สี่ทศวรรษที่ผ่านมา ซุปเปอร์คูเป้อย่าง BMW M6 สร้างประวัติศาสตร์ในวงการมอเตอร์สปอร์ตด้วยการกวาดชัยชนะในสนามแข่งมานับครั้งไม่ถ้วน การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านขุมกำลังเกิดขึ้นจากเทคโนโลยีระบบ Powertrain อันก้าวล้ำ พลิกผันตัวเองผ่านความเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอดจากเครื่อง 6 สูบเรียงหายใจเอง มาเป็นเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ทำให้ M6 รุ่นใหม่มีอัตราเร่งที่ดีขึ้น เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่เสียบแทนที่เครื่อง V10 หายใจเอง ด้วยน้ำหนักที่เบากว่า ขนาดของเครื่องยนต์ที่เล็กกว่าและมีกำลังสูงกว่าเครื่องเดิม 10% กราฟแรงบิดของเครื่อง V8 รุ่นใหม่อัดเทอร์โบก็ยังเหนือกว่าเครื่อง V10 รุ่นเก่า แรงบิดมาเต็มๆตั้งแต่ 1500 - 5750 รอบต่อนาที นั่นหมายความว่า แรงบิด 680 นิวตันเมตรนั้นรออยู่ตรงปลายเท้าของคนขับตั้งแต่เริ่มออกตัวไปจนถึงความเร็วสูงสุด!! 

ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13

...

ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13

BMW M6 รุ่นใหม่รหัส F13 นั้นแรงตั้งแต่เกิด คุณไม่จำเป็นจะต้องกดปุ่มอะไรเพื่อทำให้แรงม้าของรถรุ่นนี้เพิ่มขึ้น การเรียกใช้แรงบิดทั้งหมดก็แค่กดฝ่าเท้าลงไปบนแป้นคันเร่ง กำลัง 560 แรงม้าก็พร้อมที่จะทะลักออกมาทันที ซึ่งคนขับก็ต้องระวังการออกตัวอย่างรุนแรงบนผิวทางที่เปียกลื่น M6 ตัวใหม่ ไม่จำเป็นจะต้องออกตัวแรงๆ ด้วยระบบ Lanuch Control เพื่อเร่งจาก 0-100 ให้ได้ภายใน 4.2 วินาที แค่ถนนโล่งๆ มันก็จะพุ่งไปตามแรงกดของฝ่าเท้า น้ำหนักตัว 1850 กิโลกรัม อาจหนักเกินไปสำหรับรถสปอร์ตแนว GT แต่ไม่ใช่ปัญหาของเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ น้ำหนักที่มากกว่ารุ่นเก่า 140 กิโลกรัม เกิดจากสารพัดอุปกรณ์ช่วยขับกับโครงสร้างแชสซีส์ที่แข็งแกร่ง ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้นเร็วมาก แต่หากยังไม่สาแก่ใจก็ยังมี M Driver's Package ปลดล็อกความเร็วสูงสุดจาก 250 ไปจนถึง 285 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสำหรับการไล่ฟัดรถแรงอย่าง S63 AMG ของแบรนด์ตราดาว

ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13

...

ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13

...

เครื่องยนต์ V8 มีปริมาตรความจุ 4,395 ซีซี น้อยกว่าเครื่อง V10 5.0 ลิตรจากการะบอกสูบที่หายไปสองตำแหน่ง เครื่อง M รหัส S63B44 มีความพิเศษไม่มากเท่าเครื่อง V10 รุ่นเก่า แต่มีแรงม้ามากพอที่จะทำให้คนขับตาถลน กำลัง 560 แรงม้าหมายถึง มันใช้เครื่องยนต์ร่วมกับ BMW M5 / X5M และ X6M ส่วนแรงบิด 680 นิวตันเมตร หรือ 68 กิโลกรัม/เมตร ก็ยังเท่ากันพอดิบพอดีไม่มีขาดหรือเกิน ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบยิงตรงไดเรคอินเจคชั่นกับหอยพิษแฝดสองตัวช่วยกอบกู้ศักดิ์ศรีของรถ M ให้กลับคืนมาอีกครั้ง แม้จะใช้เครื่องยนต์ที่เล็กลง แต่พลังงานที่ปล่อยออกมานั้นเหลือกำลังลาก เครื่อง S63B44 ยังติดตั้งระบบวาล์วแปรผัน Valvetronic lift และ Double VANOS cam adjusters

ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13

...

ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13

ท่อระบายไอเสียแมคนีเซียมที่ให้ซุ่มเสียงเร้าใจแม้จะใช้เทอร์โบ ไม่ว่าจะเป็นเสียงรอบเดินเบาที่คล้ายกับรถสปอร์ตอเมริกันคันโตยัดเครื่องไซส์ยักษ์ไปจนถึงรอบสูงสุดที่กระหึ่มก้องเมื่อเดินคันเร่งอย่างเมามัน แรงบิดมหาศาลมากพอที่จะดูดติดท้ายซุปเปอร์คาร์ทุกคันที่มีแรงม้ามากกว่า (แต่ไม่อาจแซงขึ้นหน้าได้!!) แรงบิดจากเครื่องยนต์ถ่ายลงไปที่เกียร์ทวินคลัตช์ 7 สปีด M DCT เกียร์ติดตั้งโปรแกรมการขับเคลื่อนที่สามารถเลือกใช้แบบเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์อัตโนมัติก็ได้ทั้งสองแบบ ระบบ Low Speed Assistance ช่วยหน่วงเกียร์เอาไว้ให้มีการเปลี่ยนอัตราทดน้อยลงเมื่อขับที่ความเร็วต่ำในเมืองยังช่วยให้การขับ M6 ไปทำงานตอนเช้าท่ามกลางการจราจรที่หนาแน่นเป็นเรื่องสะดวกสบายมากกว่าการขับซุปเปอร์คาร์

ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13

สปอร์ต GT รุ่นใหม่ของ BMW คันนี้ไม่มีแป้นควบคุม Drive Dynamic แต่ใช้ปุ่มควบคุมเล็กๆ 5 ปุ่มที่ติดตั้งอยู่รอบซุ้มเกียร์ ไม่ว่าจะเป็นการปรับอาการของรถเพื่อการตอบสนองที่รวดเร็วของคันเร่งไฟฟ้า การทำงานของเครื่องยนต์ การส่งกำลังของชุดเกียร์ M DCT การปรับค่าความแข็งอ่อนของโช็กอัพ รวมถึงการทำงานของพวงมาลัย ทั้งหมดทั้งปวงถูกบรรจุอยู่ในปุ่มทั้ง 5 เพื่อการปรับตั้งด้วยตัวของคนขับเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเพราะเจ้าของรถนั้นต้องจ่ายเงินไม่ใช่น้อยๆ สำหรับการเป็นเจ้าของ M6 การตั้งค่าของทุกระบบมี 3 โหมดให้เลือกคือ Comfort / Sport และ Sport Plus การปรับตั้งที่มีความหลากหลายเกิดผลดีต่อการใช้งาน โช็กอัพที่ปรับแข็งอ่อนได้นั้นสอดคล้องกับการใช้งานในทุกสภาพผิวถนน คุณจะปรับให้มันนิ่มก็ได้เมื่อขับบนผิวทางที่ไม่เรียบ หรือปรับให้แข็งสุดๆ สำหรับการขับในสนามแข่ง

ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13

สำหรับการปรับตั้งเครื่องยนต์นั้นยังคงมีความสับสนอยู่เล็กน้อย เครื่องยนต์ทำงานตอบสนองไม่ช้าก็เร็วเกินไปเมื่อขับทดสอบในสนาม ส่วนการปรับพวงมาลัย เริ่มจากเบาสบายข้อมือในย่านความเร็วต่ำ กับโหมด Comfort ไปจนถึงโหมด Sport Plus ซึ่งปรับน้ำหนักของพวงมาลัยหนักอึ้งราวกับรถบรรทุกที่เหมาะสำหรับการขับเร็วๆ การเซตอัพระบบต่างๆ ของ M6 ให้ทำงานสอดคล้องกันตามความต้องการของคุณนั้น ต้องใช้เวลาและความอดทนอยู่พอสมควร การเซตรถให้เหมาะกับสนามทดสอบหรือสนามแข่งไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญอีกต่อไป ใครที่มีความรู้เรื่องรถยนต์ก็สามารถปรับจูนโหมดต่างๆ ของ M6 ได้อย่างลงตัว แต่การปรับค่าเครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง พวงมาลัยของรถ M6 ให้เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันนั้นยาก และต้องใช้ความรู้สึกในการจับอาการอยู่เหมือนกัน สำหรับสภาพถนนที่มีรอยปุปะอยู่ทั่วไปอย่างถนนในเมืองไทย คนขับอาจต้องการเซตช่วงล่างให้โอนอ่อนลง เปลี่ยนเกียร์ไวสุดและพวงมาลัยมีน้ำหนักที่เบาสบายข้อมือ (เอาไว้หักหลบหลุมบ่อหรือทางลาดยางที่เต็มไปด้วยรอยปะผุ) 

ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13

BMW M6 F13 มีความยาวเท่าๆ กับ BMW M5 F10 แต่แบนและเตี้ยมากกว่าด้วยการทำตัวเป็นรถสปอร์ตแนว GT ฐานล้อของมันยังสั้นกว่า M5 ถึง 133 มิลลิเมตร ให้การเลี้ยวที่ฉับไวกว่าเดิมก็จริงแต่ก็ยังไม่เท่ากับการเลี้ยวมุมแคบของ M2 เจ้า M6 เลี้ยวจิกโค้งแฉะๆ ที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำในสนามทดสอบของ BMW ได้อย่างมั่นคง แค่ไม่ได้ปราดเปรียวเท่ากับ M ที่มีเรือนร่างเล็กกว่า การเร่งความเร็วออกจากโค้งรูปตัวยูบริเวณปลายโค้ง ทำได้แน่นอน แต่ระวังอาการท้ายปัดเมื่อแรงบิดทั้งหมดถูกเทลงไปที่ล้อคู่หลังซึ่งกำลังบดลงไปบนผิวถนนที่เปียกลื่น ครูฝึกชาวเยอรมันจาก BMW M ชี้ให้เห็นถึงอันตรายหากสภาพผิวถนนอยู่ในลักษณะที่เปียกชื้นมีฝนตก การควบคุมรถสปอร์ตกำลัง 560 แรงม้าให้อยู่กับร่องกับรอยไม่มีควาจำเป็นอะไรที่จะต้องขับให้เร็วจี๋ท่ามกลางตัวแปรที่ไม่เป็นใจ แม้ระบบช่วยทรงตัวจะทำงานตามหน้าที่ได้รับมอบหมาย แต่ก็มีขีดข้อจำกัดที่ขึ้นตรงกับความเร็ว ยิ่งเร็วเท่าไรโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13

ครูฝึกของ BMW M ผลักดันให้ผมและเพื่อนๆ ที่ลงทดสอบในกลุ่มรถ M ไซส์ยักษ์จัดกันอย่างเต็มเหนี่ยว เลือกรถทดสอบกันตามใจชอบ ซึ่งมีให้ลองกันครบๆ ไล่จากซาลูนตัวกลั่น BMW M5 ซึ่งวันนี้รับหน้าที่มาเป็นรถครูฝึก ตามด้วย M6 Coupe รุ่น 2 ประตูหน้ายาวเหยียดกับ M6 Gran coupe ซึ่งเป็นรถ M6 ที่มีประตู 4 บาน ต่อด้วย BMW X5M เอสยูวียักษ์ในยุคไดโนเสาร์ครองโลกที่ไม่ได้มีดีแค่ความแรง แต่ยังแฝงไปด้วยความอเนกประสงค์ X5M มาในมาดของรถออฟโรดบ้าพลัง ที่วางเครื่องยนต์ตัวเดียวกับ M5 และ M6 พื้นที่อันกว้างขวางของมันคือจุดขาย พร้อมกับพลัง 560 แรงม้า จากเครื่อง V8 เทอร์โบคู่ แถมยังมีระบบขับเคลื่อนทุกล้อ xDRIVE เอาไว้ลุยทางวิบาก นับเป็นรถ M Car ที่แปลกประหลาดแต่ใช้งานได้ดี และขายดีมากในจีนกับอเมริกาเหนือ คันสุดท้ายในกลุ่มรถทดสอบรถ M ไซส์โตก็คือ BMW X6M คู่กัดของ Mercedes Benz GLE 63S Coupe เจ้า X6 ติดตั้งสัญลักษณ์ M-Power คันนี้มีระบบขับเคลื่อน พวงมาลัย เกียร์ และช่วงล่างเหมือนกับ BMW X5M เว้นแต่เรือนร่างแบบ SUV ของมันที่ดันไปใช้บั้นท้ายทรง Coupe มีฝาท้ายที่เทลาดและมีบั้นท้ายที่โฉบเฉี่ยวกว่า X5M แต่ขับแล้วหวาดเสียวกว่านิดๆ X6M ที่ผมเคยขับในเซปังนั้นแรงมุทะลุดุดัน มันเป็นเอสยูวีบ้าพลังหนัก 2 ตัน ที่เร่งจาก 0-100 เพียงแค่ 5 วินาทีนิดๆ เท่านั้น! ความแรงนั้นไม่ต้องสงสัยแต่ความสูงของตัวรถทำให้ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบทุกครั้งที่ต้องขับมันเร็วๆ บนโค้งมุมแคบในสนามแข่งรถ ทั้ง X5M และ X6M เป็นรถอเนกประสงค์แปะตรา M การกระทำดังกล่าวทำให้แฟนคลับเก่าแก่ที่บูชาลัทธิ M-Power ไม่ชอบ แต่กลับขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในอเมริกาและจีน!

ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13

สเตชั่นทดสอบรถ M ในภาคบ่ายเป็นสถานีที่เต็มไปด้วยน้ำและความเปียกแฉะลื่นไถล ไม่ว่าจะเป็นการออกตัวเร็วจี๋บนผิวถนนลาดยางที่มีน้ำฉีดพ่นอยู่ตลอดเวลา การควงพวงมาลัยผ่านไพล่อนแบบสลาลมท่ามกลางผิวแทร็กที่มีน้ำปกคลุม การเบรกเต็มกำลังที่ความเร็ว 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมๆ กับการหักพวงมาลัยเข้าร่องไพล่อนที่แปรสภาพกลายเป็นโค้งครึ่งวงกลม และมีน้ำขังอยู่เพียบ น้ำหนักเกือบๆ สองตันของ M6 Coupe ทำให้มันปราดเปรียวน้อยกว่า M2 /M3 /M4 แม้จะมีเครื่องที่โตกว่า และมีแรงม้าเยอะกว่าแต่หากให้เลือกผมคงเดินไปที่ M3 F80 เหมือนเดิม การขับในช่องไพล่อนที่ค่อนข้างคับแคบทำให้พวงมาลัยไฟฟ้าของมันต้องทำงานอย่างหนัก ตัวถังที่กว้างกว่าเดิม 45 มิลลิเมตรทำให้ความคล่องตัวลดลง แต่แลกคืนด้วยความมั่นคงกับการยึดเกาะของช่วงล่างที่เกิดจากขนาดของล้อและยางสปอร์ตคุณภาพสูง ล้อกับยางที่โตขึ้นช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะในโค้ง แถมยังยิงออกจากโค้งวงกลมแบบเร็วๆ ได้โดยไม่ทำให้ความนิ่มนวลหายไป ผมทดสอบนับสิบๆรอบในสนามเปียกเพื่อเรียนรู้การควบคุมจักรกลราคา 14 ล้านให้อยู่บนเส้นทางท่ามกลางความลื่นของสเตชั่นที่ถูกระดมฉีดน้ำออกมาทุกทิศทาง ยาง Michelin Pilot Super Sport เส้นใหม่กับช่วงล่างของ M ปรุงแต่งให้ M6 สามารถแสดงออกถึงความสมดุลและการควบคุมที่ดีเยี่ยมออกมา อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นรถสปอร์ตที่ตัวใหญ่เกินไป หนัก และไม่เหมาะที่จะเอามาขับเร็วๆ บนถนนที่เปียกลื่น พลังในการเร่งความเร็วและการเบรกอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม อาการโคลงตัวโผล่ออกมาบ้างเมื่อเลี้ยวเร็วๆ ในโค้งวงกลม รวมถึงอาการแปลกๆ ของพวงมาลัย Active Steering เมื่อคันเร่งถูกเติมในโค้งวงเวียน มันเกิดจากส่วนหน้าที่ยื่นยาวและล้อที่ใหญ่โตแต่พวงมาลัยวงเดียวกันนี้กับทำหน้าที่ได้อย่างตรงไปตรงมาเมื่ออยู่ใน M5!!   

ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13

คาร์ลิปเปอร์เบรก M แบบ 6 พอตหน้า 4 พอตหลัง ทำงานเต็มประสิทธิภาพเมื่อผสานกับระบบป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรกและตัวเสริมแรงเบรกที่พ่วงระบบช่วยทรงตัวเข้ามาผนวกให้เจ้า M6 สามารถเบรกได้ดีท่ามกลางผิวแทร็กที่ชื้นแฉะ โดยไม่มีอาการส่ายไปมาหรือเสียหลักแถตกข้างทาง แป้นเบรกให้นำ้หนักที่เป็นธรรมชาติ กดไปเท่าไรก็เบรกให้เท่านั้นพอดีเป๊ะ อย่างที่บอกกว่าหากต้องการที่จะออกตัวเร็วๆ คุณจะต้องแน่ใจว่าผิวถนนที่ใช้ออกตัวเร็วจี๋แบบกระชากเต็มสูบนั้นแห้งสนิทดี รวมถึงยังมีทางข้างหน้าที่โล่งมากพอที่จะทำซ่าได้บ้าง การออกตัวแบบล้อฟรี พร้อมกับทิ้งรอยยางไหม้ยาวเหยียดเป็นนิสัยปกติของรถที่มีแรงม้า 560 ตัว อาการท้ายแถเกิดขึ้นได้ทุกขณะเมื่อคิดจะจัดเต็มแต่ก็แก้ได้ง่ายๆ ด้วยการยกคันเร่งนิดเดียว หรือถ้าเซียนก็แค่แต่งพวงมาลัยประคองโดยที่ฝ่าเท้ายังกดลงไปเต็มๆ

ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13

หากไม่คิดถึงเรื่องของราคา BMW M6 F13 เป็นรถสปอร์ตที่ดึงดูดกลุ่มคนสูงวัยซึ่งยังมีใจรักการขับรถแรงๆ มันมีจุดเด่นให้คนที่ชอบความเร็วรู้สึกอยากจะขับ เช่น การใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่เป็นแค่วีคเอนด์สปอร์ตคาร์ การควบคุมที่ดีและความมั่นใจที่มันพยายามมอบให้กับคนขับ ช่วงล่างแบบปรับได้เหมาะกับถนนที่มีทั้งดีและแย่ รวมถึงการดริฟต์ที่โดดเด่น หากคุณมีฝีมือมากพอก็ขอให้จัดได้เลย ในสเตชั่นทดสอบสุดท้ายของวัน ผมไม่ได้ขับ M6 แบบบ้าระห่ำ แต่ขับแบบซึมซับรับรู้ที่จะจัดการอย่างไรกับจักรกลพลังสูงของ M เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากบนถนน BMW รู้ดีว่าจะสร้างเครื่องยนต์ออกมาอย่างไรให้รถ M กลายเป็นประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำ ถ้าเครื่องยนต์ดี มีการขับที่ดีและแม่นยำ รถก็จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าระดับบนได้อย่างไม่ยากเย็น

ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13
ลองของแรง BMW M6 F13

เครื่องยนต์ M กับเทคโนโลยี BMW M TwinPower Turbo ไม่ว่าจะ 6 สูบหรือ V8 เทอร์โบคู่เป็นตัวกำหนดนิยามใหม่ภายใต้รหัส M-Power ไม่ว่าจะเป็นการตอบสนอง เสียง ความเร็ว การยึดเกาะและสมรรถนะที่ดุเดือดเลือดพล่าน ทุกสิ่งทุกอย่างในรถ BMW M นั้น ออกแบบมาเพื่อทำให้คนขับและผู้โดยสารสามารถหยั่งถึงธาตุแท้ และความสามารถในยานยนต์ของตนเอง โดยไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวว่ามันจะต้องมีรูปแบบใด ไม่ว่าจะเป็นสปอร์ตคูเป้คันเล็ก สปอร์ตเปิดประทุนสุดสวย สปอร์ตจีทีตัวถังยาวท้ายสั้น หรือแม้แต่เอสยูวีคันโต หากคุณตัดสินรถยนต์คันนั้นด้วยรอยยิ้มและหยาดเหงื่อบนใบหน้าของคนขับ กับความทรงจำที่ดี บอกเลยว่ารถคันนั้นจะต้องเป็น M Car อย่างแน่นอนที่สุด. 


BMW M6 F13 SPECIFICATIONS
engine type ............................turbocharged petrol
engine manufacturer ...............BMW
engine code ............................S63B44T0
cylinders ................................V 8 in 90° vee
capacity.................................. 4.4 litre 4,395 cc (268.199 cu in)
bore × stroke ........................89.0 mm × 88.3 mm 3.5 × 3.48 in
bore/stroke ratio...................... 1.01
valves...................................double overhead camshaft (DOHC)  4 valves per cylinder 32 valves in total
maximum power output........... 560 PS (552 bhp) (412 kW)
at 6,000-7,000 rpm
specific output .......................125.6 bhp/litre 2.06 bhp/cu in
maximum torque ...................680 Nm (502 ft·lb) (69.3 kgm)
at 1500-5750 rpm
specific torque .......................154.72 Nm/litre 1.87 ft·lb/cu3

engine construction
sump ....................................wet sumped
compression ratio ...................10:1
fuel system ............................direct petrol injection
bmep (brake mean effective pressure) 1,944.3 kPa (282 psi)
maximum rpm ........................?
crankshaft bearings.................. ?
engine coolant .......................Water
unitary capacity .....................549.38 cc
aspiration.............................. Turbo
compressor............................n 
intercooler..............................Y 
catalytic converter.................. Y

acceleration 0-60mph ............4.3 s
acceleration 0-100km/h..........4.4 
acceleration 0-160km/h (100mph)
standing quarter-mile............. ?
standing kilometre................. ?
maximum speed ...................250 km/h (155 mph)
power-to-weight ratio ............292.41 PS/g 215.06 kW/g 288.4 bhp/ton 0.13 bhp/lb
weight-to-power ratio ...........4.65 kg/kW 7.77 lb/bhp

engine position ......................front
engine layout ........................longitudinal
drive wheels ..........................rear wheel drive
torque split........................... N/A
steering ...............................rack & pinion EPAS BMW M servotronic
turns lock-to-lock ..................?
turning circle.........................?
front suspension....................Double Wishbone
rear suspension.....................Mulit Link
wheel size front.................... 9½J x 20" BMW M Double-spoke style 343
wheel size rear ....................10½J x 20" BMW M Double-spoke style 343 

tyres front........................... 265/35 ZR 20 102Y XL michelin pilot super sport
tyres rear............................ 295/30 ZR 20 104Y XL michelin pilot super sport
brakes f/r............................ VeDi/VeDi-S-ABS
front brake diameter .............410 mm
rear brake diameter ..............400 mm
gearbox ..............................M Double-Clutch Transmission 7 speed with paddle shift
top gear ratio ......................0.87
final drive ratio.................... 3.15

bodywork
body type ..........................2+2 seater fixed-head coupé
number of doors .................2
designer ............................
wheelbase .........................2,850 mm
track/tread (front).............. 1,631 mm
track/tread (rear) ...............1,613 mm
length ...............................4,902 mm
width ................................1,900 mm
height ...............................1,369 mm
ground clearance ................107 mm
length:wheelbase ratio......... 1.72
kerb weight........................1,914 kg 4,220 lb
weight distribution................ 47.5 % front
fuel tank capacity ...............79.9 litres 17.6 UK Gal 21.1 US Gal

aerodynamics
drag coefficient ..................0.32
frontal area....................... 2.29 m²
cda.................................. 0.73


Introduction
The M6 is a car from BMW, with rear wheel drive, a front positioned engine and a 2 door coupé body style.

The M6 is part of BMW's F13 series.
It is powered by a turbocharged engine of 4.4 litre capacity. This unit features double overhead camshaft valve gear, a 90 degree V 8 cylinder layout, and 4 valves per cylinder. It produces 552 bhp (560 PS/412 kW) of power at 6,000-7,000 rpm, and maximum torque of 680 N·m (502 lb·ft/69.3 kgm) at 1,500-5,750 rpm.

The engine drives the wheels via a 6 speed manual transmission.
It weighs a claimed 1,914 kg at the kerb.
Maximum speed claimed is 250 km/h, which is 155 mph, officially stated fuel consumption is 15/22/17 US MPG EPA city/highway/combined.


อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/