รูปทรง Coupe SUV ไม่ได้มีลักษณะเฉพาะสำหรับ BMW เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันอย่าง Volkswagen Group ก็มีรถเอสยูวีคูเป้รุ่นขายดีอย่าง Porsche Cayenne Coupe รวมถึง Audi Q8 ส่วน Mercedes-Benz ก็ผลิตรถ Coupe SUV ออกมาขายหลายรุ่นและขายได้ดีซะด้วย ยกตัวอย่างเช่น GLC และ GLE Coupe ที่ยังคงไปได้ดีในตลาดรถสปอร์ตเอสยูวีท้ายลาด สำหรับ BMW X6 ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของรถอเนกประสงค์ตัวถัง Coupe SUV สุดหรูที่ทำตลาดมานานกว่า 10 ปีแล้ว ลูกค้าที่เลือกรถ X6 จะได้ทั้งความสวยงามและประสิทธิภาพของการใช้งาน แม้ว่าความเฉียบคมด้านสมรรถนะของรถไม่ใช่จุดขายของ Coupe SUV เสมอไป จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ X6 ที่วางเครื่องยนต์ B58B30 แบบเดียวกับที่อยู่ใน BMW Z4 M40i BMW M440i BMW M340i และ BMW X5 XDrive 50e ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ แบบแถวเรียง 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร ใน X6 40i เครื่อง B58 ให้กำลัง 381 แรงม้า และแรงบิด 520 นิวตันเมตร (ยังไม่รวมแรงบิดของมอเตอร์ไฟฟ้า) 

...

แม้ว่าความแปลกประหลาดของรูปทรงอาจทำให้หลายคนคาดหวังเกี่ยวกับการขับขี่ของ X6 LCI ว่ามันต้องดีกว่า แต่ X6 ก็เป็นยานพาหนะที่มีประโยชน์และใช้งานได้จริง แม้พื้นที่เหนือหัวของผู้โดยสารที่เบาะหลังจะเหลือน้อยลงแต่ไม่ได้สร้างความอึดอัดเมื่อเดินทางไกล อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงค่อนข้างดีประมาณ 11.5-12.7 กิโลเมตรต่อลิตร (เมื่อใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด) New X6 40i LCI และเครื่องยนต์ B58 พ่วง Mild Hybrid 48V สามารถจัดการกับการบริหารเชื้อเพลิงได้อย่างไม่น่าเชื่อ มีคุณสมบัติที่ดีของยานยนต์เยอรมันยุคใหม่อย่างเต็มเปี่ยม นั่นก็คือ ประสิทธิภาพด้านอัตราเร่งและการทรงตัวที่ทำให้รู้สึกประทับใจเมื่อขับเร็ว หรือใช้ความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง ส่วนพื้นที่เก็บของด้านหลังนั้น ถึงแม้จะมีแนวหลังคาที่ลาดเอียงอย่างมาก พื้นที่เก็บของด้านหลังก็ยังออกแบบให้เป็นโพรงเพื่อเพิ่มความจุให้กับห้องเก็บสัมภาระได้โดยไม่ส่งผลกระทบกับความจุของห้องเก็บสัมภาระท้ายมากนัก 

...

ก่อนที่จะพูดเรื่องแรงม้า แรงบิด ระบบขับเคลื่อน ช่วงล่าง ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย สมรรถนะ หรือตัวชี้วัดอื่นที่ทำให้คุณตัดสินใจควักเงินเฉียด 6 ล้านแลก กับรถเอสยูวีรูปทรงประหลาดล้ำ การตัดสินรูปทรงของ BMW X6 xDrive40i ปี 2024 ในฐานะที่เป็น "SUV coupe" ภาพลักษณ์ของมันมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างรูปทรงของรถสองประตู แม้ว่ามันจะมีสี่ประตู (ห้าประตูหากนับรวมกับฝาท้ายไฟฟ้า) ทรงของรถ X6 ท้าทายคำจำกัดความของคำว่า "coupe" นอกเหนือจากการตั้งชื่อว่า SAV sport activity vehicle แล้ว สไตล์ของ X6 ยังแบ่งแยกกลุ่มรถอเนกประสงค์ของแบรนด์ตราใบพัด อย่างชัดเจน ลูกค้าบางคนซื้อ X6 เพียงเพราะว่ามันดูไม่เหมือนกับรถ SUV คันอื่น (ยกเว้น X4) ในทำนองเดียวกัน ส่วนหนึ่งของลูกค้าที่มีศักยภาพด้านกำลังทรัพย์ยังรู้สึกลังเลกับการอยากได้ X6 แล้วหันไปเลือก X5 หรือ X7 ที่มีรูปทรงแบบรถอเนกประสงค์ปกติ เนื่องจากมีพื้นที่เหนือศีรษะบริเวณเบาะหลังจะมากกว่าความสปอร์ตของหลังคาที่ลาดเอียงไปยังส่วนท้ายของรถ

...

รถ SAV คูเป้ขนาดใหญ่คันนี้ มีเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียงเทอร์โบที่แข็งแกร่ง ผสานกับ Mild Hybrid 48V ซึ่งมีมอเตอร์ไฟฟ้าขั้นอยู่ระหว่างเครื่องยนต์และระบบเกียร์ 8 สปีด X6 รุ่นปรับโฉม LCI 2024 ถือเป็น Coupe SUV ที่มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวกว่า BMW X5 50e และเป็นคู่ต่อสู้ของ Mercedes GLE53 กับ Porsche Cayenne Coupe ซึ่งเป็นรถอเนกประสงค์ที่มีทรงของหลังคาส่วนท้ายลาดเอียงเหมือนกัน BMW X6 รุ่นปรับโฉม LCI ได้รับการอัปเดตปรับโฉมครั้งล่าสุดในปี 2024 นี้เอง สัดส่วนที่คลาสสิกและงานตกแต่งภายนอกภายในอย่างงาม ตามที่คุณคาดหวังจากรถออฟโรดหลังคาคูเป้ หลังคาที่ทำมุมโค้งมนลาดเอียงไปยังส่วนท้าย สะท้อนถึงเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวของรถสปอร์ตเอสยูวี เช่นเดียวกับกระแสการออกแบบใน BMW รุ่นล่าสุด กระจังหน้าไตคู่ที่เป็นเครื่องหมายการค้านั้นมีขนาดใหญ่เหมือนเดิม นอกจากนี้ยังมีไฟ LED เรืองแสงส่องสว่างอยู่ภายในชุดกระจัง เพื่อทำให้สะดุดตาและสร้างความดุดันยามเดินทางบนถนนในเวลากลางคืน

...

ในปี 2019 X6 เจเนอเรชันที่สาม รหัส G06 เปิดตัวสู่โลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง ด้วยการออกแบบเชิงวิวัฒนาการ พร้อมด้วยส่วนหน้าที่ดุดัน กระจังหน้าขนาดยักษ์เอกลักษณ์ของ BMW ยุคใหม่ มันดูสะดุดตาด้วยสัดส่วนที่ค่อนข้างลงตัว มีพื้นที่ด้านข้างตัวถังที่กว้างขึ้นและหลังคาโค้งมนลาดเทไปยังส่วนท้ายดึงดูดลูกค้าที่ชอบความแตกต่างทั้งจาก X5 และ X7 ที่เป็นเอสยูวีหลังคาปกติ สำหรับ New X6 รุ่นปรับโฉม LCI 2024 มีการออกแบบใหม่หลายจุด มีลักษณะเฉพาะของรถ BMW ตระกูล X ขนาดใหญ่ที่มีการปรับภาพลักษณ์ ทั้ง X5 / X6 และ X7 โฉม LCI ฟังก์ชันไฟส่องสว่างแบบใหม่ทำให้กระจังหน้าของ X6 ดูทันสมัยและดุดันในเวลากลางคืน ด้านข้างกับทรงของหลังคาที่ค่อยๆ เทลาดลงไปยังส่วนท้าย ไฟท้ายทรงยาวทำให้มันมีบั้นท้ายที่ดูเพรียวบางกว่า X6 ทุกรุ่น แม้จะมีขนาดที่ใหญ่โต แต่ก็มีรูปลักษณ์เหมือนกับ X4 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รูปทรงไฟท้ายที่ยาวและมุมที่เกินจริงของประตูท้ายขนาดใหญ่ มิติตัวถังของ BMW New X6 XDrive 40i M Sport Pro ยาว 4,935 มิลลิเมตร ยาวกว่ารุ่นก่อน 26 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อยาวขึ้น 42 มิลลิเมต ที่ 2,975 มิลลิเมตร นอกจากนี้ยังกว้างขึ้น 15 มิลลิเมตร ที่ขนาดความกว้าง 2,004 มิลลิเมตร สัดส่วนความสูงอยู่ที่ 1,696 มิลลิเมตร BMW นำเสนอแพ็กเกจการใช้งานทั้งบนถนนและบนเส้นทางออฟโรด ทำให้ X6 LCI มีรูปลักษณ์ที่สมบุกสมบันมากขึ้น พร้อมการป้องกันใต้ท้องรถที่เพิ่มเข้ามา เพิ่มระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถ ยางแบบสปอร์ตที่โตขึ้น ถุงลมที่ปรับความสูง-ต่ำของระบบ Adaptive Air Suspension ตลอดจนโหมดการขับเคลื่อนเฉพาะสำหรับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ 3.0 ลิตรเชื่อมต่อกับกระปุกเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงชุดล็อกเฟืองท้ายด้านหลัง เพื่อเพิ่มคุณประโยชน์ในการยึดเกาะถนนในสภาพการขับขี่แบบออฟโรด 

BMW X6 เดินทางมาถึงเจเนอเรชันที่ 3 ด้วยรหัสตัวถัง G06 รถทดสอบรุ่น xDRIVE 40i M Sport สีเทา ราคาประกอบไทย อยู่ที่ 5,939,000 บาท (รวม BSI) ยิ่งดูใกล้ๆ ก็ยิ่งทำให้นึกถึงแฮตช์แบ็กทรงล้ำอนาคตที่ถูกขยายสัดส่วนทั้งความกว้าง ความยาว ส่วนความสูงลดลงเล็กน้อย ไฟหน้าและกระจังหน้าใหม่ เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำของหลอดไฟ LED ที่ทำงานร่วมกับเซนเซอร์ในระบบส่องสว่างแบบอัตโนมัติด้วยระบบไฟ BMW Adaptive LED ภายในกรอบไฟหน้าตกแต่งด้วยพลาสติกสีฟ้าที่มีรูปทรงคล้ายก้างปลา กระจังหน้าพร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ เมื่อเครื่องยนต์มีอุณหภูมิต่ำ กระจังจะปิดเพื่อกั้นไม่ให้กระแสลมไหลผ่าน ซึ่งทำให้แรงต้านอากาศลดลง กระจังจะเปิดออกเองโดยอัตโนมัติ เมื่อเซนเซอร์ตรวจพบว่าอุณหภูมิของห้องเครื่องยนต์อยู่ในเกณฑ์ที่จะต้องระบายความร้อนอย่างรวดเร็ว กันชน Mใน X6 รุ่น LCI ปี 2024 ออกแบบช่องรับอากาศขนาดใหญ่ และมีรูปแบบที่ปรับเปลี่ยนไปจากกันชนของ X6 รุ่นปี 2022 บริเวณใต้กระจังหน้าและด้านข้างของชุดกันชนทั้งสองฝั่ง มีช่องรับอากาศทรงรังผึ้ง ไฟตัดหมอกไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากระบบไฟ BMW Adaptive LED ในโหมดอัตโนมัตินั้นสว่างมาก ขณะที่สภาพอากาศไม่ดี ชุดไฟหน้าแบบใหม่จะเพิ่มความสว่างขณะขับบนถนนที่กำลังมีหมอกลงจัดหรือฝนตกหนัก ช่วยเปิดทัศนวิสัยด้านหน้าขณะขับท่ามกลางความมืด หรือในสภาพอากาศที่เลวร้าย

ฝากระโปรงหน้าทำจากอะลูมิเนียม ช่วยลดน้ำหนักและเพิ่มความสวยงามด้วยด้วยการยกสันนูนบนฝากระโปรง เชื่อมโยงกับทรงของชุดกระจัง แนวเสาหน้าที่มีองศาของความลาดเอียงราวกับรถสปอร์ต หลังคากระจก Panoramic กินพื้นที่เกือบทั้งหมดของผืนหลังคาและทำงานด้วยระบบไฟฟ้า คุณสามารถเปิดออกได้จนหมดในวันที่มีอากาศดี หลังคากระจกยังเป็นออปชันที่ลูกค้าชื่นชอบ แม้ว่าจะไม่ค่อยเปิดใช้งาน แต่มีไว้เพื่อความเท่ก็ดีเหมือนกัน! แนวหลังคาที่ลาดเทลงไปยังส่วนท้ายแบบ Coupe กำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงสำหรับรถเอสยูวีของเยอรมัน ไม่ว่าจะเป็น Mercedes-Benz GLE 53 Coupe กับ Audi Q8 60 TFSIe คู่แข่งโดยตรงของ X6 รวมไปถึง Porsche Cayenne Coupe รุ่น E Hybrid ที่มีราคาแพงกว่า (แต่มีออปชันน้อยกว่า) ด้านข้างตัวถังมีแนวซุ้มล้อที่ลงตัว แก้มข้างออกแบบให้มีช่องระบายอากาศที่สอดรับกับแนวโค้งของซุ้มล้อหน้า

ล้ออะลูมิเนียม M ล้อหน้าขนาดความกว้าง 9.5 J x 22" ห่อรัดด้วยยางสปอร์ต Continental Premium Contact 6 ไซส์ยางหน้า 275/35 R22 ส่วนล้อหลังเล่นใหญ่ขึ้นมาอีกนิดที่ 10.5 J x 22" ไซส์ยางหลัง ล่อกันถึง 315/30 R22  X6 xDRIVE 40i คันทดสอบ มีน้ำหนักตัวมากถึง 2,055 กิโลกรัม ต้องยัดเบรกประสิทธิภาพสูงของ BMW M Performance Brakes คาลิปเปอร์เบรกหน้า M แบบ 4 พอต สีแดง พร้อมจานเบรกขนาด 400 มิลลิเมตร เบรกหลังแบบซิงเกิลพอต เส้นผ่าศูนย์กลางจานเบรกหลัง 370 มิลลิเมตร ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ (เมื่อปิดกระจัง) cd 0.34 ระยะเลี้ยวกลับรถ 12.6 เมตร น้ำหนักตัวรถทั้งคัน 2,055 กิโลกรัม น้ำหนักรถสูงสุด (โหลด) 2,975 กิโลกรัม น้ำหนักบรรทุกสูงสุด 740 กิโลกรัม ความจุถังเชื้อเพลิง 83 ลิตร

ขนาดของ X6 เจเนอเรชันที่ 3 ประจำปี 2024 เทียบกับ X6 รุ่นที่แล้ว มีความยาวโดยรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 25.4 มิลลิเมตร, ฐานล้อยาวขึ้นอีก 40 มิลลิเมตร (+1.6 นิ้ว) ความกว้างตัวถังเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 15 มิลลิเมตร (+0.6 นิ้ว) ในขณะที่ความสูงลดลงโดยเฉลี่ย 18 มิลลิเมตร (0.7 นิ้ว) สำหรับระบบอากาศพลศาสตร์ มีการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น โดยมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลง ช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับ X6 อุปกรณ์แนวๆ ที่ทันสมัยและสวยงาม ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อความน่าใช้งาน กระจังหน้าทรงไตคู่แบบใหม่จาก BMW ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม ด้วยการติดตั้งระบบไฟส่องสว่าง LED ในชุดกระจัง สามารถเปิดใช้งานได้ โดยการปลดล็อกหรือล็อกรถ หรือเปิดและปิดด้วยระบบอัตโนมัติ กระจังหน้าแบบส่องสว่างด้วยชุดไฟ LED เป็นส่วนหนึ่งของคุณสมบัติไฟหรี่กลางวัน LED Daytime Runing Light กระจังหน้าทรงไตคู่แบบชิ้นเดียวของ BMW ขนาดใหญ่พร้อมแผ่นเปิดปิดอากาศแบบแอกทีฟ ขนาบข้างด้วยกรอบกระจังทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ช่องเปิดรับอากาศขนาดใหญ่ของชุดกันชน M และเส้นที่แหลมคมของชุดกันชนคืองานดีไซน์ที่ลงตัว

รูปลักษณ์ที่ดุดันของ X6 LCI 2024  ส่วนหนึ่งเกิดจากความใหญ่โตของตัวถังกับล้อ M ขนาด 22 นิ้ว เติมช่องเปิดบริเวณแก้มข้างที่เด่นชัด ห่อรัดด้วยยางสปอร์ตสมรรถนะสูง เพื่อทำให้ได้ประโยชน์จากการเพิ่มระดับของการยึดเกาะ เส้นหลังคาไหลลาดลงด้านหลัง ซึ่งลงท้ายด้วยความละเอียดอ่อน สปอยเลอร์ชิ้นเล็กๆ แปะติดกับขอบของฝาท้าย ซุ้มล้อหลังที่แผ่กว้างผสมผสานเข้ากับส่วนโค้งเว้าของการออกแบบกันชนหลัง บั้นท้ายของ X6 เป็นแบบแยกส่วนสองชั้นที่ใช้งานได้จริง มีการเพิ่มเติมความสวยงามด้วยการออกแบบไฟท้ายทรงยาวที่ขนานในแนวนอนไปกับขอบของฝาท้าย บั้นท้ายของมันยังได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพในด้านอากาศพลศาสตร์ ส่วนที่ลงตัวและซับซ้อนมากที่สุดก็คือ ฝาท้ายแนวของกันชนหลัง และแถบครีบรีดอากาศบริเวณชายล่างของกันชนหลัง ไฟท้าย LED รูปตัว L บางเฉียบ ประดับด้านบนของฝาท้ายโดยอยู่สูงเหนือท่อไอเสียทรงเหลี่ยม ซึ่งรวมอยู่ในแผงดิฟฟิวเซอร์ เป็นงานออกแบบที่ลงตัวและสวยงามไร้ที่ติ จุดนี้ BMW ทำออกมาได้ดีกว่าบั้นท้ายของรถคู่แข่ง

BMW ระบุว่า ได้ทำการปรับปรุงระบบขับเคลื่อนและยกระดับประสิทธิภาพของอินโฟเทนเมนท์กับจอภาพทรงโค้งผ่าน BMW OS8 เป็นการปรับปรุงอย่างครอบคลุม ระบบส่งกำลังใน X6 ใส่แบตเตอรี่ไฮบริด 48V มอเตอร์ไฟฟ้าเสริมแรงในระบบเกียร์ ขุมกำลังที่เป็นหัวใจของการขับเคลื่อน เครื่องยนต์หกสูบ เทอร์โบ 3.0 ลิตร ทำงานคล้ายกับเครื่องยนต์รุ่นอื่นๆ ที่ติดตั้งระบบไฮบริด 48V โดยที่เครื่องยนต์สันดาปจะทำงานร่วมกับเกียร์ 8 สปีด ที่เชื่อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าในตัว มอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มกำลังได้สูงสุด 12 แรงม้า แรงบิด 199 นิวตันเมตร หรือ 147 ปอนด์-ฟุต BMW อ้างว่า Mild Hybrid 48V ช่วยให้ เครื่องยนต์สามารถขับเคลื่อนไดนามิกได้อย่างราบรื่นพร้อมกับประสิทธิภาพสูงการส่งกำลังที่ดีขึ้น แบตเตอรี่ที่ใช้สำหรับระบบไฮบริดจะถูกชาร์จระหว่างการขับด้วยความเร็วสูงและการเบรก นอกเหนือจากการจ่ายไฟให้กับระบบอื่นๆ

เข้ามาดูงานตกแต่งภายใน BMW Live Cockpit Professional พร้อม Head-up display ระบบ Augmented Reality Navigation และอื่นๆ รองรับการสตรีมวิดีโอเต็มรูปแบบ ขณะรถหยุดอยู่กับที่ด้วยระบบสตรีมวิดีโอ YouTube และบริการวิดีโออื่นๆ BMW Curved Display จอภาพทรงโค้งพร้อมระบบปฏิบัติการ BMW OS8 จอแสดงผลประกอบด้วยหน้าจอภาพมาตรวัด แสดงข้อมูลต่างๆ ขนาด 12.3 นิ้วที่ด้านหลังพวงมาลัยตรงหน้าคนขับ และหน้าจอกลางที่มีหน้าจอขนาด 14.9 นิ้วในแนวทแยง ฟังก์ชันการควบคุมแบบสัมผัสของจอแสดงผล บนการควบคุมแบบใหม่ของ BMW ทำให้จำนวนปุ่มและการควบคุมด้วยสวิตช์ ลดลงอย่างมาก รองรับการควบคุมแบบดิจิทัลสำหรับฟังก์ชันใหม่ BMW Digital Key ล็อกหรือปลดล็อกรถยนต์โดยอัตโนมัติ และสตาร์ตเครื่องยนต์ได้ด้วยกุญแจดิจิทัล

จอภาพมอนิเตอร์ขนาดยักษ์แบบ Panorama เชื่อมต่อจอภาพมาตรวัด 12.3 นิ้ว และจอมอนิเตอร์กลาง 14.9 นิ้ว บรรจุระบบปฏิบัติการณ์ OS8 BMW Operating System 8 เพียบพร้อมไปด้วยโปรแกรมต่างๆ เปรียบเหมือนกับคอมพิวเตอร์ส่วนกลางของรถและมีมาให้ใช้งานอย่างครบ เช่น กล้องมองรอบทิศทางความคมชัดสูง กล้องมองรอบทิศทางแบบ 360 องศา มาพร้อมเส้นระนาบในการกะระยะถอย เชื่อมโยงกับระบบนำจอดอัตโนมัติ ระบบนำทางด้วยดาวเทียม วิทยุ การเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกในระบบบลูทูธ รองรับแอปพลิเคชันต่างๆ จอแสดงผลกลางยังใช้ปรับตั้งค่าต่างๆ เช่น ระบบไฟ ระบบปรับอากาศ โหมดขับเคลื่อน การปรับตั้งค่าแยกย่อ ระบบเครื่องเสียง แสดงผลอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เวลาและวันที่รวมถึงอุณหภูมิ การตั้งค่าล็อกหรือปลดล็อกประตู แรงดันลมยาง การแจ้งเตือนต่างๆ ของระบบขับเคลื่อน การปรับตั้งระบบส่องสว่างทั้งภายนอกและภายใน ที่เจ๋งมากก็คือ ระบบนำทางด้วยดาวเทียมแบบใหม่ของ BMW ที่แจ้งสภาพการจราจรในแบบ Realtime เมื่อเชื่อมต่อกับระบบแผนที่นำทางของ Google map ทำให้ขับบนเส้นทางที่ไม่คุ้นชินได้อย่างปลอดภัย 

ปุ่ม Touch Controller แบบใหม่ คันเกียร์ใหม่ที่เปลี่ยนจากหัวเกียร์แก้วเจียระไนที่สวยงามมาเป็นชิ้นงานทำจากแก้วเหมือนกัน แต่มันเล็กจนขาดความน่าสนใจ ข้างๆ ซุ้มเกียร์ยังมีสวิตช์ปรับโหมด เช่น ECO PRO / COMFORT / SPORT ปุ่ม traction control ปุ่มควบคุมกล้องมองภาพรอบคัน ปุ่ม Auto brake Hold ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ ปุ่มควบคุมการทำงานของระบบ Auto Start/Stpo เบรกมือไฟฟ้า ระบบควบคุมการขับลงจากทางลาดชัน ปุ่มระบบจอดอัตโนมัติ ปุ่มปรับระดับความสูง-ต่ำ 5 ระดับ ปุ่มเลือกดูภาพรอบตัวรถ และปุ่มแทรคชั่นคอนโทรล ระบบเชื่อมต่อและชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย อันนี้ใช้ได้เฉพาะ iPhone รุ่นใหม่ๆ ทำงานร่วมกับแท่นชาร์จโทรศัพท์และไมโครโฟน เพื่อให้คุณภาพเสียงในระบบแฮนด์ฟรีดีขึ้นสำหรับการรับหรือโทรออก การเชื่อมต่อเสาสัญญาณบนหลังคาทำให้การรับ-ส่งสัญญาณมีความเสถียร BMW OS8 ของ X6 ยังช่วยเชื่อมต่อมือถือได้พร้อมๆ กันสองเครื่องผ่านระบบบลูทูธ จุดเด่นของระบบอินโฟเทนเมนต์ใน X6 40i ก็คือ ปุ่มควบคุม iDrive ที่ผ่านการพัฒนามานานกว่า 17 ปี ออกแบบให้แป้นทรงกลมมีสวิตช์ 5 ทิศทางบรรจุอยู่ภายใน ใช้งานได้คล่องตัวเหมือนเดิม ติที่คันเกียร์แก้วเจียระไนสั้นกุดที่ทำออกมาไม่สมราคาเฉียด 6 ล้าน

พวงมาลัย M 3 ก้าน หุ้มหนังแท้ เป็นชุดพวงมาลัยในรถ BMW ที่ตกแต่งด้วยอุปกรณ์ M Sport ไม่ว่าจะเป็น Series-3 M Sport / Z4 M40i / Series-5 / Series-7 / Series-8 รวมถึงรถยนต์อเนกประสงค์ในตระกูล X ทั้งหมดที่ตกแต่งด้วยชุดแต่ง M Sport ก็จะใช้พวงมาลัย M แบบเดียวกัน รูปทรงของพวงมาลัย (แบบเก่า แตกต่างจากพวงมาลัยของ New Series-5 M Sport ซึ่งเป็นพวงมาลัย M แบบใหม่ล่าสุด) มีขนาดที่เท่ากับพวงมาลัย M รุ่นที่แล้ว แต่ออกแบบให้ก้านวงมีขนาดใหญ่ขึ้น จุดที่ใช้งานได้ดีกว่าเดิมก็คือแป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ Paddle Shift ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับของเดิม ส่วนสวิตช์บริเวณก้านวงด้านขวาเป็นตำแหน่งของปุ่มรับหรือวางสายโทรศัพท์บลูทูธ ปุ่มสั่งงานด้วยเสียง ปุ่มปรับระดับความดังของลำโพงและปุ่มเลือกฟังก์ชันการเล่นเพลงผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ก้านวงด้านซ้าย เป็นปุ่มควบคุมระบบปรับตั้งความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control

จุดเด่นของ BMW X6 xDRIVE 40i M Sport LCI G06 นอกจากความหรูหราและความสะดวกสบายแล้ว BMW ยังจัดเต็มระบบความบันเทิง ด้วยเครื่องเสียงเกรดสูง Bowers & Wilkins Diamond Surround Sound System แบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำของอังกฤษ Bowers & Wilkins หรือที่หลายๆ คนเรียกติดปาก B&W มีต้นกำเนิดจากประเทศอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นในปี 1965 โดย John Bowers และเพื่อนชื่อ Roy Wilkins ในปี 1966 B&W ออกลำโพงตัวแรกชื่อ P1 โดยเริ่มต้นด้วยการใช้ไดรเวอร์จากบริษัทอื่น ส่วนตู้ลำโพงทำเอง ต่อมาภายหลัง B&W ได้เริ่มทำลำโพงอย่างจริงจัง โดยมีนวัตกรรมต่างๆ ออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นดอกลำโพงแบบเคฟลาร์ หรือการใช้เพชร ส่วนลำโพงในตำนานของ B&W จะต้องนึกถึง B&W Nautilus ที่มีรูปร่างแปลกตาและให้เสียงในระดับสุดยอด รวมถึงรุ่น Series 800 ที่ให้เสียงน่าประทับใจ ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมาทาง B&W เริ่มให้ความสนใจลำโพงและหูฟังในตลาดทั่วไปหรือที่เรียกว่าระบบ Multimedia โดยมีลำโพงคอมพิวเตอร์ชื่อดังอย่าง B&W MM-1 ที่ได้รับรางวัลว่าเป็นหนึ่งในลำโพงคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะขนาดเล็กแห่งปี

X6 LCI G06 ติดตั้งเครื่องเสียงพรีเมียมซาวนด์ Bowers & Wilkins Diamond Surround Sound System มีซับวูฟเฟอร์ Rohacell 2 ตัว ความกว้าง 21.7 ซม. วางไว้ใต้เบาะคู่หน้า ทวิตเตอร์โดม Diamond 2 x 25mm ฝังตัวอยู่ในเสา A ทั้งสองข้าง มีหน้าที่ในการทำให้เสียงและความถี่สูงขึ้นอย่างชัดเจนที่สุด จริงๆ แล้ว Bowers & Wilkins ใช้เพชรแท้เพราะมีอัตราส่วนความแข็งต่อความสว่างที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งทำให้เป็นวัสดุทำทวิตเตอร์ที่สมบูรณ์แบบ เป็นครั้งแรกที่เพชรถูกนำมาใช้ในระบบเครื่องเสียงรถยนต์

ซอฟแวร์ QuantumLogic® Surround Full-active output stage technology Dynamic Equalization Control (DEC) ตะแกรงลำโพงทำจากสแตนเลสที่เรียกว่ารูปแบบเอฟเฟกต์ Fibonacci ซึ่งรับประกันความโปร่งใสของเสียงสูงสุด พร้อมการเรืองแสงในตอนกลางคืนอีกต่างหาก ทวิตเตอร์กรวยลำโพงอะลูมิเนียมอีก 5 ตัววางอยู่ในจุดต่างๆ รอบห้องโดยสาร ซึ่งนำมาจากซีรีส์ 800 ใช้จริงในสตูดิโอของ Abbey Road ถือเป็นมรดกตกทอดทางเสียงที่น่าประทับใจ นอกจากนี้ยังมีลำโพงเสียงกลาง Aramid Fiber ขนาด 7 x 100mm อะรามิดไฟเบอร์ที่ได้รับความไว้วางใจอย่างสูงในอุตสาหกรรมการทหาร การบินและอวกาศ

ปิดท้ายเสียงด้วยเบสที่ทุ้มลึก ซัฟ Rohacell สองตำแหน่งยึดติดกับตัวถังรถเพื่อความสมดุลในอุดมคติของความเบาและความแข็งแกร่ง ช่วยสร้างวัสดุที่สมบูรณ์แบบสำหรับโครงสร้างของซัฟวูฟเฟอร์ที่ให้เสียงเบสโคตรหนักแน่น เสียงเบสใน X7 มีคุณสมบัติที่น่าประทับใจของระบบเสียง Diamond Surround Sound สามารถพูดได้อย่างตรงไปตรงมาว่าผมไม่เคยได้ยินเสียงเบสแบบนี้มาก่อน แม้ในระดับเสียงที่ดังมาก คือเร่งแม่งจนสุด ก็ไม่พบว่าเกิดการบิดเบือนด้านคุณภาพของเสียงแต่อย่างใด ส่วนประกอบทั้งหมดรวมกันเพื่อผลิตเอาต์พุตรวม 1,475 วัตต์ น่าประทับใจอย่างยิ่งสำหรับระบบสเตอริโอในรถยนต์ยุคใหม่

เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 6 กระบอกสูบ รหัส B58B30C ความจุ 3.0 ลิตร (2,998 ซีซี.) ผสานระบบไฮบริดจิ๋ว Mild Hybrid 48V เครื่องยนต์วางตามยาวขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยระบบ xDRIVE โดยออกแบบให้วางอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า X6 รุ่นที่แล้วเพื่อลดค่า CG การลดจุดศูนย์ถ่วงลง รวมถึงการกระจายน้ำหนักที่สมมาตร เพื่อทำให้รถมีการทรงตัวที่ดีขึ้น ขนาดความกว้างกระบอกสูบ 82.0 มิลลิเมตร ช่วงชัก 94.6 มิลลิเมตร บล็อกเครื่องยนต์ใช้อะลูมิเนียม ฝาสูบแบบดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ป DOHC 4 วาล์วต่อสูบ อัตราส่วนกำลังอัด 11.0:1 ระบบอัดอากาศเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ติดตั้งเทอร์โบแปรผัน พร้อมชุดลดอุณหภูมิไอดีอินเตอร์คูลเลอร์ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบยิงตรงคอมมอนเรลไดเรคอินเจคชัน หัวฉีดแรงดันสูง Piezo มีแรงดันในระบบ 2,500 บาร์ ให้กำลังสูงสุด 381 แรงม้า ที่ 5,500-6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 540 นิวตันเมตร (รวมมอเตอร์) ที่ 2,000-2,500 รอบต่อนาที ตัวเลขสมรรถนะของ X6 xDRIVE 40i M Sport Pro LCI เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.4 วินาที เร็วกว่า X6 40i รุ่นก่อนปรับโฉม 0.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เคลมมาจากหน้าโรงงานทำได้ 14.5 กิโลเมตรต่อลิตร ขับจริงทั้งในและนอกเมืองทำได้ 11.5 กิโลเมตรต่อลิตร ถือว่าประหยัดพอใช้ได้ เมื่อเทียบกับขนาดที่ใหญ่โตของตัวถังและน้ำหนักรถที่มากถึง 2 ตัน ส่วนอัตราการปล่อย CO2 ทำได้ที่ 198 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร เป็นเครื่องเบนซิน 6 สูบที่มีความสะอาดเนื่องจากมีตัวช่วยอย่าง Mild Hybrid 48V

ระบบส่งกำลังของ X6 xDRIVE 30d ติดตั้งเกียร์อัตโนมัติขับเคลื่อน 4 ล้อ ZF 8HP เป็นชุดส่งกำลังที่มีประสิทธิภาพของ ZF Friedrichshafen AG เนื่องจากมีมอเตอร์ขั้นอยู่ตรงกลางระหว่างเครื่องยนต์และเกียร์ สำหรับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมระบบไฮดรอลิก ชุดเชื่อมต่อเพลาหน้าและหลัง Transfer Case และชุดเกียร์ Planetary gearsets พัฒนาเพื่อนำมาใช้งานในรถยนต์ BMW เครื่องยนต์วางตามยาว ขับเคลื่อนทั้ง 2 ล้อและ 4 ล้อ (xDRIVEX) ระบบเกียร์ทั้งชุด รวมถึงเพลาขับหน้า-หลัง ออกแบบและสร้างโดยบริษัท ZF ใน Saarbrücken ระบบส่งกำลังของ ZF เปิดตัวเป็นครั้งแรกใน BMW 7 Series (F01) รุ่น 760Li โดยนำมาเชื่อมต่อกับเครื่องยนต์เบนซิน V12 นับจากนั้นเป็นต้นมา BMW รุ่นใหม่ทุกรุ่นนับจาก Series-1 ไปจนถึง Series-8 รวมถึง Z4 กับรถยนต์อเนกประสงค์ตระกูล X ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังและรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ก็ติดตั้งเกียร์ ZF 8HP ทุกรุ่น หนึ่งในเป้าหมายหลักของระบบเกียร์ ZF 8 สปีด คือ การปรับปรุงอัตราทดให้ครอบคลุมกับรอบเครื่องยนต์ ประสิทธิภาพในการทดกำลังแล้วถ่ายเทออกมาเป็นแรงบิดในรอบเครื่องยนต์ที่แตกต่างกัน รวมไปถึงอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเมื่อใช้โหมดประหยัด (ECO PRO) โหมดมาตรฐาน (COMFORT) โหมดซิ่ง (SPORT) การออกแบบชิ้นส่วนภายในใหม่ ทำให้ระยะเวลาในการเปลี่ยนเกียร์ลดลงเหลือ 200 มิลลิวินาที นอกจากนี้ อิเล็กทรอนิกส์ที่ควบคุมการทำงานของเกียร์ สามารถเปลี่ยนอัตราทดในลักษณะที่ไม่ต่อเนื่อง (กระโดดข้ามเกียร์) จากเกียร์ 8 ถึงเกียร์ 2 ในสถานการณ์ที่เกียร์จะต้องเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เมื่อระบบเบรกถูกใช้งานอย่างเต็มกำลัง รุ่น 8HP70 ออกแบบให้สามารถรับแรงบิดสูงสุดได้ถึง 700 นิวตันเมตร (516 ปอนด์) ชุดเกียร์ทั้งลูกมีน้ำหนัก 87 กิโลกรัม (192 ปอนด์) เกียร์ ZF 8HP เจเนอเรชันที่ 3 เปิดตัวในปี 2018 มีการปรับปรุงหลักๆ คือ ประหยัดน้ำมันขึ้นอีก 2.5% เมื่อเทียบกับเกียร์รุ่นที่ 2 นอกจากนั้นชุดเกียร์ยังออกแบบให้ใช้งานกับระบบ mild hybrid 48V และ plug in hybrid ของ X5 xDRIVE 50e โดยถูกยกมาประจำการอยู่ใน X6 G06 เจเนอเรชันล่าสุดโฉม LCI 2024

ประสิทธิภาพคือส่วนสำคัญใน DNA ของ BMW และนั่นเป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับรถยนต์ครอบครัวที่มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความรู้สึกสปอร์ต แม้จะไม่มีรุ่น M50i แต่สถิติตัวเลขอัตราเร่งใน X6 รุ่น xDrive40i นั้นน่าประทับใจอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะแรงดึงที่หนักหน่วงเอาเรื่อง มันขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง อัดอากาศด้วยเทอร์โบคู่ ขนาด 6 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร ผสมผสานกับระบบ Mild Hybrid 48 โวลต์ เกียร์อัตโนมัติ ZF แปดสปีด ช่วยจัดการเรื่องการถ่ายเทพลังงานแรงบิดลงไปยังล้อทั้งสี่ ต้องขอบคุณดีไซน์ของเทอร์โบชาร์จเจอร์คู่ ทำให้การออกตัวอย่างเต็มกำลัง หรือการเร่งความเร็วในรอบต่ำไม่มีอาการแล็ก เครื่องยนต์ส่งกำลังตลอดช่วงรอบเครื่อง แข็งแกร่งและราบรื่น B58B30C ไม่ใช่เครื่องยนต์รอบจัดที่หมุนไปจนถึงเรดไลน์เหมือน S58 แต่มันตอบสนองต่อการเร่งความเร็วได้ดี ทรงพลังและไหลลื่น อัตราส่วนของการทดเกียร์สั้นกระชับ ในระบบเกียร์อัตโนมัติของ ZF ที่คมชัดและราบรื่น เป็นเพื่อนคู่หูที่สมบูรณ์แบบสำหรับการขับทางไกล การเร่งจากจุดหยุดนิ่งหรือแซงบนทางด่วนนั้นดีมาก อย่าลืมว่า SUV ของ BMW คันนี้หนัก 2 ตัน การเร่งจาก 0 ไปจนถึง 100 กิโลเมตร ในเวลา 5.4 วินาที นั้นทำให้ X6 40iคล่องตัวและฉับไวมากกว่าเดิม 

ช่วงล่างถุงลม Adaptive Air Suspension ให้ความรู้สึกถึงการปรับตั้งที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน เพราะขับเคลื่อนบนผิวถนนที่ไม่เรียบได้อย่างราบรื่น Sport Coupe SUV อาจไม่เหมาะกับทุกคน และขอแนะนำว่าให้ทดลองขับดูก่อนว่าชอบมันจริงหรือเปล่า เนื่องจาก X6 ให้ความรู้สึกนุ่มนวล และมีแรงยึดเกาะใช้ได้ การเลือกใช้ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมเพื่อปรับตั้งยกหรือลดความสูง ผ่อนสั้นผ่อนยาวบนผิวถนนที่ขรุขระ ทำให้นั่งขับหรือโดยสารได้สบายตัว การขับขี่ที่ดีขึ้นตรงกับวิธีจัดการในรถที่มีมิติขนาดใหญ่ มีความสูงมากกว่าปกติ พวงมาลัยไฟฟ้าให้ความรู้สึกถึงน้ำหนักที่ชัดเจน ตึงมือเมื่อขับเร็วและคมชัดเมื่อเล็งจุดหัวโค้งแล้วหักพวงมาลัยเข้าไปหา ชุดบังคับเลี้ยวไฟฟ้า มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากล้อขอบ 22 นิ้วกับยางสปอร์ตเส้นเขื่อง แน่นอนว่ามีบางครั้งที่ต้องใช้สามัญสำนึกเพื่อหลีกเลี่ยงการใส่อาการอันเดอร์สเตียร์ที่อันตรายต่อมมวลน้ำหนัก 2 ตัน ประสบการณ์โดยรวมของ X6 LCI 40i นั้นดีงาม เมื่อขับเร็วก็ยังนิ่งราวกับวิ่งอยู่แค่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทั้งๆ ที่กดจนความเร็วจนรถพุ่งลิ่วๆ ไปข้างหน้าจนความเร็วทะลุผ่าน 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง X6 ก็ยังให้ความมั่นใจได้อย่างที่รถยนต์ราคา 6 ล้าน ควรจะเป็น

การผสมผสานแรงยึดเกาะ ความแม่นยำในการบังคับเลี้ยว และอาการโคลงตัวที่ลดลงไปมากในเวอร์ชันปรับโฉม LCI 2024 ทำให้ X6 ใหม่ เป็นรถอเนกประสงค์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเดินทาง อย่าลืมว่ายังมีแบรนด์ 4 ห่วงที่ขับได้เนียนตา อย่าง Audi Q8 60TFSIe Quattro หรือแบรนด์ตราดาวกับ GLE53 4Matic+ ที่ขับสนุกเอาเรื่อง รวมถึง X5 50e LCI ที่สะอาดและแรงเหลือกำลังลาก การจ่ายเงิน 5,939,000 บาท (รวม BSI STANDARD Package) ซื้อ X6 รุ่น 40i CKD ประกอบไทย มาจากความชอบที่นำหน้าความคิดด้านการใช้งาน X6 เป็นรถที่หาได้ยากบนถนน เนื่องจากการมาถึงของ Porsche Cayenne Coupe และความสามารถของ GLE53 ส่วนการปรับระดับความสูงให้เตี้ยลงจนสุดใน X6 จะทำให้การควบคุมมีความชัดเจนขึ้นอย่างมาก โหมด Sport โช้คอัพถุงลมจะลดความสูงให้อย่างอัตโนมัติ รวมถึงในขณะทำความเร็วอีกด้วย ส่วนการขับฝ่าเส้นทางวิบากที่ไม่ค่อยมีใครเอาไปลุย ช่วงล่าง Adaptive Air Suspension สามารถเพิ่มระดับความสูงเพื่อหลบเลี่ยงหลุมบ่อและสิ่งกีดขวางบนเส้นทางออฟโรด! 

พลัง ความแม่นยำ ประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงและที่สำคัญก็คือ ความสบายและความสนุกหลังพวงมาลัย การตั้งค่าการตอบสนองของระบบบังคับเลี้ยวด้วยระบบไฟฟ้า ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมเสริมความสบายบนถนนที่ไม่เรียบ ทำให้คุณลักษณะด้านสมรรถนะของ X6 LCI ยังคงครอบคลุมการขับทางไกลมากกว่าจะเอามาใช้ในเมือง แรงบิดเพิ่มมากขึ้นในขณะที่ใช้ความเร็วต่อเนื่องท่ามกลางการทรงตัวที่มีเสถียรภาพ นั่นคือไดนามิกที่สมบูรณ์แบบ เบรก M Sport สีแดง ไม่ว่าจะขับเร็วหรือช้า ควรเผื่อระยะเบรกเนื่องจากมวลน้ำหนักของรถ การเบรกของ X6 มีระยะหยุดที่มากกว่า BMW M340i เนื่องจากขนาดตัวถังและน้ำหนัก ส่งผลต่อระยะของการหยุดอย่างช่วยไม่ได้ สิ่งที่ X6 xDrive 40i มีให้ก็คือ ความเป็นรถยนต์ Rare item ในกลุ่ม Luxury SUV ขับสนุก มีความสบายที่ยัดอุปกรณ์มาเยอะจนใช้ไม่หมด ถ้าคุณไม่อยากเหมือนใครบนถนน ก็เดินไปที่ X6 แต่ถ้าคุณชอบรถที่ใช้งานต่อเนื่องทุกวันไม่ใช่รถขับเล่นในวันหยุด ยังมี X5 50e / Q8 60TFSIe / AMG GLE53 และ Lexus RX500h F Sport จอดรออยู่ที่โชว์รูมละครับ.  

รายละเอียดด้านเทคนิค X6 xDrive 40i M Sport Pro LCI 5,939,000 บาท (รวม BSISTANDARD Package) 

เครื่องยนต์และสมรรถนะ

ชนิดเครื่องยนต์ เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo
ปริมาตรกระบอกสูบ 2,998 ซีซี.
กําลังสูงสุด 280 กิโลวัตต์/381 แรงม้า/ที่ 5,200-6,250 รอบต่อนาที
แรงบิดสงูสดุ 520 นิวตันเมตร/ที่ 1,850-5,000 รอบต่อนาที
กำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 9 กิโลวัตต์/12 แรงม้า
กำลังรวมสูงสุด 280 กิโลวัตต์/381 แรงม้า
แรงบิดรวมสูงสุด 540 นิวตันเมตร
ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 5.4 วินาที
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง และระดับการปล่อย CO2
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย-อ้างอิงผล ECO Sticker 11.5 กิโลเมตร/ลิตร
ระดับการปล่อย CO2 เฉลี่ย 198 กรัม/กิโลเมตร
ล้อและยาง
ล้อ ล้ออัลลอย M ขนาด 22 นิ้ว ลาย Double-spoke แบบสลับสี
ขนาดยาง ล้อหน้า: 9.5 J x 22 /ยาง 275/35 R22
ล้อหลัง: 10.5 J x 22 /ยาง315/30 R22
มิติรถยนต์
ยาว 4,960 มิลลิเมตร กว้าง 2,004 มิลลิเมตร สูง 1,700 มิลลิเมตร
ปริมาตรในการบรรจุของ 580-1,530 ลิตร
น้ำหนักรถสุทธิ 2,240 กิโลกรัม 

คุณลักษณะเฉพาะ X6 xDrive40iMSport
ระบบขับเคลื่อนและเทคโนโลยี
เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Sport Steptronic
ช่วงล่างถุงลม Adaptive 2-axle
ระบบช่วยการขับขี่ รุ่น Professional (Driving Assistant Professional)
ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติรุ่น Professional (Parking Assistant Professional)
ระบบท่อไอเสีย M Sport

อุปกรณ์ภายนอก
ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive LED)
ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ (High-beam Assistant)
กระจังหน้า BMW kidney 'Iconic Glow'
คาลลิเปอร์เบรกดีไซน์ M Sport สีแดงเงา
ระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System)
ระบบช่วยผ่อนแรงกระแทกขณะปิดประตู (Soft-close function for doors)
หลังคากระจก Panorama SkyLounge
กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมระบบตัดแสงอัตโนมัติฝั่งคนขับ
ชุดตกแต่ง M Aerodynamics
ภายนอกตกแต่งด้วยชุดแต่ง M สีดำเงา
ภายนอกพร้อมชุดตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา
โคมไฟหน้าตกแต่งดีไซน์M สีดำเงา (M Lights Shadow Line)

อุปกรณ์ภายใน
ระบบอุ่นเบาะสำหรับคนขับและผู้โดยสารเบาะหน้า
เบาะนั่งตอนหน้าแบบ Comfort ปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่ง
พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M
เข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M
ชุดไฟส่องสว่างภายในและภายนอกห้องโดยสาร (Ambient Light)
หลังคาภายในดีไซน์ M สี Anthracite
ภายในตกแต่งด้วยวัสดุหนังแท้
ภายในตกแต่งด้วยผลึกแก้ว 'CraftedClarity'
ภายในตกแต่งดีไซน์ M ด้วยวัสดุ Carbon Fibre
ม่านบังแดดประตูหลัง
ระบบปรับอากาศอัตโนมัตแบบ 4 โซน
ระบบจัดเก็บสัมภาระท้ายรถ
ระบบ Travel & Comfort
ระบบความบันเทิงและการสื่อสาร
BMW Live Cockpit Professional
ระบบ BMW ConnectedDrive
ฟังก์ชันสั่งงานระบบ iDrive ด้วยการเคลื่อนไหวมือ (BMW Gesture Control)

คุณลักษณะเฉพาะ X6 xDrive 40i M Sport
ระบบความบันเทิงและการสื่อสาร
ระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Bowers & Wilkins Diamond
ระบบเชื่อมต่อ Smartphone

ความปลอดภัย
ถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
ถุงลมนิรภัยศีรษะสําหรับผู้โดยสารตอนหน้าและหลัง (ยกเว้นผู้โดยสารตอนหลังกลาง)
ระบบ Teleservices
ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call)
ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC)
ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC)
ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS)
เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor)
ระบบ Active Protection
ชุดปะยางฉุกเฉิน
ยางอะไหล่
ระบบตรวจวัดลมยาง
ชุดตกแต่งพิเศษ
ชุดตกแต่ง M Sport Pro