ความพยายามในการเดินตามกระแสความนิยมของรถอเนกประสงค์ทำให้ Toyota ต้องผุดแนวคิด รถเล็กราคาประหยัด ที่มีทุกอย่างตามที่ลูกค้าต้องการ Yaris Cross ประกอบที่โรงงานเกตเวย์ เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกะทัดรัดที่มีความน่าใช้ เครื่องยนต์ไฮบริดใหม่ ขนาด 1.5 ลิตร ทำอัตราสิ้นเปลือง 23.5 กิโลเมตรต่อลิตร เกียร์ e-CVT และช่วงล่างกับพวงมาลัยที่สมน้ำสมเนื้อ เป็น Cross คันเล็กที่ขับได้ดี เหมาะสำหรับคนที่กำลังคิดอยากจะเปลี่ยนจากรถซีดานไปเป็นรถครอสโอเวอร์ 

...

หลังจากเปิดตัวช่วงเย็นวันที่ 5 ตุลาคม 2566 Toyota Motor Thailand ก็จัดทดสอบรถ Toyota Yaris Cross ในรอบสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2566 จากกรุงเทพฯ ไปยังอำเภอหัวหินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นับเป็นการขับทดสอบรถครอสโอเวอร์ไซส์เล็กของ Toyota เป็นครั้งแรกในประเทศไทย รายละเอียดต่างๆ รวมถึงราคาของ Yaris Cross ทั้งสามรุ่น คงผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแล้ว วันนี้เลยจะมาสรุปผลการขับทดสอบให้ฟังว่าเจ้า Cross ใหม่นั้น ขับเป็นยังไง? 

Toyota Yaris Cross 1.5 HEV รุ่นและราคา

Toyota Yaris Cross 1.5 HEV Premium Luxury ราคา 899,000 บาท

Toyota Yaris Cross 1.5 HEV Premium ราคา 849,000 บาท

Toyota Yaris Cross 1.5 HEV Smart ราคา 789,000 บาท

สีตัวถัง
สีขาว Platinum White Pearl
สีเงิน Silver Metallic
สีดำ Attitude Black Mica
สีขาวมุก Platinum White Pearl
สีส้ม Spicy Scarlet
สีน้ำเงิน Drak Turquoise
สีเงิน Metal Stream Metallic

พร้อม รุ่นหลังคาดำ Black Roof
1-Spicy Scarlet Black Roof
2-Metal Stream Metallic Black Roof

ความแตกต่างหลักๆ ของทั้งสามรุ่น เริ่มจาก

HEV Smart
รุ่นเริ่มต้น ไฟหน้าและไฟท้าย LED ล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์ หน้าจอมอนิเตอร์ 10.1 นิ้ว ลำโพง 6 ตำแหน่ง Apple CarPlay & Android auto แบบไร้สาย พร้อม T-Connect ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบกรองฝุ่น PM 2.5 ช่องแอร์ด้านหลัง เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ กล้องมองหลัง สัญญาณเตือนกะระยะทางด้านหลัง 2 ตำแหน่ง ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง

HEV Premium
รุ่นรองท็อป เพิ่มราวหลังคาสีเงิน ล้ออัลลอยสีเงินสลับสีดำ ขอบ 17 นิ้ว เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เทคโนโลยี Quole Modure สำหรับเบาะคู่หน้า ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ACC แบบ All Speed ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM พร้อม RCTA กล้องบันทึกภาพด้านหน้า

HEV Premium Luxury
รุ่นท็อปสุด ออปชันเยอะสุด หลังคากระจกไฟฟ้า Panoramic Roof พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า กระจกหลังคา Panoramic Roof เปิด-ปิดได้แค่ม่านบังแดด ตัวกระจกไม่สามารถเลื่อนเปิดเพื่อรับอากาศจากภายนอกได้ ซึ่งจริงๆแล้วอาจดูแปลกประหลาด แต่ก็ตัดปัญหาเรื่องน้ำรั่วซึมเมื่อซีนยางเริ่มเสื่อมสภาพ ล้ออัลลอยสีเงินสลับดำ ขอบ 18 นิ้ว ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมเซนเซอร์ Kick - Activated อุปกรณ์ชาร์จไร้สาย กล้องมองภาพรอบคัน PVM ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง TPMS ไฟส่องสว่างบริเวณประตูคู่หน้า Welcome Lamp ลำโพง pioneer 6 ตำแหน่ง กล้องบันทึกภาพด้านหลัง

...

...

...

Yaris Cross มีหน้าตาคล้ายกับ Corolla Cross แต่มิติตัวถังนั้นเล็กกว่านิดหน่อย กระจังทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ลายภายในกระจังรูปตัวยู ทำจากพลาสติกสีดำเงา ไฟหน้า LED ไฟหรี่กลางวัน LED และไฟตัดหมอกทรงกลมก็ยังใช้หลอด LED ไฟท้ายแบบ Full LED กันชนหลอมรวมเป็นชิ้นเดียวกับชุดครอบกระจังหน้า เพื่อลดชิ้นส่วนเพิ่มเติม ช่องรับอากาศใต้กันชนขนาดใหญ่นำกระแสลมเย็นไประบายความร้อนให้กับแผงหม้อน้ำ ฝากระโปรงหน้ายกเหลี่ยมมุมสอดรับกับแนวของไฟหน้า เป็นงานออกแบบตามสมัยนิยมที่พบเห็นกันทั่วไป แก้มข้างมีพลาสติกกันกระแทกสีดำ ล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว ห่อรัดด้วยยาง Yokohama Bluearth XT AE61 ไซส์ 215/60R17 96H ใน Yaris Cross รุ่น HEV Premium กับ HEV Smart ส่วนรุ่นท็อป HEV Premium Luxury ใส่ล้ออัลลอยขอบ 18 นิ้ว ยาง Yokohama Bluearth XT AE61 ไซส์ 215/55R18 96H โดยภาพรวมหน้าตาก็ยังยึดโยงกับโมเดลอื่นๆของ Toyota ด้วยชุดกระจังแนวหน้าปลากระโห้เล็กที่ถูกปรับให้เข้ากับส่วนหน้าของรถ ความยาวตัวถังสั้นกว่า Corolla Cross แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ เมื่อลองเข้าไปนั่งที่เบาะผู้โดยสารตอนหลังแล้วไม่รู้สึกอึดอัด พื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะมีมากพอที่จะทำให้นั่งได้อย่างสบายๆ เวลาเดินทางไกล ฝาท้ายไฟฟ้า พร้อมเซนเซอร์ที่ต้องเอาเท้าแหย่ให้ตรงกับตำแหน่งมีความสะดวกในการใช้งาน แม้จะไม่ได้พับเบาะหลัง พื้นที่ห้องเก็บสัมภาระท้ายมีมากพอ ใต้ห้องเก็บสัมภาระยังมีพื้นที่เก็บของที่ลึกลงไปด้านใน ซึ่งเป็นพื้นที่ของยางอะไหล่ รูปลักษณ์โดยรวมดูดี โดยเฉพาะรุ่น HEV Premium Luxury สีทูโทนหลังคาดำตัวถังสีน้ำเงิน Drak Turquoise Black Roof และสีส้ม Spicy Scarlet Black Roof

เครื่องยนต์ไฮบริดตัวเล็กแต่แรงใช้ได้และประหยัด!
เครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 1.5 ลิตร แบบแถวเรียงสี่สูบ 2NR-VEX ความจุ 1,496 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ 72.5 มิลลิเมตร ช่วงชัก 90.6 มิลลิเมตร อัตราส่วน 11.5:6 กำลังสูงสุด 61 กิโลวัตต์ 91 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตร 12.3 กิโลกรัมเมตร ที่ 4,000-4,800 รอบต่อนาที ระบบจ่ายเชื้อเพลิงหัวฉีด EFI มอเตอร์ไฟฟ้าแรงดันสูงสุด 580 โวลต์ มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 59 กิโลวัตต์ 80 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน แรงดันไฟฟ้า 177.6 โวลต์ ความจุ 4.3 แอมป์/ชั่วโมง เครื่องยนต์วางตามขวางด้านหน้าขับเคลื่อนล้อหน้า ชุดส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ E-CVT อัตราทดเฟืองท้าย 4.222 เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 111 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร ลองขับทางยาวๆ เวลาเร่งแซงไม่ต้องลุ้นกันจนตัวโก่ง เพราะแรงบิดมีมากพอให้ใช้งาน แรงบิดรอบต่ำทำให้ออกตัวได้เร็วทันใจ กดก็พุ่งใช้ได้ แม้จะไม่ได้มีเรี่ยวแรงเท่ากับรถรุ่นพี่อย่าง Corolla Cross แต่เร่งติดเท้าเอาเรื่อง ผมใช้ความเร็วเดินทางสลับกับการขับเร็วเพื่อลองดูการทรงตัว การถ่ายเทน้ำหนักในโค้งและอัตราสิ้นเปลือง เครื่อง 2NR-VEX กับเกียร์ e-CVT ทำตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 23.5 กิโลเมตรต่อลิตร (Toyota เคลม 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร) ถ้าขับเรื่อยๆ อัตราสิ้นเปลืองก็จะดีกว่านี้ ช่วงขากลับในบ่ายวันพุธที่ 11 ตุลาคม 2566 จากชะอำมุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร ด้วยการใช้ความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง อัตราสิ้นเปลืองของเครื่อง 1.5 ลิตร ไฮบริด ทำได้ 18.7 กิโลเมตรต่อลิตร 

Hybrid Control System 
เครื่องยนต์สตาร์ท มอเตอร์ G1 ทำหน้าที่เจนเนอเรเตอร์ปั่นกระแสไฟฟ้าไปเก็บในแบตเตอรี่ ชุดอินเวอร์เตอร์แปลงกระแสไฟฟ้า ส่งไปยังมอเตอร์ G2 เพื่อเสริมแรงบิดเมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น เครื่องยนต์ส่งกำลังไปที่ล้อขับเคลื่อนคู่หน้า 50% และเมื่อออกตัวในย่านความเร็วต่ำ 10-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าใน EV Mode (ในระยะทางสั้นๆ) 

ช่วงล่างไม่ขี้เหร่ เทโค้งก็ยังมั่นใจ
ระบบรองรับ ด้านหน้าแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและเหล็กกันโคลง ด้านหลัง ทอร์ชันบีมพร้อมเหล็กกันโคลง ดิสเบรกสี่ล้อ (นี่ให้มาทุกรุ่นย่อย) สัมผัสของช่วงล่างออกมาในแนวเป็นกลาง ไม่นิ่ม หรือแข็งเกินไป อยู่ในเกณฑ์พอดีๆ มีอาการโคลงตัวบ้างเมื่อใช้ความเร็วสูงวิ่งผ่านผิวถนนที่ไม่เรียบ พวงมาลัยไฟฟ้า EPAS มีระยะฟรีตรงกลางมากกว่า Corolla Cross เล็กน้อย ขับเร็วเข้าโค้ง ระบบบังคับเลี้ยว ช่วงล่างและยาง Yokohama Bluearth XT AE61 ยึดเกาะกับถนนได้ดี รถมีความสมดุลในโค้งพอใช้ได้ ทอร์ชันบีมที่ด้านหลังทำให้พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายไม่ถูกรบกวน ห้องเก็บของส่วนท้ายจึงกว้างอย่างจุใจ แต่ความนิ่งของช่วงล่างหลังยังสู้ C-HR ที่ใช้มัลติลิงค์ไม่ได้ 

ภายในของ Yaris Cross HEV Premium Luxury แต่รุ่นท็อปมี Panoramic Roof ที่เปิดได้เฉพาะม่านบังแดด เบาะหุ้มหนังสีเทาเย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีฟ้า เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะคนนั่งหน้ายังใช้การปรับมือ เบาะหลังแบบสามที่นั่ง นั่งสองคนจะสบายตัวกว่ามาก ทุกตำแหน่งมาพร้อมเข็มขัดนิรภัย เบาะคนขับนั่งสบาย โดยเฉพาะปีกเบาะที่โอบกระชับลำตัว วัสดุภายในนุ่มหนา เบาะหลังมีพื้นที่วางขาพอสมควรสำหรับคนตัวสูงกว่า 175 เซนติเมตร นั่งแล้วยังเหลือพื้นที่ใกล้หัวเข่าพอสมควร พนักพิงหลังปรับเอนได้เล็กน้อยช่วยเพิ่มความสบายนั่งแล้วจะหลับจากความไหลลื่นและเงียบของระบบส่งกำลัง พื้นที่เหนือศีรษะก็มากพอที่จะไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด ดีไซน์ใหม่ของแผงประตูที่ดูดี ทั้งพลาสติกสีดำเงากับมือจับที่เปิดประตูโครเมียม เก็บเสียงดีใช้ได้ ตามมาตรฐานของรถยนต์ราคา 8.9 แสนบาท วิ่ง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ยังไม่ดังอะไรมาก พอความเร็วทะยานผ่าน 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจะมีเสียงลมที่ปะทะกับก้านของกระจกมองข้างกับเสียงยางที่บดลงไปบนผิวถนนดังให้ได้ยินอย่างชัดเจน 

จอภาพมอนิเตอร์กลางขนาด 10.1 นิ้ว ใส่ฟังก์ชันการใช้งานที่ครอบคลุม ในจุดนี้ถือว่าทำออกมาได้ดี เช่น การเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย เชื่อมต่อโทรศัพท์บลูทูธ วิทยุ เป็นมอนิเตอร์ของกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา Panoramic View Monitor รวมถึงการปรับตั้งค่าต่างๆ ของรถ เครื่องเสียง pioneer พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง (รุ่น HEV Premium Luxury) เบรกมือไฟฟ้า EPB ระบบปรับอากาศอัตโนมัติกรองฝุ่น PM 2.5 ช่องแอร์ด้านหลัง แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger ช่องเชื่อมต่อ USB Type C และ Type A ช่องจ่ายไฟ 12V

แดชบอร์ดของ Yaris Cross มีรายละเอียดที่ซับซ้อนจากการออกแบบที่ทำออกแบบสามชั้นกั้นกลางด้วยวัสดุบุนิ่มเย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีฟ้า พลาสติกสีดำเงาตามกรอบของช่องแอร์และมาตรวัด จุดที่สวยงามและยกระดับความธรรมดาให้กลายเป็นหรูก็คือ กึ่งกลางของแดชบอร์ดหุ้มด้วยไวนิลเย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีฟ้า พวงมาลัยหุ้มหนังแท้ทรงสามก้านแบบใหม่ มีสวิตช์มัลติฟังก์ชันที่ก้านพวงมาลัย โดยเฉพาะสวิตช์ระบบปรับตั้งความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control All Speed with Stop & Go ที่ก้านวงด้านขวา มาตรวัดจอภาพ TFT LCD ขนาด 7 นิ้ว ประกอบด้วยสเกลวัดพลังงานในตำแหน่ง Charge / Eco / Power ระดับเชื้อเพลิงในถังและระยะทางที่วิ่งถึง อุณหภูมิภายนอก ทริปมิเตอร์ ตัวเลขสปีดความเร็วแบบดิจิทัลฯ รวมถึงการปรับตั้งระบบความปลอดภัยต่างๆ ผ่านจอภาพมาตรวัดตรงหน้าคนขับ รุ่น HEV Premium Luxury ให้ฝาท้ายไฟฟ้าที่สะดวกในการใช้งาน พื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 458 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังจะเพิ่มเป็น 1,097 ลิตร

สรุปแบบไม่อวย
Toyota Yaris Cross รุ่นท็อป HEV Premium Luxury ขับดีใช้ได้ ย่านความเร็วสูงทรงตัวได้ดี ช่วงล่างให้ความสบายในระดับปานกลาง เก็บเสียงดีจากการเป็นรถเครื่องยนต์ไฮบริดที่วิ่งในย่านความเร็วต่ำผสมผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้ทั้งความประหยัดและเงียบ พวงมาลัยไฟฟ้าแม้จะไม่คมเท่ากับ C-HR แต่ให้ความมั่นใจเมื่อใช้ความเร็ว ส่วนในย่านความเร็วต่ำเมื่อขับในเมือง อัตราทดของพวงมาลัยและขนาดตัวถังที่สั้นกระชับทำให้เกิดความคล่องตัว ขับง่ายและไม่กินพื้นที่เวลาจอด กำลัง 141 นิวตันเมตร เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทั้งขับในเมืองหรือออกทางไกล อุปกรณ์ภายใน อยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะ Adaptive Cruise Control All Speed ระบบความปลอดภัย Toyota safety sense ครอบคลุมการใช้งาน แจ้งเตือนและช่วยเบรกเมื่อขับเข้าไปใกล้กับรถคันหน้าที่ความเร็วต่ำ หลังคากระจกเปิดม่านบังแดดได้อย่างเดียวก็น่าจะตัดปัญหาเรื่องน้ำรั่วซึมเมื่อใช้งานไปนานๆ อัตราสิ้นเปลือง ขับเรื่อยๆ 23.5 กิโลเมตรต่อลิตร ขับเร็วต่อเนื่อง กิน 18.7 กิโลเมตรต่อลิตร ถือว่าเป็นรถที่ประหยัดใช้ได้เลยทีเดียว ส่วนราคา 899,000 บาท ถ้างบไม่ถึงก็ยังมี HEV Premium ราคา 849,000 บาท หรือ HEV Smart ราคา 789,000 บาท มีงบแค่ไหนก็ไปรุ่นนั้นละครับ.

เครื่องยนต์

รุ่น 2NR-VEX / 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-i
ปริมาตรกระบอกสูบ 1496 ซีซี
กำลังสูงสุด 67 กิโลวัตต์ 91 แรงม้า ที่ 5500 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด EEC net 121 นิวตัน-เมตร ที่ 4000- 4800 รอบต่อนาที
ความกว้างกระบอกสูบ 72.5 มิลลิเมตร x ระยะชัก 90.6 มิลลิเมตร
อัตราส่วนกำลังอัด 11.5:1
ระบบจ่ายน้ำมัน หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI
เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด กิโลวัตต์ 111 PS

มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 59 กิโลวัตต์ 80 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด EEC net 141 นิวตันเมตร
แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 580 โวลต์

แบตเตอรี่ไฮบริด แรงดันไฟฟ้า 177.6 โวลต์ 177.6
ความจุไฟฟ้า 4.3 แอมแปร์-ชั่วโมง

มิติภายนอก ยาวxกว้างxสูง (มม.) 4,310 x 1,770 x 1,615
ความยาวช่วงล้อ 2,620 มิลลิเมตร
ความกว้างช่วงล้อ หน้า/หลัง 1,525 / 1,520 มิลลิเมตร
ระยะต่ำสุดจากพื้น 210 มิลลิเมตร
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.2 เมตร
ความจุถังน้ำมัน 36 ลิตร

ระบบส่งกำลัง ขับเคลื่อนล้อหน้า
ระบบเกียร์ อัตโนมัติ E-CVT
ระบบกันสะเทือนหน้า / หลัง
ด้านหน้า อิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
ด้านหลัง ทอร์ชั่นบีมและคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
ล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทน 18 นิ้ว HEV Premium Luxury ยาง 215/55R18
ล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทน 17 นิ้ว HEV Premium ยาง 215/60R17
ล้ออัลลอย 17 นิ้ว HEV Smart ยาง 215/60R17
ระบบเบรก (หน้า/หลัง) ดิสก์เบรก / ดิสก์เบรก
อัตราทดเฟืองท้าย 4.222

หลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
ฝาท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
ชุดมาตรวัดแบบ Full Digital แบบสี TFT ขนาด 7 นิ้ว
หน้าจอกลาง ระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 10.1 นิ้ว
รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย
ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger
ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Brake Hold
ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry
ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ Push Start Button
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน Adaptive Cruise Control All-Speed with Stop & Go

ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VSC
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน ESS
ระบบเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind Spot Monitor
ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง Rear-Cross Traffic Alert
ระบบเตือนการชนด้านหน้า Pre-Collision System
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam
ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน และดึงพวงมาลัยกลับ Lane Departure Alert
ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดวิธี Pedal Misoperation Control
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว Front Departure Alert
ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย)
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา Panoramic View Monitor