563 ซึ่งการโกงจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากโรงแรมไม่ให้ความร่วมมือกับผู้ที่ได้รับสิทธิ์ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นโรงแรมขนาดเล็ก
อย่างไรก็ตาม ททท.ได้ประสานกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลังและธนาคารกรุงไทย ตรวจสอบธุรกรรมที่ผิดปกติ อย่างไรก็ตาม การฉ้อโกงที่เกิดขึ้นจะถูกแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ส่วนที่ ครม.มีมติเพิ่มห้องพักอีก 1 ล้านห้องนั้นจะต้องดูความพร้อมของระบบก่อน ซึ่งอาจจะยังไม่ใช่วันที่ 16 ธ.ค.นี้.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง