ผู้สื่อข่าวจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนที่ปัจจุบันคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นคนสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี นอกจากนี้ ยังมีเงื่อนไขเพิ่มเติมที่เพิ่มขึ้นมาในปีนี้คือ ผู้ได้รับสิทธิ์จะต้องมีเงินฝากในธนาคารไม่เกิน 100,000 บาท กรณีเป็นเจ้าของบ้าน จะต้องมีขนาดบ้านไม่เกิน 25 ตารางวา (ตร.ว.) และคอนโดขนาดไม่เกิน 35 ตารางเมตร (ตร.ม.) และมีที่ดินเพื่ออยู่อาศัยเองไม่เกิน 1 ไร่ ส่วนที่ดินเพื่อการเกษตรจะต้องมีไม่เกิน 10 ไร่ ซึ่งกระทรวงการคลังจะตรวจสอบเพื่อยืนยันข้อมูลกับกรมที่ดินก่อนจะให้สิทธิ์
อย่างไรก็ตาม หลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นการพิจารณาคุณสมบัติเป็นแบบรายบุคคลเท่านั้น ดังนั้น หลักเกณฑ์ใหม่ที่เตรียมจะเสนอรัฐบาลใหม่ จะปรับเปลี่ยนเป็นการพิจารณาแบบรายครอบครัวแทน โดยพิจารณารายได้ของครอบครัวนั้นๆ ว่าจะเข้าเกณฑ์ของผู้ที่ได้รับสิทธิ์หรือไม่ ทั้งนี้ การใช้เกณฑ์พิจารณาแบบรายครอบครัว เชื่อว่าจะทำให้สามารถชี้เป้าคนที่สมควรได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีคนที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นจำนวนมาก ที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่เมื่อดูจากฐานะของครอบครัวแล้ว พบว่ามีฐานะดี
นอกจากนี้ หลักเกณฑ์ที่สำคัญที่เพิ่มเติมขึ้นมาในครั้งนี้คือ จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด คณะกรรมการระดับอำเภอ และคณะกรรมการระดับหมู่บ้าน เพื่อเป็นกลไกในการคัดกรองผู้สมควรได้รับบัตรสวัสดิการ หรือผู้ที่ได้รับบัตรอยู่แล้ว แต่ขาดคุณสมบัติ ต้องถูกคัดชื่อออกไป โดยคณะกรรมการดังกล่าว จะเป็นคนที่ใกล้ชิดกับข้อมูลในระดับพื้นที่ ทำให้การคัดกรองคนเข้าและออก มีความแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้น จึงคาดว่าจำนวนคนที่ได้รับบัตรสวัสดิการในรอบใหม่ น่าจะต่ำกว่า 10 ล้านคน จากปัจจุบันที่มีผู้ได้รับบัตรอยู่ 14.5 ล้านคน ทั้งนี้ การมีคณะกรรมการในระดับพื้นที่ช่วยคัดกรองคนที่มีคุณสมบัติได้รับบัตรสวัสดิการนั้น จะทำให้ได้ข้อมูลที่ใกล้ชิดกับพื้นที่มากขึ้น.