การขับรถบนเส้นภูเขาซึ่งมีความลาดชันหรือมีความสูงเต็มไปด้วยโค้งอันตรายแหกไปก็หล่นลงหุบเหวลึก เส้นทางท่องเที่ยวในประเทศไทยอุดมไปด้วยโค้งขึ้น-ลงเขาที่คดเคี้ยววกไปวนมา สำหรับท่านที่ไม่เคยชินกับทางบนภูเขา หรือเพิ่งจะซื้อรถคันใหม่ยังไม่มีความเชี่ยวชาญชำนาญการควบคุมรถยนต์มากพอ เมื่อพบเจอกับเส้นทางสูงชันก็ไม่สามารถควบคุมรถให้มีความปลอดภัย ใช้เกียร์ผิดหรือใช้ความเร็วสูงเกินจนสุดท้ายก็จบลงที่อุบัติเหตุรุนแรงแหกโค้งตกช่องเขา
...
เมื่อต้องเดินทางไปท่องเที่ยวแล้วเจอเส้นทางภูเขา ในรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ ให้ใช้เกียร์ต่ำขับขึ้นหรือลงตลอดเส้นทาง ข้อควรนะวังก็คือ ไม่ขับเข้าไปชิด ทับ หรือใกล้กับเส้นเหลืองทึบแบ่งเลนกลางถนน ส่วนใหญ่ รถที่สวนมามักะวิ่งกินเลนเนื่องจากเป็นทางลงเขา อาจควบคุมรถยังไม่ชำนาญ หรือใช้ความเร็วสูงเกินไปในช่วงขาลง ควรระวังในจุดนี้ให้ดีๆ เพราะเห็นมาเยอะมากกับรถขาลงเขาที่วิ่งกินช่องทางเข้ามาจนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุชนประสานงา เมื่อใช้ เกียร์ต่ำจะมีแรงฉุดลากมากกว่าเกียร์สูง เช่นเกียร์ในตำแหน่ง 2-3 อย่าพยายามขับแบบลากเกียร์จนสุดรอบเครื่องยนต์ ถ้ารถยนต์ที่ใช้เป็นเกียร์อัตโนมัติ (ซึ่งส่วนใหญ่ในปัจจุบัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ใช้เกียร์ออโต้ได้รับความนิยมมากที่สุด) ใช้เกียร์ 2 ในการขับขึ้น-ลงจากเขา แล้วเปลี่ยนไปใช้เกียร์ D เมื่อรถวิ่งอยู่บนทางราบ การขับโดยใช้เกียร์ต่ำสลับไปมาบนเส้นทางแบบภูเขาสูงชัน เกียร์ต่ำจะหน่วงความเร็วของรถไม่ให้พุ่งลงจากเขาเร็วเกินไปจนอาจเกิดอุบัติเหตุแบบที่ปรากฏในข่าว ไม่ควรเชื่อมั่นกับเอนจิ้นเบรก หรือเชนเกียร์ช่วยลดความเร็ว ให้ใช้เบรคควบคู่ไปกับการเชนเกียร์ลงต่ำทุกครั้ง
...
แน่นอนว่าบนเส้นทางภูเขาในไทยมักจะอุดมไปด้วยโค้งสลับไปมาซ้ายทีขวาที ทั้งโค้งขึ้นหรือลงเนินลาดชัน ทางโค้งอันตรายเหล่านี้ หากประมาทพลาดพลั้งพลัด วิ่งแหกโค้งตกลงไปในเหวลึกอาจบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิต เห็นโค้งลงเนินอยู่ตรงหน้า ให้ลดความเร็ว แล้วเปลี่ยนจากเกียร์ในตำแหน่งปกติหรือเกียร์ D สลับมาอยู่ที่เกียร์ 3-2 เมื่อใช้เกียร์ 3 แล้วรถยังพุ่งลงมาอย่างรวดเร็วก็เบรกช่วยพร้อมกับยัดเข้าเกียร์ 2 ก่อนจะเริ่มต้นการเลี้ยวในโค้ง การประคองความเร็วไม่ให้สูงมากจนเอาไม่อยู่เมื่อไหลลงมาพบเจอกับโค้งหักศอก ความเร็วต่ำกับตำแหน่งเกียร์ต่ำคือความอยู่รอดของคุณโดยไม่กระโจนพรวดพลาดเสียหลักแหกโค้งตกลงไปในเหวลึกแบบที่เห็นกันในข่าว ไม่ว่าจะขับรถ SUV ขับสี่ล้อประสิทธิภาพดีหรือรถเก๋งเล็กๆ แบบ City Car / ECO Car ไม่ควรเปลี่ยนเกียร์ขณะห้อลงมาจากเขา ความเร็วที่ไม่มากหรือใช้ความเร็วต่ำจะทำให้คุณควบคุมการเบรกและทิศทางได้ดีขึ้น
...
ทางลงเนินลาดชัน เบรกจะถูกใช้เยอะจนบางครั้งถึงกับร้อนจัดถ้าขับลงมาเร็วเกินไป ระบบห้ามล้อบนทางลงเขาต้องทำงานหนัก บางช่วงบางตอนใช้เบรกมากจนถึงกับเบรกไหม้ก็มี ผ้าเบรกและจานเบรกต้องอยู่ในสภาพดี รถบางรุ่นโดยเฉพาะรถรุ่นใหม่จะมีระบบ Hill start assist control คอยช่วยเหลือพวกมือใหม่หัดขับได้ดี เมื่อขับมาจนพบเจอกับทางขึ้นเขาสูงชันก็ใช้คันเร่งแบบค่อยเป็นค่อยไปโดยคงความเร็วให้มีความสม่ำเสมอ เพิ่มกำลังเครื่องยนต์อย่างนุ่มนวลไม่ขับแบบโชว์พาวกระโชกโฮกฮาก เนินบางที่นั้นมีความสูงชันในระดับที่น่าขนหัวลุกเมื่อขับขึ้นเนินแบบนั้นก็ต้องใช้คันเร่งแบบค่อยเป็นค่อยไป
...
ห้ามใส่เกียร์ว่างวิ่งลงเนินชัน เกียร์ว่างหรือตำแหน่งเกียร์ N จะทำให้รถไหลลงเขาด้วยความเร็วสูง จนไม่สามารถควบคุมทิศทางหรือเบรกเพื่อลดความเร็ว เมื่อลงเนินด้วยตำแหน่งเกียร์ N เกียร์ว่าง หรือใช้เกียร์สูงจะไม่มีแรงหน่วงจากเครื่องยนต์ ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงนับครั้งไม่ถ้วน ใช้เกียร์ต่ำทุกครั้งที่ขับขึ้น-ลงเขา โดยปล่อยรถให้ไหลลงเนินสูงชันตามรอบเครื่องยนต์ในตำแหน่งเกียร์ 2 พร้อมๆไปกับการใช้เบรกเพื่อควบคุมความเร็วของรถให้สัมพันธ์กับเกียร์ ถ้าไม่ชำนาญเส้นทางก็ควรขับให้ช้ากว่าเดิม
เว้นช่วงระยะห่างระหว่างรถคันข้างหน้า บนเส้นทางภูเขาโดยเฉพาะเมื่อรถคันข้างหน้าคุณนั้นเป็นรถบรรทุกหรือรถตู้ที่ขนคนขนของกันมาแบบเต็มพิกัด ช่วงขับขึ้นเนินชันให้เว้นช่วงจากรถคันข้างหน้าเพื่อป้องกันการไหลถอยหลังหรือการบรรทุกหนักจนไม่มี่เรี่ยวแรงในการตะกายขึ้นภูเขาเมื่อเจอเข้ากับทางขึ้นเขาที่สูงชัน การเว้นระยะให้ห่างจากรถคันนำจะทำให้คุณมีพื้นที่มากพอในการเหยียบคันเร่งส่งรถขึ้นเนินและทำให้ขับได้ง่ายขึ้นอีกด้วยแถมยังปลอดภัยจากการขับชนท้ายรถคันข้างหน้าหรือรถคันหน้าเกิดใช้เบรกกระทันหัน!
ไม่จำเป็นอย่าขับชิดรถคันหน้า ให้คุมระยะห่างคันหน้าซัก 30-50 เมตร มีรถจ่อท้ายมาก็ชิดซ้ายให้เขาหน่อยแล้วเปิดสัญญาณไฟให้เขาแซงไป ถ้าจำเป็นต้องแซงโดยเฉพาะรถสิบล้อคันใหญ่หรือรถที่ขับช้ามากออกแนวเต่ากัดยาง ใจร่มๆ ใจเย็นๆ ให้รอจังหวะเมื่อเจอทางราบหรือทางไม่ชันมากไม่มีเส้นทึบห้ามแซง ควรรีบแซงซะเมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้ว
-ทางลงเขาไม่ควรขับแบบเลียเบรกหรือใช้เท้าเหยียบเบรกคาไว้ เมื่อต้องการเบรกให้กดเบรกแบบปกติ(แต่ลึกหน่อยเมื่อขับลงเขา) หากขับแบบเลียเบรกไปตลอดทาง ไม่นานเบรกรถคุณจะร้อนหรือไหม้ทำให้เกิดอาการเบรกเฟรดหรือเบรกไม่อยู่ซึ่งอันตรายมาก
-ห้ามใช้เกียร์ว่างหรือเกียร์ N เด็ดขาดเมื่อขับลงจากเขาหรือทางที่มีความลาดชันมากๆ เนื่องจากในตำแหน่งเกียร์ว่างจะไม่มีการหน่วงความเร็วของเครื่องยนต์และเกียร์ รถจะไหลลงเขาอย่างเร็วจนคุณไม่สามารถควบคุมทิศทางได้ สุดท้ายจะไปจบลงที่ก้นเหวทุกรายไป
-ไม่เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ขณะขับอยู่ในโค้งขึ้น-ลงภูเขา ผิวถนนที่มีกรวดทรายหรือเปียกชื้นจากน้ำค้างเมฆหมอกแล้วคุณทำพิเรนทร์เปลี่ยนเกียร์ไปมากลางโค้งจะทำให้เกิดอาการลื่นไถลเอาได้ง่ายๆ
-ใช้ความเร็วต่ำโดยเฉพาะเมื่อขับลงเขา ความเร็วที่พอดีกับสภาพทางจะช่วยทำให้คุณควบคุมทิศทางของรถได้ดี รวมถึงยังมีเวลามากพอสำหรับการแก้ใขเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
- เส้นทึบบนโค้งในทางแบบหุบเขาสูงคือสัญลักษณ์ของการห้ามแซงอย่างเด็ดขาด หมั่นสังเกตป้ายกำกับตามเส้นทางขึ้นลงเขา จุดอันตราย ความเร็วที่กำหนด ขับตามที่ป้ายบอก แม้จะช้าไปบ้าง แต่ก็แลกกับความปลอดภัยของตัวคุณเองและครอบครัว ไม่ต้องมาแงะมางัดด้วยเครื่องตัดถ่างไฮดรอลิกเมื่อหลุดจากโค้งจนตกลงไปในเหวลึก งานของพวกกู้ภัยในช่วงวันหยุดยาวนั้นมากพอแล้วกับการรับมืออุบัติเหตุตามเส้นทางที่รับผิดชอบ อย่าไปเพิ่มงานให้พวกเค้าอีกเลยครับ
-ไม่ขับตัดโค้ง เพราะมันอันตรายต่อตัวของคุณเองและรถคันอื่นที่วิ่งสวนมา เมื่อโค้งที่คุณตัดเป็นโค้งมุมปิดที่มองไม่เห็นรถเลนสวน จะขับตัดโค้งเพื่ออะไรหากคุณไม่ได้กำลังห้อเร็วจี๋แข่งกับรถคันอื่น
ใช้ความเร็วที่ไม่มากตามป้ายบอกนอกจากจะควบคุมได้ง่ายยังช่วยลดแรงเหวี่ยงทำให้นั่งสบาย ขับช้าปลอดภัยถึงที่หมายทุกคันใช้เกียร์ต่ำพร้อมมองให้ไกลเข้าไว้ อยู่ให้ห่างจากเส้นทึบตามหัวโค้งป้องกันรถที่วิ่งกินเลนเข้ามาซึ่งมีเยอะมาก.