ส่วน ‘เจียรวนนท์’ ยังครองอันดับ 1 ต่อด้วยเซ็นทรัล
“ฟอร์บส์ ประเทศไทย” เผยโฉม 50 อภิมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2562 “ตระกูลเจียรวนนท์” ยังครองแชมป์โคตรรวยอันดับ 1 ของประเทศ มูลค่าทรัพย์สินแตะ 941,000 ล้านบาท ตามด้วยเจ้าสัวเซ็นทรัล, เจ้าพ่อกระทิงแดง, เจ้าสัวเจริญ ในอันดับ 2-4 เหมือนเดิม ขณะที่ “สารัชถ์ รัตนาวะดี” ไต่ขึ้นมารวยติดอันดับ 5 ขณะเดียวกัน มีอภิมหาเศรษฐีหน้าใหม่เข้ามา 4 ราย คือ “ชัยวัฒน์-อัยยวัฒน์-ชาติศิริ-ตระกูลมาลีนนท์ “ส่วน “ทักษิณ ชินวัตร” รวยติดอันดับที่ 19 และ “สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ” ติดอันดับที่ 30 กระนั้น มูลค่าทรัพย์สินสุทธิโดยรวมของมหาเศรษฐีในทำเนียบลดลงเล็กน้อยจาก 162,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่ 160,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ค. นิตยสารฟอร์บส์ ไทยแลนด์ ได้ประกาศผ่านเว็บไซต์ forbesthailand ถึงการจัดอันดับ 50 อภิมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2562 พบว่า ตระกูลอภิมหาเศรษฐี 10 อันดับแรกของประเทศไทย ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนั้น คือประกอบด้วย อันดับ 1 ตระกูลเจียรวนนท์ เจ้าของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) (อันดับคงที่) มูลค่าทรัพย์สิน 29,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์เท่ากับ 32 บาท) หรือประมาณ 944,000 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้ว ราว 15,500 ล้านบาท
ส่วนอันดับ 2 ตระกูลจิราธิวัฒน์ เจ้าของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล (อันดับคงที่) มูลค่าทรัพย์สิน 21,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 672,000 ล้านบาท อันดับ 3 นายเฉลิม อยู่วิทยา อายุ 68 ปี เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มกระทิงแดง (อันดับคงที่) มูลค่าทรัพย์สิน 19,900 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 636,800 ล้านบาท อันดับ 4 นายเจริญ สิริวัฒนภักดี อายุ 75 ปี เจ้าของกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ หรือที่รู้จักกันในนามผลิตภัณฑ์เบียร์ช้าง (อันดับคงที่) มีมูลค่าทรัพย์สิน 16,200 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 518,400 ล้านบาท มีมูลค่าทรัพย์สินไม่เปลี่ยนแปลงหรือคงที่
อันดับ 5 นายสารัชถ์ รัตนาวะดี อายุ 53 ปี กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (กัลฟ์) (ขึ้นจากอันดับ 7 จากปีกลาย) มีมูลค่าทรัพย์สิน 5,200 ล้านเหรียญ หรือราว 166,400 ล้านบาท ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจากเดิมอยู่ที่ 57,400 ล้านบาท ทำให้ติดอันดับ 5 เป็นครั้งแรก เนื่องจากราคาหุ้นกัลฟ์ เพิ่มขึ้น 57 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เป็นผลจากโครงการโรงไฟฟ้าใหม่เริ่มดำเนินการ โดยนายสารัชถ์นับเป็นมหาเศรษฐีที่มีรายชื่อปรากฏอยู่ในทำเนียบปีนี้ ที่มีความมั่งคั่งร่ำรวยเพิ่มขึ้นมากที่สุด
อันดับ 6 นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา อายุ 33 ปี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ผู้ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลอดอากร (ติดอันดับใหม่) มูลค่าทรัพย์สิน 4,700 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 150,400 ล้านบาท ถือเป็นบุคคลอายุน้อยที่สุดในทำเนียบ ที่สืบทอดตำแหน่งต่อจากบิดาผู้ล่วงลับ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ทำให้นายอัยยวัฒน์เป็นเศรษฐีหน้าใหม่ที่ติดอันดับ 1ใน 4 ของเศรษฐีหน้าใหม่
อันดับ 7 นายปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ อายุ 86 ปี เจ้าของธุรกิจโรงพยาบาลเครือกรุงเทพดุสิตเวชการ (ขยับอันดับมาจากอันดับ 8) มูลค่าทรัพย์สิน 3,400 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 108,800 ล้านบาท ทรัพย์สินเพิ่มขึ้น ส่วนอันดับ 8 ตระกูลโอสถานุเคราะห์ บริษัท โอสถสภา (มหาชน) (ขยับจากอันดับ 12) มูลค่าทรัพย์สิน 3,000 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 96,000 ล้านบาท โดยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น หลังการนำบริษัท โอสถสภา ผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังอายุ 128 ปี เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเดือน ต.ค.61
อันดับ 9 นายวานิช ไชยวรรณ วัย 87 ปี ประธานกรรมการ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (ขึ้นจากอันดับ 10) มูลค่าทรัพย์สิน 2,850 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 91,200 ล้านบาท มูลค่า ทรัพย์สินลดลงเล็กน้อย และอันดับ 10 นายสมโภชน์ อาหุนัย วัย 51 ปี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรืออีเอ (ขึ้นจากอันดับ 18) มูลค่าทรัพย์สิน 2,830 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 90,560 ล้านบาท
จากการจัดอันดับดังกล่าว พบว่าปีนี้มีมหาเศรษฐีหน้าใหม่เข้ามา 4 ราย ได้แก่ นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา อันดับ 6 มูลค่าทรัพย์สินกว่า 150,000 ล้านบาท นายชัยวัฒน์ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเครือเบทาโกร บริษัทอาหารและอุตสาหกรรมเกษตร อยู่อันดับ 23 มูลค่าทรัพย์สิน 57,400 ล้านบาท, นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ ปรากฏชื่อในทำเนียบเป็นครั้งแรก ที่อันดับ 29 มูลค่าทรัพย์สิน 35,100 ล้านบาท หลังจากที่นายชาตรี โสภณพนิช ผู้เป็นพ่อเสียชีวิตเมื่อเดือน มิ.ย.ปีที่ผ่านมา
ส่วนตระกูลมาลีนนท์ บริษัทบีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) อยู่ในอันดับ 47 มูลค่าทรัพย์สิน 19,100 ล้านบาท
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบ 50 อันดับแรก พบว่านายสันติ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ติดอันดับ 14 มีมูลค่าทรัพย์สิน 71,800 ล้านบาท, น.ส.ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป อันดับ 15 มีมูลค่าทรัพย์สิน 67,000 ล้านบาท,
นายทักษิณ ชินวัตร อันดับ 19 มีมูลค่าทรัพย์สิน 60,600 ล้านบาท
ส่วนนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ติดอันดับ 30 มีมูลค่าทรัพย์สิน 34,100 ล้านบาท ขณะที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หวนขึ้นตำแหน่งมหาเศรษฐีเมืองไทยอีกครั้ง มาอยู่ที่อันดับที่ 54 มีทรัพย์สินที่ 20,480 ล้านบาท หลังจากไม่ติดอันดับมาเป็นเวลา 5 ปี
ทั้งนี้ ช่วงต้นปีที่ผ่านมาเกิดความไม่แน่นอนก่อนการเลือกตั้ง นับได้ว่ามีส่วนบั่นทอน บรรยากาศความเชื่อมั่น ฉุดค่าเงินบาท และฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงลง 7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิโดยรวมของอภิมหาเศรษฐีไทยในทำเนียบฯ ปรับตัวลงเล็กน้อยอยู่ที่ 160,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 5.14 ล้านล้านบาท จากเมื่อปีที่แล้วที่ 162,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 5.18 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การจัดอันดับนี้ใช้ข้อมูลทางการเงินและการถือครองหุ้นที่ได้รับมาจากทางครอบครัวและปัจเจกบุคคล ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) นักวิเคราะห์ และหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่ง รวมถึงทรัพย์สินของครอบครัวและทรัพย์สินที่ถือครองโดยสมาชิกครอบครัวในหลายรุ่น โดยมูลค่าทรัพย์สินในบริษัทมหาชนคำนวณจากราคาหุ้นและอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 26 เม.ย.62 ส่วนทรัพย์สินในบริษัทที่ถือครองส่วนตัวประเมินค่าโดยเปรียบเทียบกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเดียวกันที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ