“ชิมช้อปใช้” เงินกำลังหมุนไป 8 วันใช้จ่ายสะพัดพันล้าน กรุงเทพฯช้อปสูงสุด

สศค.เผย 8 วันของลงทะเบียน “ชิมช้อปใช้” เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจแล้ว 1,144 ล้านบาท ใช้จ่ายในกรุงเทพฯเยอะสุด 164 ล้านบาท รองลงมาชลบุรี 81 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารกรุงไทย จัดรถบริการเคลื่อนที่ช่วยประชาชนยืนยันตัวตน และติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. เป็นต้นมา ที่ได้เปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิ์มาตรการ “ชิมช้อปใช้” วันละ 1 ล้านราย ซึ่งมีการลงทะเบียนเต็มจำนวน 1 ล้านรายทุกวัน ขณะนี้ยอดลงทะเบียนอยู่ที่ 9.8 ล้านรายแล้ว และเหลืออีก 200,000 ราย จะเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้งในวันที่ 5 ต.ค.นี้ ซึ่งยอดที่เหลือจะเป็นยอดที่ลงทะเบียนไม่ผ่านในแต่ละวัน

ทั้งนี้ การลงทะเบียนชิมช้อปใช้ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก โดยมีการลงทะเบียนครบ 1 ล้านรายในเวลาไม่เกิน 03.00-04.00 น.ของแต่ละวัน โดยวันที่ 4 ต.ค. 2562 ซึ่งเป็นวันที่ 12 ของการลงทะเบียน โดยลงทะเบียนครบ 1 ล้านรายในเวลา 03.52 น. ช้ากว่าวันที่ 3 ต.ค.2562 เล็กน้อยที่เต็ม 1 ล้านราย เวลา 03.14 น. แต่ละวัน

สำหรับการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ลงทะเบียนในช่วง 9 วัน ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.-1 ต.ค. 2562 ได้เสร็จสิ้นแล้ว พบว่าผู้ได้รับสิทธิ์ทั้งหมด 7.14 ล้านราย จากเป้าหมาย 10 ล้านราย วงเงิน 10,000 ล้านบาท ซึ่งผู้ลงทะเบียน 8 วันแรกได้รับข้อความสั้น (SMS) ยืนยันสิทธิ์แล้ว 6.34 ล้านราย โดยมีผู้เข้ายืนยันตัวตนในแอปพลิเคชันเป๋าตังแล้ว 4.97 ล้านราย โดยยืนยันตัวตนสำเร็จกว่า 4 ล้านราย ส่วนอีก 940,000 ราย อยู่ระหว่างการติดตั้งและตรวจสอบข้อมูล และยังไม่ได้ติดตั้งแอปพลิเคชันอีก 1.37 ล้านราย

ทั้งนี้ พบว่าการใช้จ่ายเงินช่วงสัปดาห์แรกของการลงทะเบียนชิมช้อปใช้รวม 8 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.-3 ต.ค.2562 มีผู้ใช้สิทธิ์จำนวน 1.25 ล้านราย ยอดใช้จ่าย 1,144 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินช่อง 1 ซึ่งจะได้รับเงินรายละ 1,000 บาท ประมาณ 1,131 ล้านบาท โดยเป็นการใช้จ่ายที่ร้านช้อป ซึ่งเป็นร้านในกลุ่มโอทอป ร้านวิสาหกิจชุมชน รวมทั้งร้านธงฟ้าประชารัฐ 616 ล้านบาท

ส่วนร้านชิม หรือร้านอาหารและเครื่องดื่มมียอดใช้จ่ายประมาณ 155 ล้านบาท ร้านใช้ เช่น โรงแรม โฮมสเตย์ เป็นต้น มียอดใช้จ่ายประมาณ 16 ล้านบาท และร้านค้าทั่วไป มียอดใช้จ่ายประมาณ 344 ล้านบาท ซึ่งในมูลค่าในยอดร้านค้าทั่วไป เป็นการใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีหลายสาขาประมาณ 261 ล้านบาท หรือ 22% ของยอดใช้จ่ายทั้งหมด

นายลวรณกล่าวต่อว่า สำหรับการใช้จ่ายในกระเป๋าเงินช่องที่ 2 ซึ่งเมื่อเติมเงินแล้วจะได้รับเงินคืน 15% สูงสุดไม่เกิน 4,500 บาทต่อรายนั้น ขณะนี้มีผู้ใช้สิทธิ์แล้ว 4,604 ราย มียอดใช้จ่ายประมาณ 13.1 ล้านบาท หรือเฉลี่ยรายละ 2,845 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 12% ภายใน 2 วัน โดยเป็นการใช้จ่ายที่ร้านช้อป 8.8 ล้านบาท ส่วนร้านชิม และร้านใช้ มียอดใช้จ่าย 2.5 ล้านบาท และ 1.8 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับจังหวัดที่มีการใช้จ่ายมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ 164 ล้านบาท, ชลบุรี 81 ล้านบาท, สมุทรปราการ 54 ล้านบาท, ปทุมธานี 37 ล้านบาท, ระยอง 34 ล้านบาท, พระนครศรีอยุธยา 33 ล้านบาท, ลำพูน 32 ล้านบาท, เชียงใหม่ 30 ล้านบาท, นครปฐม 29 ล้านบาท และนนทบุรี 27 ล้านบาท โดยกลุ่มที่มีการใช้จ่ายมากที่สุดคือ ช่วงอายุ 22-30 ปี สัดส่วน 34% รองลงมาคือช่วงอายุ 31-40 ปี สัดส่วน 28% สำหรับช่วงอายุเกิน 60 ปี สัดส่วน 5%

“ประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมมาตรการชิมช้อปใช้ ยังสามารถลงทะเบียนได้ โดยระบบจะทยอยเปิดให้ลงทะเบียนเพิ่มเติมตามจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนไม่ผ่านในแต่ละวัน ซึ่งจะมียอดกลับเข้ามาในระบบในรอบ 3 วันทำการ โดยสามารถตรวจสอบได้จาก www.ชิมช้อปใช้.com นอกจากนี้ ธนาคารกรุงไทยจะเปิดสาขา 429 แห่ง ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ และจัดให้มีรถเคลื่อนที่เข้าไปในชุมชนเพื่ออำนวยความสะดวกในการยืนยันตัวตนสำหรับการติดตั้งแอปพลิเคชันเป๋าตัง แก่ประชาชนด้วย”.