นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเดือน เม.ย.-พ.ค. ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทยแม้แต่คนเดียว หลังจากรัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน วันที่ 26 พ.ค. ส่งผลให้สถานการณ์การท่องเที่ยว 5 เดือนแรกปี 63 (ม.ค.-พ.ค.) มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยจำนวน 6.69 ล้านคน ลดลง 59.97% หรือลดลง 10.02 ล้านคน จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้รวมจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 332,000 ล้านบาท ลดลง 59.57% หรือลดลง 489,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่สถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศ เม.ย.-พ.ค. แทบจะไม่มีการเคลื่อนไหว ไม่มีการเดินทางระหว่างกัน ส่งผลให้ตลอด 5 เดือนแรกของปีคือระหว่างเดือน ม.ค.-พ.ค. จำนวนนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทย มีจำนวน 40.15 ล้านคน ลดลง 58.19% หรือลดลง 55.88 ล้านคน จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้รายได้จากนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยมีประมาณ 191,000 ล้านบาท ลดลง 57.86% หรือลดลง 263,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับปีนี้คาดว่ารายได้จากการท่องเที่ยวรวมจะเป็น 1.23 ล้านล้านบาท ลดลง 60% หรือลดลง 1.78 ล้านล้านบาท จากปี 62 มีรายได้รวม 3.01 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 61 ที่ 2.37% แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 39.79 ล้านคน รายได้ 1.93 ล้านล้านบาท นักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทย 166.84 ล้านคน/ครั้ง รายได้ 1.08 ล้านล้านบาท
ขณะนี้ มีปัจจัยบวกเข้ามาต่อเนื่อง รัฐบาลมีการผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 3 มีการเปิดให้บริการห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านค้า มีการเดินทางระหว่างจังหวัด มีสายการบินเริ่มเปิดให้บริการในประเทศ 6 สายการบิน อาทิ ไทยแอร์เอเชีย 12 เส้นทาง นกแอร์ 10 เส้นทาง ไทยไลอ้อนแอร์ 3 เส้นทาง ไทยเวียตเจ็ทแอร์ 3 เส้นทาง บางกอกแอร์เวย์ส 1 เส้นทาง และรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดให้บริการรวม 84 เส้นทาง
“แม้ในหลายจังหวัดเริ่มผ่อนคลาย ด้านการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว แต่ยังมีปัจจัยลบที่กระทบกับการท่องเที่ยว คือ ประชาชนยังคงกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของโควิด รถไฟ รถโดยสารระหว่างจังหวัดมีการหยุดให้บริการ โดยมี ผู้ใช้บริการแหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่ มากกว่า 80% เป็นคนในพื้นที่”.