ลงทะเบียนเข้าร่วม "คนละครึ่ง" เพื่อรับสิทธิ์เงิน 3,000 บาท ยังเหลือสิทธิ์กว่า 3 ล้านราย พร้อมย้ำประชาชนที่รับสิทธิ์ ต้องเริ่มใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับถัดจากวันที่ได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิ์
จากกรณีโครงการ "คนละครึ่ง" เปิดรับลงทะเบียนของประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันนี้ 16 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 23.00 น. ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับฐานราก สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยโดยเฉพาะกลุ่มหาบเร่ แผงลอย เพื่อให้มีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น โดยภาครัฐร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไปผ่านฝ่ายของผู้ซื้อ 50% โดยไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 3,000 บาท ต่อคนตลอดระยะเวลาโครงการ
ทางด้าน นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงมาตรการคนละครึ่ง ว่า หลังเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2563 ล่าสุดวันที่ 19 ต.ค.63 มีผู้ลงทะเบียนสำเร็จ 5.88 ล้านคน ส่วนร้านค้าเข้าร่วมแล้ว 293,297 ร้านค้าทั่วประเทศ แบ่งเป็นหาบเร่-แผงลอย 79,046 ร้านค้า ร้านที่มีหน้าร้าน 171,367 ร้านค้า และรถเข็น 42,884 ร้านค้า โดยจะขอรอดูการลงทะเบียนอีกระยะหนึ่งก่อน และยังไม่ออกอะไรเพิ่มเติมมาจูงใจให้ประชาชนลงทะเบียนโดยเร็ว น่าจะลงทะเบียนครบ 10 ล้านคนตามที่รัฐกำหนด
สำหรับมาตรการคนละครึ่งและช็อปดีมีคืน เพื่อรับสิทธิ์หักลดหย่อนภาษีไม่เกิน 30,000 บาท ประชาชนสามารถเลือกได้ตามความต้องการ และการที่ประชาชนลงทะเบียนน้อยถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะเศรษฐกิจ เริ่มฟื้น คนมีเงินจับจ่ายใช้สอย ไม่ต้องการให้รัฐช่วยเหลือ ส่วนการชุมนุมทางการเมือง ไม่น่ากระทบกับการใช้จ่าย เพราะทุกคนยังต้องดำเนินชีวิตประจำวันอยู่ และการชุมนุมเกิดขึ้นเพียงในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น
ทั้งนี้ เมื่อผู้ลงทะเบียนยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว จะเริ่มใช้จ่ายกับร้านค้าที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" ได้ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. - 31 ธ.ค.63 ระหว่างเวลา 06.00 น. - 23.00 น. โดยต้องเริ่มใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับถัดจากวันที่ได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิ์ หรือวันที่เปิดให้เริ่มใช้จ่ายตามโครงการ ไม่เช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ์และไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก เช่น ได้รับ SMS วันที่ 16-23 ต.ค.63 ต้องใช้สิทธิ์ภายในวันที่ 5 พ.ย.63 ส่วนวิธีการใช้จ่ายกับร้านค้า ผู้ได้รับสิทธิ์สามารถโอนเงินไปยังแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ได้ตามต้องการ ไม่ต้องโอนครั้งเดียว 3,000 บาทก็ได้ ซึ่งรัฐบาลจะร่วมจ่ายไม่เกิน 3,000 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 21 ตุลาคม 2563 พบว่ามีประชาชนลงทะเบียนร่วมโครงการคนละครึ่งแล้วจำนวนมาก แต่ยังเหลืออีกจำนวนกว่า 3 ล้านสิทธิ์ โดยผู้ที่สนใจยังคงสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมได้.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง