นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวประเทศไทยโดยรวมในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.) ปี 2563 มีรายได้จากการท่องเที่ยวโดยรวม 655,000 ล้านบาท ลดลง 1.57 ล้านล้านบาท หรือ คิดเป็น 70.57% จากช่วงเดียวกันปีของที่ผ่านมา โดยลดลงทั้งจากตลาดต่างประเทศและตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนทำให้มีการระงับการเดินทางกันทั่วโลกแบ่งออกเป็นมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เดินทางมาประเทศไทย 6.69 ล้านคน ลดลง 22.77 ล้านคน คิดเป็น 77.29% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีรายได้เท่ากับ 332,000 ล้านบาท ลดลง 1.10 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 76.77% ของช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนไทยเที่ยวไทย” ในช่วง 9 เดือน ปี 2563 มีจำนวนผู้เดินทางทั้งสิ้น 52.71 ล้านคน-ครั้ง ลดลง 63.57 ล้านคน-ครั้ง หรือคิดเป็น 54.67% จากช่วงเดียวกันของปี ที่ผ่านมาและมีเม็ดเงินที่เกิดขึ้นจากการใช้จ่าย เพื่อการท่องเที่ยว 323,000 ล้านบาท ลดลง 474,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 59.46% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สำหรับอัตราการเข้าพักสถานพักแรม แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องอย่างช้าๆ และการท่องเที่ยวในเมืองรอง (ที่ส่วนใหญ่เป็นเมืองขนาดเล็ก) ฟื้นตัวในอัตราที่สูงกว่าเมืองหลัก โดยอัตราเข้าพักรวมเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาอยู่ที่ 27.93% ของจำนวนห้องพักทั้งหมด ดีขึ้นเรื่อยๆเมื่อย้อนกลับไปเดือน ส.ค.อยู่ที่ 26.93% เดือน ก.ค.25.41% เดือน มิ.ย.13.43% เดือน พ.ค.3.83% และที่ต่ำสุดของปีนี้คือเดือน เม.ย.2.26% ที่เริ่มต้นการล็อกดาวน์ประเทศจากการระบาดของโควิด-19 ขณะที่ช่วงต้นปีที่ยังไม่มีปัญหาการแพร่ระบาดในประเทศ เดือน ม.ค.มีอัตราพัก 77.97% ต่อมา เมื่อเริ่มมีการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ มีการระงับการเดินทางของนักท่องเที่ยว ในเดือน ก.พ.อัตราการเข้าพักเริ่มลดลง เหลือ 58.39% และเดือน มี.ค.20.82% ก่อนไปต่ำสุดในเดือน เม.ย.2563
ด้านท่าอากาศยานภูมิภาคที่มีเที่ยวบินมากที่สุด 5 อันดับแรก กระจายตัวในเกือบทุกภูมิภาค โดยเชียงใหม่มีจำนวนเที่ยวบินสูงเป็น อันดับที่ 1 จำนวน 3,382 เที่ยวบิน รองลงมา ได้แก่ ภูเก็ต 2,160 เที่ยวบิน หาดใหญ่ 2,101 เที่ยวบิน นครศรีธรรมราช 1,584 เที่ยวบิน และ อุดรธานี 1,425 เที่ยวบิน.