สี่ทศวรรษที่ผ่านมา ซุปเปอร์คูเป้อย่าง BMW M6 สร้างประวัติศาสตร์ในวงการมอเตอร์สปอร์ตด้วยการกวาดชัยชนะในสนามแข่งมานับครั้งไม่ถ้วน การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านขุมกำลังเกิดขึ้นจากเทคโนโลยีระบบ Powertrain อันก้าวล้ำ พลิกผันตัวเองผ่านความเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอดจากเครื่อง 6 สูบเรียงหายใจเอง มาเป็นเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ทำให้ M6 รุ่นใหม่มีอัตราเร่งที่ดีขึ้น เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่เสียบแทนที่เครื่อง V10 หายใจเอง ด้วยน้ำหนักที่เบากว่า ขนาดของเครื่องยนต์ที่เล็กกว่าและมีกำลังสูงกว่าเครื่องเดิม 10% กราฟแรงบิดของเครื่อง V8 รุ่นใหม่อัดเทอร์โบก็ยังเหนือกว่าเครื่อง V10 รุ่นเก่า แรงบิดมาเต็มๆตั้งแต่ 1500 - 5750 รอบต่อนาที นั่นหมายความว่า แรงบิด 680 นิวตันเมตรนั้นรออยู่ตรงปลายเท้าของคนขับตั้งแต่เริ่มออกตัวไปจนถึงความเร็วสูงสุด!!


...


BMW M6 รุ่นใหม่รหัส F13 นั้นแรงตั้งแต่เกิด คุณไม่จำเป็นจะต้องกดปุ่มอะไรเพื่อทำให้แรงม้าของรถรุ่นนี้เพิ่มขึ้น การเรียกใช้แรงบิดทั้งหมดก็แค่กดฝ่าเท้าลงไปบนแป้นคันเร่ง กำลัง 560 แรงม้าก็พร้อมที่จะทะลักออกมาทันที ซึ่งคนขับก็ต้องระวังการออกตัวอย่างรุนแรงบนผิวทางที่เปียกลื่น M6 ตัวใหม่ ไม่จำเป็นจะต้องออกตัวแรงๆ ด้วยระบบ Lanuch Control เพื่อเร่งจาก 0-100 ให้ได้ภายใน 4.2 วินาที แค่ถนนโล่งๆ มันก็จะพุ่งไปตามแรงกดของฝ่าเท้า น้ำหนักตัว 1850 กิโลกรัม อาจหนักเกินไปสำหรับรถสปอร์ตแนว GT แต่ไม่ใช่ปัญหาของเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ น้ำหนักที่มากกว่ารุ่นเก่า 140 กิโลกรัม เกิดจากสารพัดอุปกรณ์ช่วยขับกับโครงสร้างแชสซีส์ที่แข็งแกร่ง ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้นเร็วมาก แต่หากยังไม่สาแก่ใจก็ยังมี M Driver's Package ปลดล็อกความเร็วสูงสุดจาก 250 ไปจนถึง 285 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสำหรับการไล่ฟัดรถแรงอย่าง S63 AMG ของแบรนด์ตราดาว



...



...
เครื่องยนต์ V8 มีปริมาตรความจุ 4,395 ซีซี น้อยกว่าเครื่อง V10 5.0 ลิตรจากการะบอกสูบที่หายไปสองตำแหน่ง เครื่อง M รหัส S63B44 มีความพิเศษไม่มากเท่าเครื่อง V10 รุ่นเก่า แต่มีแรงม้ามากพอที่จะทำให้คนขับตาถลน กำลัง 560 แรงม้าหมายถึง มันใช้เครื่องยนต์ร่วมกับ BMW M5 / X5M และ X6M ส่วนแรงบิด 680 นิวตันเมตร หรือ 68 กิโลกรัม/เมตร ก็ยังเท่ากันพอดิบพอดีไม่มีขาดหรือเกิน ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบยิงตรงไดเรคอินเจคชั่นกับหอยพิษแฝดสองตัวช่วยกอบกู้ศักดิ์ศรีของรถ M ให้กลับคืนมาอีกครั้ง แม้จะใช้เครื่องยนต์ที่เล็กลง แต่พลังงานที่ปล่อยออกมานั้นเหลือกำลังลาก เครื่อง S63B44 ยังติดตั้งระบบวาล์วแปรผัน Valvetronic lift และ Double VANOS cam adjusters


...


ท่อระบายไอเสียแมคนีเซียมที่ให้ซุ่มเสียงเร้าใจแม้จะใช้เทอร์โบ ไม่ว่าจะเป็นเสียงรอบเดินเบาที่คล้ายกับรถสปอร์ตอเมริกันคันโตยัดเครื่องไซส์ยักษ์ไปจนถึงรอบสูงสุดที่กระหึ่มก้องเมื่อเดินคันเร่งอย่างเมามัน แรงบิดมหาศาลมากพอที่จะดูดติดท้ายซุปเปอร์คาร์ทุกคันที่มีแรงม้ามากกว่า (แต่ไม่อาจแซงขึ้นหน้าได้!!) แรงบิดจากเครื่องยนต์ถ่ายลงไปที่เกียร์ทวินคลัตช์ 7 สปีด M DCT เกียร์ติดตั้งโปรแกรมการขับเคลื่อนที่สามารถเลือกใช้แบบเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์อัตโนมัติก็ได้ทั้งสองแบบ ระบบ Low Speed Assistance ช่วยหน่วงเกียร์เอาไว้ให้มีการเปลี่ยนอัตราทดน้อยลงเมื่อขับที่ความเร็วต่ำในเมืองยังช่วยให้การขับ M6 ไปทำงานตอนเช้าท่ามกลางการจราจรที่หนาแน่นเป็นเรื่องสะดวกสบายมากกว่าการขับซุปเปอร์คาร์




สปอร์ต GT รุ่นใหม่ของ BMW คันนี้ไม่มีแป้นควบคุม Drive Dynamic แต่ใช้ปุ่มควบคุมเล็กๆ 5 ปุ่มที่ติดตั้งอยู่รอบซุ้มเกียร์ ไม่ว่าจะเป็นการปรับอาการของรถเพื่อการตอบสนองที่รวดเร็วของคันเร่งไฟฟ้า การทำงานของเครื่องยนต์ การส่งกำลังของชุดเกียร์ M DCT การปรับค่าความแข็งอ่อนของโช็กอัพ รวมถึงการทำงานของพวงมาลัย ทั้งหมดทั้งปวงถูกบรรจุอยู่ในปุ่มทั้ง 5 เพื่อการปรับตั้งด้วยตัวของคนขับเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเพราะเจ้าของรถนั้นต้องจ่ายเงินไม่ใช่น้อยๆ สำหรับการเป็นเจ้าของ M6 การตั้งค่าของทุกระบบมี 3 โหมดให้เลือกคือ Comfort / Sport และ Sport Plus การปรับตั้งที่มีความหลากหลายเกิดผลดีต่อการใช้งาน โช็กอัพที่ปรับแข็งอ่อนได้นั้นสอดคล้องกับการใช้งานในทุกสภาพผิวถนน คุณจะปรับให้มันนิ่มก็ได้เมื่อขับบนผิวทางที่ไม่เรียบ หรือปรับให้แข็งสุดๆ สำหรับการขับในสนามแข่ง







สำหรับการปรับตั้งเครื่องยนต์นั้นยังคงมีความสับสนอยู่เล็กน้อย เครื่องยนต์ทำงานตอบสนองไม่ช้าก็เร็วเกินไปเมื่อขับทดสอบในสนาม ส่วนการปรับพวงมาลัย เริ่มจากเบาสบายข้อมือในย่านความเร็วต่ำ กับโหมด Comfort ไปจนถึงโหมด Sport Plus ซึ่งปรับน้ำหนักของพวงมาลัยหนักอึ้งราวกับรถบรรทุกที่เหมาะสำหรับการขับเร็วๆ การเซตอัพระบบต่างๆ ของ M6 ให้ทำงานสอดคล้องกันตามความต้องการของคุณนั้น ต้องใช้เวลาและความอดทนอยู่พอสมควร การเซตรถให้เหมาะกับสนามทดสอบหรือสนามแข่งไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญอีกต่อไป ใครที่มีความรู้เรื่องรถยนต์ก็สามารถปรับจูนโหมดต่างๆ ของ M6 ได้อย่างลงตัว แต่การปรับค่าเครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง พวงมาลัยของรถ M6 ให้เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันนั้นยาก และต้องใช้ความรู้สึกในการจับอาการอยู่เหมือนกัน สำหรับสภาพถนนที่มีรอยปุปะอยู่ทั่วไปอย่างถนนในเมืองไทย คนขับอาจต้องการเซตช่วงล่างให้โอนอ่อนลง เปลี่ยนเกียร์ไวสุดและพวงมาลัยมีน้ำหนักที่เบาสบายข้อมือ (เอาไว้หักหลบหลุมบ่อหรือทางลาดยางที่เต็มไปด้วยรอยปะผุ)





BMW M6 F13 มีความยาวเท่าๆ กับ BMW M5 F10 แต่แบนและเตี้ยมากกว่าด้วยการทำตัวเป็นรถสปอร์ตแนว GT ฐานล้อของมันยังสั้นกว่า M5 ถึง 133 มิลลิเมตร ให้การเลี้ยวที่ฉับไวกว่าเดิมก็จริงแต่ก็ยังไม่เท่ากับการเลี้ยวมุมแคบของ M2 เจ้า M6 เลี้ยวจิกโค้งแฉะๆ ที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำในสนามทดสอบของ BMW ได้อย่างมั่นคง แค่ไม่ได้ปราดเปรียวเท่ากับ M ที่มีเรือนร่างเล็กกว่า การเร่งความเร็วออกจากโค้งรูปตัวยูบริเวณปลายโค้ง ทำได้แน่นอน แต่ระวังอาการท้ายปัดเมื่อแรงบิดทั้งหมดถูกเทลงไปที่ล้อคู่หลังซึ่งกำลังบดลงไปบนผิวถนนที่เปียกลื่น ครูฝึกชาวเยอรมันจาก BMW M ชี้ให้เห็นถึงอันตรายหากสภาพผิวถนนอยู่ในลักษณะที่เปียกชื้นมีฝนตก การควบคุมรถสปอร์ตกำลัง 560 แรงม้าให้อยู่กับร่องกับรอยไม่มีควาจำเป็นอะไรที่จะต้องขับให้เร็วจี๋ท่ามกลางตัวแปรที่ไม่เป็นใจ แม้ระบบช่วยทรงตัวจะทำงานตามหน้าที่ได้รับมอบหมาย แต่ก็มีขีดข้อจำกัดที่ขึ้นตรงกับความเร็ว ยิ่งเร็วเท่าไรโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น






ครูฝึกของ BMW M ผลักดันให้ผมและเพื่อนๆ ที่ลงทดสอบในกลุ่มรถ M ไซส์ยักษ์จัดกันอย่างเต็มเหนี่ยว เลือกรถทดสอบกันตามใจชอบ ซึ่งมีให้ลองกันครบๆ ไล่จากซาลูนตัวกลั่น BMW M5 ซึ่งวันนี้รับหน้าที่มาเป็นรถครูฝึก ตามด้วย M6 Coupe รุ่น 2 ประตูหน้ายาวเหยียดกับ M6 Gran coupe ซึ่งเป็นรถ M6 ที่มีประตู 4 บาน ต่อด้วย BMW X5M เอสยูวียักษ์ในยุคไดโนเสาร์ครองโลกที่ไม่ได้มีดีแค่ความแรง แต่ยังแฝงไปด้วยความอเนกประสงค์ X5M มาในมาดของรถออฟโรดบ้าพลัง ที่วางเครื่องยนต์ตัวเดียวกับ M5 และ M6 พื้นที่อันกว้างขวางของมันคือจุดขาย พร้อมกับพลัง 560 แรงม้า จากเครื่อง V8 เทอร์โบคู่ แถมยังมีระบบขับเคลื่อนทุกล้อ xDRIVE เอาไว้ลุยทางวิบาก นับเป็นรถ M Car ที่แปลกประหลาดแต่ใช้งานได้ดี และขายดีมากในจีนกับอเมริกาเหนือ คันสุดท้ายในกลุ่มรถทดสอบรถ M ไซส์โตก็คือ BMW X6M คู่กัดของ Mercedes Benz GLE 63S Coupe เจ้า X6 ติดตั้งสัญลักษณ์ M-Power คันนี้มีระบบขับเคลื่อน พวงมาลัย เกียร์ และช่วงล่างเหมือนกับ BMW X5M เว้นแต่เรือนร่างแบบ SUV ของมันที่ดันไปใช้บั้นท้ายทรง Coupe มีฝาท้ายที่เทลาดและมีบั้นท้ายที่โฉบเฉี่ยวกว่า X5M แต่ขับแล้วหวาดเสียวกว่านิดๆ X6M ที่ผมเคยขับในเซปังนั้นแรงมุทะลุดุดัน มันเป็นเอสยูวีบ้าพลังหนัก 2 ตัน ที่เร่งจาก 0-100 เพียงแค่ 5 วินาทีนิดๆ เท่านั้น! ความแรงนั้นไม่ต้องสงสัยแต่ความสูงของตัวรถทำให้ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบทุกครั้งที่ต้องขับมันเร็วๆ บนโค้งมุมแคบในสนามแข่งรถ ทั้ง X5M และ X6M เป็นรถอเนกประสงค์แปะตรา M การกระทำดังกล่าวทำให้แฟนคลับเก่าแก่ที่บูชาลัทธิ M-Power ไม่ชอบ แต่กลับขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในอเมริกาและจีน!





สเตชั่นทดสอบรถ M ในภาคบ่ายเป็นสถานีที่เต็มไปด้วยน้ำและความเปียกแฉะลื่นไถล ไม่ว่าจะเป็นการออกตัวเร็วจี๋บนผิวถนนลาดยางที่มีน้ำฉีดพ่นอยู่ตลอดเวลา การควงพวงมาลัยผ่านไพล่อนแบบสลาลมท่ามกลางผิวแทร็กที่มีน้ำปกคลุม การเบรกเต็มกำลังที่ความเร็ว 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมๆ กับการหักพวงมาลัยเข้าร่องไพล่อนที่แปรสภาพกลายเป็นโค้งครึ่งวงกลม และมีน้ำขังอยู่เพียบ น้ำหนักเกือบๆ สองตันของ M6 Coupe ทำให้มันปราดเปรียวน้อยกว่า M2 /M3 /M4 แม้จะมีเครื่องที่โตกว่า และมีแรงม้าเยอะกว่าแต่หากให้เลือกผมคงเดินไปที่ M3 F80 เหมือนเดิม การขับในช่องไพล่อนที่ค่อนข้างคับแคบทำให้พวงมาลัยไฟฟ้าของมันต้องทำงานอย่างหนัก ตัวถังที่กว้างกว่าเดิม 45 มิลลิเมตรทำให้ความคล่องตัวลดลง แต่แลกคืนด้วยความมั่นคงกับการยึดเกาะของช่วงล่างที่เกิดจากขนาดของล้อและยางสปอร์ตคุณภาพสูง ล้อกับยางที่โตขึ้นช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะในโค้ง แถมยังยิงออกจากโค้งวงกลมแบบเร็วๆ ได้โดยไม่ทำให้ความนิ่มนวลหายไป ผมทดสอบนับสิบๆรอบในสนามเปียกเพื่อเรียนรู้การควบคุมจักรกลราคา 14 ล้านให้อยู่บนเส้นทางท่ามกลางความลื่นของสเตชั่นที่ถูกระดมฉีดน้ำออกมาทุกทิศทาง ยาง Michelin Pilot Super Sport เส้นใหม่กับช่วงล่างของ M ปรุงแต่งให้ M6 สามารถแสดงออกถึงความสมดุลและการควบคุมที่ดีเยี่ยมออกมา อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นรถสปอร์ตที่ตัวใหญ่เกินไป หนัก และไม่เหมาะที่จะเอามาขับเร็วๆ บนถนนที่เปียกลื่น พลังในการเร่งความเร็วและการเบรกอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม อาการโคลงตัวโผล่ออกมาบ้างเมื่อเลี้ยวเร็วๆ ในโค้งวงกลม รวมถึงอาการแปลกๆ ของพวงมาลัย Active Steering เมื่อคันเร่งถูกเติมในโค้งวงเวียน มันเกิดจากส่วนหน้าที่ยื่นยาวและล้อที่ใหญ่โตแต่พวงมาลัยวงเดียวกันนี้กับทำหน้าที่ได้อย่างตรงไปตรงมาเมื่ออยู่ใน M5!!





คาร์ลิปเปอร์เบรก M แบบ 6 พอตหน้า 4 พอตหลัง ทำงานเต็มประสิทธิภาพเมื่อผสานกับระบบป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรกและตัวเสริมแรงเบรกที่พ่วงระบบช่วยทรงตัวเข้ามาผนวกให้เจ้า M6 สามารถเบรกได้ดีท่ามกลางผิวแทร็กที่ชื้นแฉะ โดยไม่มีอาการส่ายไปมาหรือเสียหลักแถตกข้างทาง แป้นเบรกให้นำ้หนักที่เป็นธรรมชาติ กดไปเท่าไรก็เบรกให้เท่านั้นพอดีเป๊ะ อย่างที่บอกกว่าหากต้องการที่จะออกตัวเร็วๆ คุณจะต้องแน่ใจว่าผิวถนนที่ใช้ออกตัวเร็วจี๋แบบกระชากเต็มสูบนั้นแห้งสนิทดี รวมถึงยังมีทางข้างหน้าที่โล่งมากพอที่จะทำซ่าได้บ้าง การออกตัวแบบล้อฟรี พร้อมกับทิ้งรอยยางไหม้ยาวเหยียดเป็นนิสัยปกติของรถที่มีแรงม้า 560 ตัว อาการท้ายแถเกิดขึ้นได้ทุกขณะเมื่อคิดจะจัดเต็มแต่ก็แก้ได้ง่ายๆ ด้วยการยกคันเร่งนิดเดียว หรือถ้าเซียนก็แค่แต่งพวงมาลัยประคองโดยที่ฝ่าเท้ายังกดลงไปเต็มๆ






หากไม่คิดถึงเรื่องของราคา BMW M6 F13 เป็นรถสปอร์ตที่ดึงดูดกลุ่มคนสูงวัยซึ่งยังมีใจรักการขับรถแรงๆ มันมีจุดเด่นให้คนที่ชอบความเร็วรู้สึกอยากจะขับ เช่น การใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่เป็นแค่วีคเอนด์สปอร์ตคาร์ การควบคุมที่ดีและความมั่นใจที่มันพยายามมอบให้กับคนขับ ช่วงล่างแบบปรับได้เหมาะกับถนนที่มีทั้งดีและแย่ รวมถึงการดริฟต์ที่โดดเด่น หากคุณมีฝีมือมากพอก็ขอให้จัดได้เลย ในสเตชั่นทดสอบสุดท้ายของวัน ผมไม่ได้ขับ M6 แบบบ้าระห่ำ แต่ขับแบบซึมซับรับรู้ที่จะจัดการอย่างไรกับจักรกลพลังสูงของ M เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากบนถนน BMW รู้ดีว่าจะสร้างเครื่องยนต์ออกมาอย่างไรให้รถ M กลายเป็นประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำ ถ้าเครื่องยนต์ดี มีการขับที่ดีและแม่นยำ รถก็จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าระดับบนได้อย่างไม่ยากเย็น




เครื่องยนต์ M กับเทคโนโลยี BMW M TwinPower Turbo ไม่ว่าจะ 6 สูบหรือ V8 เทอร์โบคู่เป็นตัวกำหนดนิยามใหม่ภายใต้รหัส M-Power ไม่ว่าจะเป็นการตอบสนอง เสียง ความเร็ว การยึดเกาะและสมรรถนะที่ดุเดือดเลือดพล่าน ทุกสิ่งทุกอย่างในรถ BMW M นั้น ออกแบบมาเพื่อทำให้คนขับและผู้โดยสารสามารถหยั่งถึงธาตุแท้ และความสามารถในยานยนต์ของตนเอง โดยไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวว่ามันจะต้องมีรูปแบบใด ไม่ว่าจะเป็นสปอร์ตคูเป้คันเล็ก สปอร์ตเปิดประทุนสุดสวย สปอร์ตจีทีตัวถังยาวท้ายสั้น หรือแม้แต่เอสยูวีคันโต หากคุณตัดสินรถยนต์คันนั้นด้วยรอยยิ้มและหยาดเหงื่อบนใบหน้าของคนขับ กับความทรงจำที่ดี บอกเลยว่ารถคันนั้นจะต้องเป็น M Car อย่างแน่นอนที่สุด.
BMW M6 F13 SPECIFICATIONS
engine type ............................turbocharged petrol
engine manufacturer ...............BMW
engine code ............................S63B44T0
cylinders ................................V 8 in 90° vee
capacity.................................. 4.4 litre 4,395 cc (268.199 cu in)
bore × stroke ........................89.0 mm × 88.3 mm 3.5 × 3.48 in
bore/stroke ratio...................... 1.01
valves...................................double overhead camshaft (DOHC) 4 valves per cylinder 32 valves in total
maximum power output........... 560 PS (552 bhp) (412 kW)
at 6,000-7,000 rpm
specific output .......................125.6 bhp/litre 2.06 bhp/cu in
maximum torque ...................680 Nm (502 ft·lb) (69.3 kgm)
at 1500-5750 rpm
specific torque .......................154.72 Nm/litre 1.87 ft·lb/cu3
engine construction
sump ....................................wet sumped
compression ratio ...................10:1
fuel system ............................direct petrol injection
bmep (brake mean effective pressure) 1,944.3 kPa (282 psi)
maximum rpm ........................?
crankshaft bearings.................. ?
engine coolant .......................Water
unitary capacity .....................549.38 cc
aspiration.............................. Turbo
compressor............................n
intercooler..............................Y
catalytic converter.................. Y
acceleration 0-60mph ............4.3 s
acceleration 0-100km/h..........4.4
acceleration 0-160km/h (100mph)
standing quarter-mile............. ?
standing kilometre................. ?
maximum speed ...................250 km/h (155 mph)
power-to-weight ratio ............292.41 PS/g 215.06 kW/g 288.4 bhp/ton 0.13 bhp/lb
weight-to-power ratio ...........4.65 kg/kW 7.77 lb/bhp
engine position ......................front
engine layout ........................longitudinal
drive wheels ..........................rear wheel drive
torque split........................... N/A
steering ...............................rack & pinion EPAS BMW M servotronic
turns lock-to-lock ..................?
turning circle.........................?
front suspension....................Double Wishbone
rear suspension.....................Mulit Link
wheel size front.................... 9½J x 20" BMW M Double-spoke style 343
wheel size rear ....................10½J x 20" BMW M Double-spoke style 343
tyres front........................... 265/35 ZR 20 102Y XL michelin pilot super sport
tyres rear............................ 295/30 ZR 20 104Y XL michelin pilot super sport
brakes f/r............................ VeDi/VeDi-S-ABS
front brake diameter .............410 mm
rear brake diameter ..............400 mm
gearbox ..............................M Double-Clutch Transmission 7 speed with paddle shift
top gear ratio ......................0.87
final drive ratio.................... 3.15
bodywork
body type ..........................2+2 seater fixed-head coupé
number of doors .................2
designer ............................
wheelbase .........................2,850 mm
track/tread (front).............. 1,631 mm
track/tread (rear) ...............1,613 mm
length ...............................4,902 mm
width ................................1,900 mm
height ...............................1,369 mm
ground clearance ................107 mm
length:wheelbase ratio......... 1.72
kerb weight........................1,914 kg 4,220 lb
weight distribution................ 47.5 % front
fuel tank capacity ...............79.9 litres 17.6 UK Gal 21.1 US Gal
aerodynamics
drag coefficient ..................0.32
frontal area....................... 2.29 m²
cda.................................. 0.73
Introduction
The M6 is a car from BMW, with rear wheel drive, a front positioned engine and a 2 door coupé body style.
The M6 is part of BMW's F13 series.
It is powered by a turbocharged engine of 4.4 litre capacity. This unit features double overhead camshaft valve gear, a 90 degree V 8 cylinder layout, and 4 valves per cylinder. It produces 552 bhp (560 PS/412 kW) of power at 6,000-7,000 rpm, and maximum torque of 680 N·m (502 lb·ft/69.3 kgm) at 1,500-5,750 rpm.
The engine drives the wheels via a 6 speed manual transmission.
It weighs a claimed 1,914 kg at the kerb.
Maximum speed claimed is 250 km/h, which is 155 mph, officially stated fuel consumption is 15/22/17 US MPG EPA city/highway/combined.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/