Mazda 2 เวอร์ชันปรับโฉม มีให้เลือกทั้งดีเซล 2.5 ลิตร เทอร์โบ และเบนซิน 1.3 ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศ เป็นการนำเอา Mazda 2 ที่ลากขายยาวนานกว่า 10 ปี มาใส่สีสันให้สดใส เพิ่มอุปกรณ์ภายในให้มีความน่าใช้ และเพิ่มราคาที่พอจะรับกันได้ เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าด้วยขนาดและน้ำหนักของ Mazda 2 ทำให้มันเป็นรถเล็กที่มีความกะทัดรัดคล่องตัวสูง ทรงแบบ KODO Design ขายมานานกว่า 10 ปี โดยมีการปรับโฉมเล็กๆ น้อยๆ อย่างต่อเนื่องทุกๆ 3-4 ปี ก็ยังแรงและขายได้ดีทุกครั้งที่มีการปรับปรุง การสร้างสรรค์ยานยนต์คนเมืองไซส์จิ๋วที่เน้นคุณภาพของงานประกอบ โดยเฉพาะชิ้นส่วนภายใน การยกระดับไดนามิกให้มีมาตรฐานดียิ่งขึ้นเทียบเท่าหรือดีกว่ารถเล็กจากทวีปยุโรปบางรุ่น ยิ่งทำให้แมวเก้าชีวิตรุ่นนี้อยู่ยั้งยืนยงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานานเกือบสิบปี

...

Mazda 2 ที่วางเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.3 ลิตร 1,299 ซีซี นั้นเป็นเครื่องยนต์แบบแถวเรียง 4 กระบอกสูบ 16 วาล์ว กับระบบส่งกำลังอัตโนมัติแบบ 6 สปีด SkyActiv Drive ผนวกเทคโนโลยีเครื่องยนต์ SkyActiv G ซึ่งเป็นนวัตกรรมขุมกำลังประสิทธิภาพดีจากแบรนด์ Zoom Zoom ที่ใช้วางลงในรถ Mazda 2 เวอร์ชันเครื่องยนต์เบนซิน เป็นการเติมเต็มช่องว่างทางการตลาดที่ครอบคลุมและมีความหลากหลายจากแนวคิดและความหาญกล้าของผู้บริหาร Mazda ที่กล้าตัดสินใจนำเอารถเล็กรุ่นพิมพ์นิยมมาวางขุมกำลังสองแบบสองทางเลือกที่ให้ประโยชน์สูงสุดกับลูกค้าในด้านการขับใช้งาน รูปลักษณ์ที่ปรับใหม่ในด้านสีสันที่สดใส อุปกรณ์ตกแต่งภายนอก โดยเฉพาะรถคันทดสอบรุ่น Clap Pop ที่มีความน่ารักน่าชัง

Mazda2 Hatchback 1.3 C Clap Pop Sports

Rookie Drive Sports อุปกรณ์มาตรฐานที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นมาตรฐาน 1.3 C Sports

กระจังหน้า สีขาว
ชุดสติกเกอร์ Clap Pop
ชุดครอบกระจกมองข้าง สีขาว Ceramic Metallic
ชุดฝาครอบล้อ สีขาว Ceramic Metallic
หลังคาสีขาว
เสาอากาศแบบครีบฉลาม
คุณสมบัติพื้นฐานเทียบเท่ารุ่น 1.3 C Sports

...

...

...

Mazda 2 SkyActiv G 1.3 Sports สีเทา กระจกมองข้างสีส้ม ตกแต่งภายนอกภายในสไตล์ Clap Pop ซึ่งเป็นรุ่นแต่งพิเศษ ราคา 647,000 บาท เป็น Mazda 2 ที่เพียบพร้อมด้วยความลงตัวด้านสีสันและของแต่ง อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และระบบรองรับการขับขี่กับระบบความปลอดภัยครบ Mazda 2 รุ่นที่มีราคาไม่แพง ถือว่ามีความครบในด้านอุปกรณ์และความสวยงาม สำหรับ Mazda2 Hatchback 1.3 C Clap Pop Sports มีกระจังหน้าสีขาว ชุดสติกเกอร์ Clap Pop ชุดครอบกระจกมองข้างสีส้ม ชุดฝาครอบล้อพลาสติก สีขาว Ceramic Metallic หลังคาขาว เสาอากาศแบบครีบฉลาม มิติตัวถังกว้าง 1,695 มิลลิเมตร ยาว 4,320 มิลลิเมตร และสูง 1,470 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,570 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหน้า 1,495 มิลลิเมตร หลัง 1,485 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,071 กิโลกรัม ล้อกระทะเหล็ก ขอบ 15 นิ้ว ปิดคลุมด้วยพลาสติกลายน่ารักสีดำสลับขาว ยาง Dunlop Enasave EC300 + ไซส์ 185/65R15

Mazda 2 Sports มีขนาดของห้องโดยสารที่กว้างใช้ได้ ภายในที่สวยงามของรุ่น 1.3 Clap Pop ซึ่งเป็นรุ่นตกแต่งพิเศษ เครื่องยนต์เบนซินราคา 6.4 แสนบาท เหนือกว่าคู่แข่งทุกคันที่มีราคาเท่ากับมัน งานตกแต่งภายใน เริ่มจากเบาะหุ้มหนังอย่างดีแต่ปรับด้วยมือ แผงประตูเรียบง่าย วัสดุของมือจับที่เปิดประตูดูดี พวงมาลัย 3 ก้านแบบใหม่ หน้าจอมอนิเตอร์แสดงผลกลางมีการกรุด้วยพลาสติกสีดำ ปุ่ม Mazda driver selection หรือปุ่มปรับไป Sport Mode ทำจากอัลลอย แม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็ออกแบบได้ดีและทำให้ประสิทธิภาพของการขับแบบซิ่งมีการตอบสนองที่ดีขึ้นเล็กน้อย

Active Driving Display มาตรวัดที่ชัดเจนอ่านง่าย Mazda ให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมในการขับขี่ที่ดี ด้วยการออกแบบหน้าจอ Active Driving Display และมาตรวัดต่างๆ แสดงผลให้ชัดเจนอ่านง่าย หน้าจอ Active Driving Display ถูกอัปเกรดใหม่เป็นหน้าจอสีที่เพิ่มความสว่าง ความคมชัดมากกว่าเดิม สัญญาณเตือนต่างๆ จะเป็นสีแดงและเหลืองอำพัน กรอบด้านในของหน้าปัดวงกลมแบบแอนะล็อกปรับใช้ดีไซน์ใหม่ที่แบน เรียบง่าย และใช้สีดำเป็นหลัก ตัวอักษรใช้แบบเดียวกันหมดทุกมาตรวัด หน้าจอ LCD ที่แสดงผลทั้งด้านซ้ายและขวาก็ได้เปลี่ยนให้มีการจัดเรียงแบบแนวนอน ให้ความคมชัดขึ้น และมุมมองที่กว้างขึ้น

งานออกแบบภายในยังดูดีแม้เวลาจะผ่านไปนานหลายปีแล้ว เวอร์ชันล่าสุดในร่างทรง C Clap Pop Sports เชื่อมโยงกับความสำเร็จในด้านยอดขายตลอดระยะเวลา 9 ปี ทำให้แบรนด์ Zoom Zoom สามารถอยู่รอดปลอดภัยในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ (แม้จะมาเสียทรงกับรถกระบะและเครื่อง Skyactiv X) นอกจากเบาะหนังที่มีการเย็บเดินตะเข็บที่เชื่อมโยงกับรูปแบบสปอร์ตแล้ว พวงมาลัยกับหน้าปัดที่คุ้นเคยของ Mazda 2 อุปกรณ์บางอย่างยังเหมือนเดิม เห็นได้อย่างชัดเจนทั้งมาตรวัดและชุดควบคุมอุณหภูมิแบบปุ่มหมุนจำนวนสามปุ่มกับจอแสดงผลมัลติฟังก์ชัน ซุ้มเกียร์และรูปแบบของงานดีไซน์ภายในก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง

สภาพการขับขี่ทดสอบในเมืองสร้างความรู้สึกที่แตกต่างไปจากการขับทดสอบทางไกล ปริมาณรถยนต์ในเขตเมืองที่หนาแน่นนั้นเหมาะกับขนาดของ Mazda 2 คุณสามารถวิ่งไหลไปเรื่อยๆ หรือเปลี่ยนช่องทางเพื่อเลี้ยวกลับรถได้อย่างสะดวกเมื่อใช้รถที่มีเรือนร่างกะทัดรัดแบบนี้ เป็นการทดสอบความคล่องตัวของแชสซี ระบบรองรับ การถ่ายเทน้ำหนัก ชุดบังคับเลี้ยวไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังว่าจะสามารถผ่านเกณฑ์การทดสอบความคล่องตัวด้วยการบังคับควบคุมหักเลี้ยวไปตามเส้นทางภายในเมือง 

Mazda Skyactiv Vehicles Dynamic G-Vectoring Control หรือ GVC ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างการเร่งความเร็ว เบรก และการเลี้ยวเข้าโค้งเป็นไปอย่างสมดุลราบรื่นและมีความต่อเนื่อง โอกาสที่คุณจะต้องแก้พวงมาลัยในโค้งลดลงหรือพูดง่ายๆ ก็คือโอกาสที่รถจะเสียอาการมีน้อยกว่าเดิม Mazda คำนึงถึงความเป็นจริงของหลักกลศาสตร์การเคลื่อนที่ ระบบ G-Vectoring Control ช่วยทำให้รถมีอาการโคลงตัวน้อยลง 

Mazda 2 เบนซินมีจุดเด่นโดนใจ ท่านั่งสบายๆ จากเบาะนั่งที่ออกแบบให้ขับทางไกลได้ดี คันเร่งไฟฟ้าตอบสนองได้ในแบบที่ควรจะเป็น รวมถึงเครื่องยนต์ 1.3 ลิตร SkyActiv ก็ยังทำหน้าที่ได้อย่างขยันขันแข็งเมื่อเชื่อมต่อกับชุดส่งกำลังแบบ 6 สปีดออโต้ ซึ่งเป็นเกียร์ SkyActive Drive หากคุณเป็นแฟนของรถยนต์ยี่ห้อนี้ คำว่า SKYACTIV ถูกใช้มานานนับครั้งไม่ถ้วน เทคโนโลยีของตัวรถที่ Mazda ใช้เวลาวิจัยพัฒนาจนกลายมาเป็นโลโก้สินค้า มีความทันสมัยแม้จะผ่านเวลามาพอสมควร กำลังแรงบิด น้ำหนักตัว ความสะอาดในด้านการปล่อยมลพิษ ความประหยัด คุณภาพของห้องโดยสาร ถูกปรับปรุงจนมีความน่าใช้งาน คุณภาพชิ้นส่วนตกแต่งภายใน งานประกอบและการเลือกใช้วัสดุยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี และการควบคุมที่ได้ดั่งใจ ทำให้มันเป็นรถเล็กที่ยังคงอยู่ยืนยงในตลาดรถ City Car ของไทย

เครื่องยนต์ของ Mazda 2 Hatchback 1.3 C Clap Pop Sports เป็นเครื่องเบนซินแถวเรียง 4 สูบหายใจเอง ปริมาตรความจุ 1,299 ซีซี 4 วาว์ลต่อสูบ 16 วาล์ว ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบยิงตรงไดเรคอินเจคชัน ความกว้างกระบอกสูบ 71 มิลลิเมตร ช่วงชัก 82 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.0:1 มีกำลังสูงสุด 69 กิโลวัตต์ หรือ 93 แรงม้า ที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Skyactive Transmission ระบบบังคับเลี้ยวเป็นพวงมาลัยแรคแอนพีเนียนพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าผ่อนแรงหมุน มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 4.7 เมตร ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช้คอัพและกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชันบีม ระบบห้ามล้อของล้อหน้าใช้ดิสเบรกพร้อมครีบระบายความร้อน สำหรับเบรกหลังเป็นแบบดรัมเบรก ล้ออัลลอยขอบ 15 นิ้ว พร้อมยางไซส์ 185/65R15

เครื่องยนต์ 1.3 ลิตร SkyActiv G ของเจ้า C Clap Pop Sports Mazda เคลมว่า มีอัตราสิ้นเปลือง เท่าเดิมที่ 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อย Co2 100 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร และมีค่ามาตรฐานของการปล่อยไอเสียอยู่ในระดับ EURO-5 สำหรับความแตกต่างที่เห็นได้ชัดและกลายมาเป็นจุดขายที่เหนือกว่ารถคู่แข่งในกลุ่ม B-Car และ Eco-Car ก็คือ ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติทอร์คคอนเวอร์เตอร์ 6 สปีด ซึ่งรถคู่แข่งส่วนใหญ่ใช้เกียร์ CVT ที่มีอาการย้วยไม่กระชับเท่ากับเกียร์เฟืองต่างขนาดของ Mazda เจ้า Mazda 2 เบนซิน 1.3 ยังมีการขับขี่ควบคุมที่เหมือนเดิม นั่นคือ ความรู้สึกกระชับและแม่นยำของพวงมาลัย ช่วงล่างยึดเกาะดีแม้ความยาวฐานล้อไม่มากนักแต่ขับแล้วชอบในเรื่องของความเสถียรและการทรงตัวในย่านความเร็วสูง การถ่ายเทน้ำหนักในโค้งที่สมดุล ด้วยรูปแบบของตัวถัง (แฮตช์แบค 5 ประตู ซีดาน 4 ประตู) ส่วนสิ่งที่แตกต่างกันของเครื่องยนต์ทั้งสองแบบก็คือย่านของแรงบิด รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลนั้นแรงกว่า จัดมาให้ถึง 250 นิวตันเมตร รวมถึงอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของรุ่นดีเซลนั้นต่ำกว่า แต่น้ำหนักของตัวรถในรุ่นเบนซินนั้นเบากว่าเกือบ 200 กิโลกรัม ทำให้สมรรถนะของ Mazda 2 เวอร์ชันเครื่องเบนซินไม่ได้เป็นรองรุ่นดีเซลมากนัก ความคล่องตัวและมีพื้นที่ใช้สอยโซนหน้าที่มากพอ บวกกับสีสันที่จัดจ้านทำให้เจ้า 2 ยังคงมีความน่าใช้เมื่อเทียบกับรถเล็กของคู่แข่ง

ขับกี่ครั้งก็ยังชอบความคล่อง กำลัง 93 แรงม้ากับแรงบิด 123 นิวตันเมตร ของเครื่องเบนซิน 1.3 Sport High Plus Skyactiv-G เทียบไม่ได้กับ 105 แรงม้ากับ 250 นิวตันเมตรในรุ่นดีเซลเทอร์โบ XD Sport High Plus L แต่เครื่องยนต์ 1.3 ลิตรเบนซินก็ตอบสนองได้ในแบบที่ควรจะเป็น อัตราสิ้นเปลืองของรุ่นเบนซินเมื่อขับแบบสื่อมวลชนอยู่ที่ 18 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนรุ่นดีเซลขับแบบอัดๆ ยกๆ ได้ 22 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งไม่ได้ขับช้าเป็นเต่าคลานเมื่อถนนโล่งก็มีการยิงยาวจนเกือบจะทะลุ แรงบิดที่ดีเยี่ยมของรุ่นดีเซลทำให้คุณสนุกได้ทุกเวลาแต่ถ้าขับในเมืองบ่อยๆ ไม่ค่อยได้ออกทางไกลรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน E20 ก็ไม่ได้ขี้เหร่แต่อย่างใดทั้งสิ้น

ราคา 6.7 แสนบาทของ Mazda 2 Hatchback 1.3 C Clap Pop Sports สีน้ำเงิน deep crystal blue เบนซิน 1.3 ลิตร Skyactiv-G สมน้ำสมเนื้อกับสิ่งที่คุณจะได้รับกลับคืนมา มันเป็นรถเล็กของพวกชอบขับพร้อมภายนอกสไตล์วัยรุ่นสายแต่ง ภายในเรียบง่ายด้วยวัสดุตกแต่งที่มีคุณภาพ จอเดิม มาตรวัดเดิม คันเบรกมือที่หลายคนไม่ชอบ แต่คนที่เคยใช้ยังรับได้กับความคงทนของคันเบรกมือแบบเก่าที่หายากแล้วในปัจจุบัน ช่วงล่างสไตล์ Mazda ทำให้ขับสนุกเหมือนเดิมทุกอย่าง เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง ชุดบังคับเลี้ยว กับน้ำหนักแค่ตันเดียวทำให้เป็นรถที่ปราดเปรียว ขับสนุก มีอัตราสิ้นเปลืองเมื่อขับแบบปกติอยู่ที่ 18 กิโลเมตรต่อลิตร ถือว่ามีความประหยัดอยู่ในเกณฑ์ดี แต่อัตราเร่งของเครื่องเบนซินยังเป็นรองรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลอยู่พอสมควร ถ้ามีงบไม่เกิน 6.5 แสน ใช้งานแค่คนเดียวหรือไปไหนมาไหนไม่เกิน 3-4 คน ชอบรถพวงมาลัยคมๆ ช่วงล่างเกาะถนน ขับสนุก และยังกล้าๆ กลัวๆ กับรถยนต์ไฟฟ้า เลือก Mazda 2 Hatchback 1.3 Clap Pop หรือรอรถรุ่นใหม่ที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะโผล่ออกมาเมื่อไหร่ก็ตามแต่ใจปรารถนาครับ.