Lexus UX รุ่นใหม่ล่าสุด นำเสนอการออกแบบที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของแบรนด์หัวลูกศร Lexus นี่คือครอสโอเวอร์ที่มีขนาดตัวถังสูสีกับ Toyota C-HR แต่มีการขับขี่ที่ดีกว่า 2 เท่า! การออกแบบที่ลงตัวด้วยเส้นสายที่สมบูรณ์แบบทั่วทั้งคัน ผสมกับขุมกำลังแบบ Hybrid แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานที่มีประสิทธิภาพสำหรับการขับเคลื่อน Lexus UX250h ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทดแทน Lexus CT200h แต่มีการปรับปรุงแชสซีใหม่เพื่อทำให้การขับขี่ดีขึ้น เป้าหมายของ UX ก็คือ การเป็นยานยนต์ Lexus คันแรกของลูกค้าที่มีทั้ง BMW X2 Mercedes-Benz GLA250 หรือ Audi Q2 

รุ่นและราคา
Lexus UX 250h รุ่น Luxury 2,490,000 บาท
Lexus UX 250h รุ่น Grand Luxury 2,690,000 บาท
Lexus UX 250h รุ่น F-Sport ขับเคลื่อน 4 ล้อ 3,620,000 บาท

...

...

คำว่า UX แสดงออกถึงแนวคิดของทีมออกแบบที่อธิบายถึงภารกิจของยานพาหนะ Urban + X-over (crossover) = UX เป็นรถยนต์อเนกประสงค์แนวครอสโอเวอร์ที่ผลิตขึ้นมาสำหรับคนเมืองยุคใหม่ซึ่งมีความต้องการยานพาหนะที่หรูหราทันสมัย Chika Kako รองประธานบริหารของ Lexus International และหัวหน้าทีมวิศวกรของ Lexus UX บอกกับนักข่าวในช่วงเปิดตัวและขับทดสอบในเมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดนว่า UX เป็นรถที่สร้างขึ้นเพื่อดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาความแตกต่างในด้านการขับเคลื่อนรวมถึงยังเป็นรถที่ผสมผสานไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันของลูกค้าหน้าใหม่ให้มีความคล่องตัวเมื่อขับเคลื่อนในเมือง Lexus UX ใช้อะลูมิเนียมบริเวณฝากระโปรงหน้า บานประตูทั้งสี่บาน รวมไปถึงโครงสร้างชิ้นส่วนหลักของฝาท้าย โครงแชสซีขึ้นรูปด้วยเหล็กกล้า High Tensile Steel เนื่องจากเป็นโครงสร้างหลักที่ต้องรับและกระจายแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ฝาท้ายของ UX ผลิตจากวัสดุน้ำหนักเบา TSOP เป็นโพลิเมอร์-เรซินพิเศษที่เหนียวและแข็งแรง แต่มีน้ำหนักที่เบากว่าวัสดุพวกโลหะทั่วไป

...

...

Lexus UX ถูกพัฒนาเพื่อให้มีความคล่องตัวเมื่อขับใช้งานในเมืองและมีรูปลักษณ์ที่ดึงดูดสายตาด้วยรูปทรงที่ไหลลื่น เป็นยานยนต์ในเซ็กเมนต์ครอสโอเวอร์ไซส์กะทัดรัดที่เน้นความหรูหราและเป็นรถ Lexus คันแรกที่ใช้แพลตฟอร์มใหม่ล่าสุด Lexus Global Platform Compact GA-C (คล้ายๆ กับ TNGA ของ C-HR แต่มีการเพิ่มเติมความแข็งแรงและลดน้ำหนักด้วยโครงสร้างตัวถังแบบใหม่ที่ส่งผลให้ UX มีการขับขี่ที่ดี (มาก) จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำและการปรับช่วงล่างแบบละเอียดอ่อนที่สอดรับกับความต้องการของคนรุ่นใหม่ ทำให้ UX เป็นรถยนต์ที่มีความคล่องแคล่วเมื่อเคลื่อนที่อยู่บนถนนที่คับแคบในเขตเมืองใหญ่

ในวันเปิดตัว Lexus UX และพบกับสื่อมวลชน Chika Kako เป็นผู้หญิงที่มีบุคลิกน่าประทับใจ เป็นสุภาพสตรีชาวญี่ปุ่นรูปร่างสูงโปร่งที่คล่องแคล่วและเต็มไปด้วยความมั่นใจ Kako คือผู้หญิงญี่ปุ่นคนแรกที่อยู่ในตำแหน่งงานระดับสูงของแบรนด์รถยนต์ชั้นนำ โดยทำหน้าที่เป็นรองประธานบริหารของ Lexus International และหัวหน้าทีมวิศวกรที่ทำหน้าที่วิจัยและพัฒนารถครอสโอเวอร์ Lexus UX จากความสามารถที่แปรเปลี่ยนเป็นผลงานอันน่าทึ่งด้วยการเชื่อมโยงไดนามิกที่ยอดเยี่ยมของ UX ขณะขับเคลื่อนให้เข้ากับภาพลักษณ์ที่หรูหราสง่างามของยานยนต์ Lexus สุภาพสตรีที่เข้มแข็งและมีความสามารถรอบด้านอย่าง Chika Kako ต้องการลบภาพลักษณ์ของครอสโอเวอร์ในอดีตซึ่งมีค่า CG ไม่ค่อยดีนักจากสัดส่วนความสูงที่มากกว่ารถยนต์ซีดาน Kako ปรับปรุงให้รถอเนกประสงค์รุ่นเล็กของแบรนด์หัวลูกศรมีการถ่ายเทน้ำหนักที่ดีขึ้น และนำเสนอรถยนต์ที่มีสมรรถนะในด้านความคล่องแคล่วที่ยอดเยี่ยม ทำให้ง่ายต่อการควบคุมเหมือนซีดานที่มีความสูงน้อยกว่า

Lexus UX มีเครื่องยนต์ให้เลือกสองรุ่น เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ขับเคลื่อนล้อหน้า เป็นขุมกำลังรุ่นใหม่พร้อมระบบส่งกำลังแบบ Direct-Shift ที่ไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย ในขณะที่ Lexus Thailand ได้นำเสนอความดีงามของรุ่นไฮบริดอย่าง UX 250h ลงตลาดรถหรูของไทยในช่วงต้นปี UX250h ทั้ง F-Sport Gran Luxury และ Luxury ซึ่งเป็นรถทดสอบที่กำลังรีวิวอยู่นี้ ใช้เครื่องยนต์เบนซินผสมมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมระบบ Hybrid ที่ถูกปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 กระบอกสูบ ความจุ 2.0 ลิตร พร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริดเจนเนอเรชั่นที่ 4 เป็นระบบขับเคลื่อนไฮบริดที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับแพลตฟอร์มใหม่ของ UX นี้

การออกแบบภายนอกและแอโรไดนามิกส์
Lexus UX 2019 เป็นรถยนต์ในเซ็กเมนต์ครอสโอเวอร์ไซส์กะทัดรัดที่เน้นความหรูหราสง่างามพ่วงกับสมรรถนะของการขับเคลื่อน ทีมวิศวกรของ Lexus ที่นำโดย Chika Kako ได้สร้างธีมการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยได้รับแรงบันดาลใจจากรูปลักษณ์ที่มั่นคงของรถสปอร์ตคูเป้ UX250h Luxury วางกระจังหน้าใหม่ที่เต็มไปด้วยรายละเอียด แม้ว่าการแบ่งปันรูปแบบพื้นฐานกับ Lexus รุ่นอื่น ๆ นั้นยังความเป็นเอกลักษณ์ของ UX กระจังหน้าลวดลายตาข่ายพร้อมองค์ประกอบของไฟหน้าที่เชื่อมโยงกันอย่างเฉียบคม กระจังหน้าใช้รูปลักษณ์แบบสามมิติซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามมุมมอง การออกแบบไฟหน้าทำให้ส่วนหน้าของ UX คล้ายกับรถ Lexus รุ่นใหม่ที่พบเห็นได้ทั่วไป ไฟเดย์ไลท์มีทรงคล้ายลูกศรติดตั้งอยู่ด้านบนเหนือชุดไฟหน้า LED แบบ dual-beam 

Lexus UX มีมิติตัวถังที่ค่อนข้างกะทัดรัดสูสีกับ Toyota C-HR โดยมีความยาวตัวถัง 4,495 มิลลิเมตร กว้าง 1,840 มิลลิเมตร สูง 1,540 มิลลิเมตร ฐานล้อวัดจากดุมล้อหน้าไปถึงหลัง ยาว 2,640 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อคู่หน้าและหลังเท่ากันที่ 1,550 มิลลิเมตร รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า FWD มีน้ำหนัก 1,525-1,625 กิโลกรัม ส่วนรุ่น E4 ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD มีน้ำหนัก 1,610-1,680 กิโลกรัม สำหรับตัวเลขอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักของ Lexus UX อยู่ที่ 60/40 ส่วนตัวเลขค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศหรือค่าแอร์โรไดนามิกส์อยู่ที่ 0.33 (cd 0.33)

ทรงด้านข้างตัวถังสมส่วนลงตัวด้วยเสาหน้าที่เอนลาดเพื่อทำให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานของอากาศต่ำลง เสาท้ายคล้ายรถสปอร์ตแฮตช์แบคพร้อมชิ้นงานอะลูมิเนียมที่ล้อมรอบกรอบกระจก ล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว สีเทา dark gray metallic ห่อรัดด้วยยาง michelin รุ่น primacy 4 ไซส์ 215/60R17 ทั้งสี่ล้อ เป็นครั้งแรกของล้ออะลูมิเนียมที่ออกแบบให้มีระบบระบายอากาศ ด้วยล้ออัลลอยลาย 5 ก้าน ขนาด 17 x 6.5 นิ้ว แบบ aero สามารถระบายอากาศให้กับระบบเบรกโดยใช้คุณสมบัติ Gurney flaps ตามขอบก้านที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงต้านทานของกระแสลม ในขณะที่เพิ่มการไหลของอากาศเพื่อทำให้จานดิสก์เบรกเย็นลง การออกแบบโดยดึงอากาศจากด้านในของล้อ

มุมมองบั้นท้ายที่คล้ายรถสปอร์ต UX ติดตั้งไฟท้ายทรงยาวเรียวเชื่อมต่อกันทั้งผืนด้วยดีไซน์ที่สวยงาม เป็นสไตล์การออกแบบที่กำลังได้รับความนิยมในรถเยอรมันอย่าง Porsche และ Audi ไฟท้าย LED แบบใหม่ให้มุมมองที่คมชัดเมื่อขับตอนกลางคืน หลอดไฟท้าย LED จำนวน 120 หลอดที่ออกแบบให้เรียวตรงกลางโดยวัดขนาดของความหนาได้เพียง 3mm (1/8 นิ้ว) ในจุดที่แคบที่สุดของไฟท้าย ฝาท้ายเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมเบาะผู้โดยสารตอนหลังที่สามารถปรับพับเพื่อเพิ่มพื้นที่ของสัมภาระ 

การออกแบบภายในของ Lexus UX250 Luxury 
Lexus ได้ออกแบบห้องโดยสารของ UX เพื่อให้เกิดความรู้สึกหรูหราสะดวกสบาย ตำแหน่งเบาะนั่งสูงขึ้น อุปกรณ์ต่างๆ เช่น ปุ่มและสวิตช์จัดวางเพื่อความสะดวกในการใช้งาน วัสดุคุณภาพกับงานฝีมือของการประกอบอยู่ในเกณฑ์ดี พร้อมภาพลักษณ์ของงานตกแต่งภายในที่ยังคงสไตล์ของ Lexus เอาไว้อย่างเหนียวแน่น เป็นการผสมผสานประเพณีของญี่ปุ่นเข้ากับงานฝีมือขั้นสูง ด้วยเทคนิคการผลิตที่ล้ำสมัย การออกแบบตกแต่งภายในของ UX ยังสร้างความรู้สึกที่ปลอดภัย จากรูปแบบของบานประตูทั้งสี่ ทำให้เกิดรูปทรงของกรอบที่แข็งแกร่งแสดงถึงความรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ในห้องโดยสาร 

ทีมออกแบบภายในของ Chika Kako พยายามสื่อให้เห็นถึงการสร้างความรู้สึกที่ต่อเนื่องด้วยรูปทรงของแดชบอร์ดและคอนโซล จากตำแหน่งที่นั่งคนขับคุณจะเห็นส่วนบนของแผงหน้าปัดที่ออกแบบคล้ายจอภาพมาตรวัดของอากาศยาน ตำแหน่งคนขับจัดวางมาดี เพื่อให้ผู้ขับขี่มีทัศนวิสัยที่ชัดเจนทั้งมุมมองด้านหน้าที่ครอบคลุมกับตำแหน่งของล้อหน้า เสาหน้าหรือ A-pillar บางเฉียบ แม้จะมีตำแหน่งที่นั่งสูงกว่ารถยนต์นั่งทั่วไป การลดระยะห่างระหว่างจุดสะโพกและส้นเท้าจะทำให้ผู้ขับขี่ UX รู้สึกใกล้ชิดกับถนนมากกว่าในรถ SUV ยานยนต์ครอสโอเวอร์ Lexus UX250h มีการเก็บเสียงที่โดดเด่นแม้จะมีขนาดเล็กแต่ประสิทธิภาพของวัสดุป้องกันเสียงแปลกปลอมจากภายนอกช่วยทำให้การขับมีความเงียบสงบโครงสร้างแบบใหม่ที่มีความแข็งแรง การจัดวางที่เหมาะสมของวัสดุดูดซับเสียงและฉนวนป้องกันเสียงที่ออกแบบเป็นพิเศษ

Lexus UX250h มีเบาะคู่หน้าที่ให้ความสบายเมื่อนั่งขับทางไกล เบาะคนขับช่วยให้ผู้ขับสามารถใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ในขณะที่ยังคงท่าทางที่สบายและเป็นธรรมชาติเบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง พนักพิงหลังของเบาะออกแบบให้สามารถรองรับกับสรีระที่หลากหลายของมนุษย์ ที่มีทั้งอ้วนและผอม เบาะหนังอย่างนุ่มที่ขึ้นชื่อของ Lexus โดยเฉพาะเบาะคู่หน้าใช้สปริงขนาดเล็กและโฟมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อความยืดหยุ่นและกระจายแรงกดอย่างสม่ำเสมอทำให้นั่งขับหรือนั่งโดยสารได้อย่างสบายตัว เบาะหลังมีพื้นที่เพียงพอสำหรับผู้โดยสาร 2 คน ถ้านั่ง 3 คนก็จะอึดอัดอยู่เหมือนกัน พื้นที่วางเท้าและพื้นที่เหนือศีรษะไม่สร้างความอึดอัดคับแคบแม้จะเป็นรถไซส์เล็กจากการออกแบบจัดวางพื้นที่ภายในค่อนข้างดี 

แผงหน้าปัด
การออกแบบแผงหน้าปัดของ UX มีการรวมคุณสมบัติของยานยนต์ Lexus ที่ไม่เหมือนใครให้เข้ากับเทคโนโลยีที่ใช้งานได้ง่าย มาตรวัดใช้จอแสดงผล TFT LCD ขนาด 7 นิ้ว สร้างมาตรวัดอะนาล็อกแบบสมจริงในพื้นที่สามมิติ ในขณะจอภาพมอนิเตอร์ของมาตรวัดมีความคมชัดสูง ทำให้ง่ายต่อการโฟกัสบนหน้าจอและรวมถึงวัตถุด้านหน้ารถ จอแสดงผลในส่วนของมาตรวัดสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามโหมดการขับเคลื่อน 3 รูปแบบ (ECO / Normal / Sport) โหมดสปอร์ต มาตรวัดทรงกลมจะเปลี่ยนเป็นมาตรวัดรอบสีขาว-แดง ส่วนมาตรวัดความเร็วจะแสดงผลอยู่ด้านในพร้อมกับการแจ้งเตือนตำแหน่งของเกียร์ ด้านซ้ายของจอภาพมาตรวัด TFT LCD ยังมีจอ MID multi information display คอยแจ้งเตือนข้อมูลต่างๆ เช่น แรงดันลมยาง การทำงานของระบบไฮบริด การเปิด-ปิดบานประตูทั้ง 5 คำนวณอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงฯ 

จอภาพแสดงผลกลางขนาด 7 นิ้ว
EMV เป็นจอภาพมอนิเตอร์กลางขนาด 7.0 นิ้ว สั่งงานด้วยการใช้นิ้วรูดไปที่แป้นทัชแพดสำหรับการควบคุมจอภาพที่ติดตั้งอยู่ข้างคันเกียร์คล้ายการใช้เมาส์คอมพิวเตอร์ ส่วนแป้นควบคุม Lexus Remote Touch Interface (RTI) ออกแบบให้มีสวิตช์เล็กๆ ในการลัดเมนูเข้าออกจากโหมดต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วพร้อมสวิตช์ควบคุมระดับเสียงขนาดเล็ก คันเกียร์สั้นกุดหุ้มด้วยถุงหนังแท้สีดำเย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดงเหมือนกับพวงมาลัย หลังคันเกียร์มีสวิตช์ EV ในโหมดการใช้งานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียวๆ และสวิตช์ Auto Brake Hold รวมไปถึงสวิตช์สตาร์ตเครื่องยนต์บนแผงคอนโซลและแผงควบคุมอุณหภูมิก็เหมือนกับยกออกมาจาก Lesux IS ทั้งยวง แดชบอร์ดแบบสองชั้นหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์สีดำเย็บด้วยด้ายสีน้ำตาล

Lexus Remote Touch Interface (RTI)
ระบบสั่งงานแบบสัมผัสใน Lexus UX ได้รับการออกแบบใหม่ โดยให้รู้สึกคุ้นเคยกับการใช้งาน แป้นทัชแพดสามารถรับรู้ตัวอักษรเมื่อพิมพ์ชื่อค้นหา การสั่นสะเทือนแบบสัมผัสพื้นผิวของทัชแพดบ่งบอกถึงผู้ใช้เมื่อเคอร์เซอร์ถูกย้ายทำให้ง่ายต่อการจัดตำแหน่งของเคอร์เซอร์ด้วยการลากนิ้วไปที่ปุ่มฟังก์ชันบนจอภาพที่ต้องการปรับตั้ง การเคลือบแบบพิเศษบนพื้นผิวของอุปกรณ์ทัชแพดช่วยให้นิ้วมือเลื่อนไปมาได้อย่างสะดวก สวิตช์ที่ฐานของทัชแพดสามารถเรียกหน้าจอการทำงานพร้อมฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง เช่น การควบคุมระบบปรับอากาศดิจิตอลแบบ 2 โซน โลโก้ Lexus บนทัชแพดออกแบบให้พื้นผิวมีการสะท้อนแสงในเวลากลางคืน

ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร LED เป็นตัวอย่างหนึ่ง ไฟ LED สีขาวส่องสว่างที่ช่องวางเท้าด้านหน้ากล่องเก็บของและสวิตช์คอนโซลและยังทำหน้าที่เป็นไฟโดมไฟแผนที่และไฟในห้องเก็บสัมภาระ สั่งงานด้วยระบบสัมผัสโดยใช้การแตะเบาๆ ที่สวิตช์ช่องแอร์ของ UX ใช้ปุ่มควบคุมแบบลูกบิดที่ให้ผิวสัมผัสดีเมื่อหมุนใช้งานสำหรับการปรับทิศทางลมและปริมาณของแอร์ ด้วยการรวมฟังก์ชันทั้งสองเข้าด้วยกันในการควบคุมเดียวทำให้ช่องระบายอากาศของแต่ละช่องสามารถขยายใหญ่ขึ้นทำให้การไหลเวียนของอากาศดีขึ้นในขณะที่ช่วยลดเสียงรบกวนจากการทำงานของพัดลมแอร์ในห้องโดยสาร

ระบบลำโพงมาตรฐานในรุ่น Luxury ติดตั้งลำโพงคุณภาพดี 6 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร เสียงที่เป็นธรรมชาติสร้างความคมชัดโดยใช้ทวีตเตอร์ที่ติดตั้งที่ด้านข้างของแผงหน้าปัดเพื่อสะท้อนเสียงจากกระจกหน้ารถ ระบบลำโพง 6 ตัวพร้อมพลังขับของซับวูฟเฟอร์ที่ติดตั้งในพื้นที่เก็บสัมภาระกลายเป็นเครื่องขยายเสียงที่มีคุณภาพและให้ความบันเทิงในระหว่างการเดินทางได้ดี 

เครื่องยนต์เบนซินตัวใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ทั้ง UX200 รุ่นมาตรฐาน และ UX250h รุ่นไฮบริด สำหรับประเทศไทยมีเพียงแค่รุ่นไฮบริด UX250h ควบรวมระบบผสมผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องยนต์รหัส M20A - FXS แบบเบนซินแถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT-iE + VVT-i (exhaust) ฝาสูบแบบ Atkinson cycle ปริมาตรความจุ 1,978 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ 80.5 มิลลิเมตร ช่วงชัก 97.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 14.0:1 กำลังสูงสุด 107 กิโลวัตต์ หรือ 143 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ระบบจ่ายเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ M20A-FXS ใช้หัวฉีดไฟฟ้า Electrical Fuel Injection (EFI), D-4S (Direct injection 4-stroke gasoline engine Superior) เชื้อเพลิง 91 มาตรฐานมลพิษ EURO-5 ตัวเลขสมรรถนะของ Lexus UX250h เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 8.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ระบบไฮบริดของ UX250h เป็นชุดส่งกำลังแบบ Two motor-generator hybrid transmission with planetary power-split device P711 front-wheel drive P711 front, Q510 rear มอเตอร์และเจนเนอเรเตอร์ MG1 - MG2 มีกำลังสูงสุด 80 กิโลวัตต์ หรือ 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร แบตเตอรี่วางไว้ใต้เบาะผู้โดยสารตอนหลัง ใช้แบตเตอรี่แบบ Nickel-metal hydride (Ni-MH) 216V 180 cells กำลังไฟจากแบตฯ 24kw เมื่อบวกกำลังเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าในระบบไฮบริด UX250h จะมีเรี่ยวแรง 175 แรงม้า ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อิเล็กทรอนิกส์ E-CVT เป็นชุดเกียร์ planetary gear set และเป็นทางเลือกที่เหมาะสมถูกต้องเนื่องจากเกียร์แบบนี้เหมาะกับระบบไฮบริดซึ่งต้องฝังมอเตอร์ไฟฟ้าเอาไว้ภายใน เกียร์ E-CVT จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อถูกปรับให้ทำงานร่วมกับระบบไฮบริดโดยเฉพาะเกียร์ของค่าย Toyota และ Lexus

ระบบ Hybrid Drive ใน UX250h ประกอบไปด้วย เครื่องยนต์+มอเตอร์ไฟฟ้า+เกียร์ E-CVT+Power Control Unit ที่ติดตั้งอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้า ชุดแบตเตอรี่ Hybrid พร้อมชุดควบคุมอุณหภูมิ ติดตั้งอยู่ใต้เบาะผู้โดยสารตอนหลัง เพื่อทำให้ตัวแบตฯ สามารถจ่ายไฟได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกสภาพอากาศ สิ่งที่เป็นกังวลมากที่สุดของผู้ที่เลือกใช้รถยนต์แบบ Hybrid ในประเทศไทยก็คือราคาค่าตัวของแบตเตอรี่ และการขับขี่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง เนื่องจากแบตฯ ของ Lexus มีความแตกต่างทั้งรูปทรง พลังงานที่ให้และราคาเมื่อเปรียบเทียบกับแบตฯ แบบปกติทั่วไป นานมาแล้ว โรงงานที่ผลิตแบตเตอรี่ให้กับรถ Toyota และ Lexus ก็คือโรงงาน Primearth EV Energy Co.,LTD. ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำการผลิตแบตเตอรี่แบบ Ni-MH-Nickel Metal Hydride เพื่อป้อนให้กับรถยนต์ Hybrid ของค่าย Toyota และ Lexus แต่เดิมโรงงานดังกล่าวเป็นของบริษัท Panasonic ในภายหลังบริษัท Toyota ได้เข้ามาถือหุ้นถึง 51% ปัจจุบัน Lexus มีการรับประกันอายุการใช้งานในระบบไฮบริดนาน 4 ปี รวมถึงการประกันอายุการใช้งานของแบตฯ nickel-metal hydride นาน 10 ปี 

โหมดประหยัด หรือ ECO Mode
สำหรับการขับเพื่อต้องการประหยัดเชื้อเพลิง ในโหมดนี้ระบบ Auto start-Stop จะทำงานอย่างต่อเนื่อง หากแบตฯ มีกระแสไฟมากพอระบบไฮบริดจะทำงานโดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนแต่เพียงอย่างเดียวในช่วงสั้นๆ คันเร่งไฟฟ้าตอบสนองแบบค่อยเป็นค่อยไป เหมาะกับการขับในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น

โหมด Normal
เมื่อสตาร์ตเครื่องยนต์เจ้า UX250h จะเข้าสู่โหมดสามัญ Normal Mode ปรับตั้งมาสำหรับการขับใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน การตอบสนองอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง โดยมีการทำงานของ Auto Start/stop ช่วยดับเครื่องยนต์เมื่อจอดนิ่งๆ อยู่กับที่เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษ

โหมด Sport
มาตรวัด TFT จะเปลี่ยนรูปแบบโดยแสดงผลมาตรวัดรอบเพื่อแจ้งข้อมูลการใช้รอบของเครื่องยนต์ การตอบสนองของคันเร่งจะไวกว่าโหมดประหยัดและมอบการขับเคลื่อนที่ว่องไว ตอบสนองอย่างตรงไปตรงมา

ระบบรองรับของ Lexus UX250h Luxury ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช้คอัพและเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบมัลติลิ้งค์ ชุดบังคับเลี้ยวไฟฟ้า Rack & Pinion with column-mounted electric power assist (EPS) แปรผันน้ำหนักของพวงมาลัยไปตามความเร็ว รัศมีวงเลี้ยว 5.2 เมตร ระบบเบรก ใช้ดิสเบรกทั้งสี่ล้อ พร้อมระบบช่วยเบรก power-assisted disc brakes 4 channel, 4 sensor  Anti-lock Braking System (ABS), Electronic Brakeforce Distribution (EBD), Brake Assist (BA), Traction Control (TRAC) and Vehicle Stability Control (VSC) จานดิสเบรกหน้าขนาด 305 มิลลิเมตร หลัง 280 มิลลิเมตร 

หลังจากขับทดสอบ Lexus UX250h Grand Luxury และ UX250h F-Sport สั้นๆ แถบชนบทนอกเมืองสตอกโฮล์มในช่วงของการเปิดตัวที่ยุโรปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว Lexus UX250h Luxury รุ่นถูกสุดเป็นรถทดสอบที่ผมได้ลองอีกครั้งในเดือนมิถุนายนของปีนี้ เป็นการขับออกทางไกลไปยังอำเภอด่านช้างในจังหวัดสุพรรณบุรีและอำเภอบ้านไร่ในจังหวัดอุทัยธานี เส้นทางแบบทางหลวงชนบทที่คดเคี้ยวอุดมไปด้วยทางโค้งและทางตรงยาวขึ้น-ลงเนินเตี้ยๆ ด่านช้างมีรถบรรทุกไม่มากนัก นานๆ จะมีรถกระบะท้องถิ่นวิ่งสวนมา คุณสามารถขับท่องเที่ยวกินลมชมวิวได้อย่างสบายใจ แต่ร้านอาหารและร้านค้าจะหายากอยู่สักหน่อยเมื่อขับออกนอกเมืองไกลๆ ทางที่เชื่อมต่อรอบนอกของตัวเมืองด่านช้างมีความสงบเงียบปราศจากรถราคับคั่ง แตกต่างจากเส้นพระราม 2 ที่มุ่งหน้าไปยังแยกวังมะนาวซึ่งอุดมไปด้วยรถฝูงรถบรรทุก 18 ล้อ คุณสามารถขับจากสุพรรณบุรีผ่านอำเภอด่านช้างไปยังกาญจนบุรีหรืออุทัยธานีได้โดยไม่ต้องกังวลกับสภาพการจราจร เส้นทางทดสอบที่รกร้างผู้คนเหมาะกับการนำครอสโอเวอร์ราคาแพงอย่าง UX250h รุ่น Luxury แม้จะมีอุปกรณ์น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับรุ่นที่สูงกว่าอย่าง Grand Luxury หรือ F-Sport แต่ประสิทธิภาพในด้านของการขับใช้งานกลับไม่แตกต่างกันมากนัก

จุดเด่นของ Lexus UX250h ก็คือการผสมผสานที่มีความโดดเด่นระหว่างระบบขับเคลื่อนและระบบรองรับรวมถึงชุดบังคับเลี้ยว ภายในที่เงียบสงบแม้จะเป็นครอสโอเวอร์คันเล็กแต่การเก็บเสียงก็ทำได้ดีเหมือนรถรุ่นพี่อย่าง Lexus ES300h ระบบนำทางที่ไม่มีติดตั้งมาให้ในรุ่นถูกสุดไม่ได้สร้างปัญหาใหญ่สำหรับการสำรวจเส้นทางที่แปลกใหม่ ตราบใดที่ยังมีสัญญาณโทรศัพท์ก็สามารถเปิด Google Map นำทางโดยไม่ต้องกลัวว่าจะขับหลงไปจนถึงประเทศพม่า! หลังจากขับผ่านสันเขื่อนกระเสียว ทางลาดยางเล็กๆ นำผมลัดเลาะจนเกือบจะถึงอำเภอบ้านไร่ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอุทัยธานี พื้นที่สองข้างทางถูกแบ่งออกเป็นไร่มันสำปะหลังและไร่อ้อยกว้างไกลสุดสายตา พื้นฐานของ UX นับว่าดีเยี่ยม จากแชสซีใหม่เอี่ยมอ่องที่ส่งผลให้มันขับได้อย่างเนียน เป็นรถที่ออกแบบโดยสุภาพสตรีชาวอาทิตย์อุทัยที่มองการณ์ไกลและมีหัวก้าวหน้า แต่ผู้ชายอย่างผมและอีกหลายๆ คนกลับชอบมันมากเมื่อได้ลองขับ

โหมด Sport มอบสมรรถนะที่คล่องแคล่วปราดเปรียว คันเร่งตอบสนองดีและไม่ไวจนทำให้ประสาทเสีย กำลังจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะพรั่งพรูออกมาเมื่อต้องการเร่งความเร็ว เป็นโอกาสดีที่จะได้สนุกกับการขับรถไปบนเส้นทางสายเปลี่ยวที่เต็มไปด้วยทางโค้งและใช้ความเร็วเท่าที่อยากขับ แตกต่างจากการขับในสตอกโฮล์มที่ต้องคอยระวังเรื่องการใช้ความเร็วและการรักษากฎจราจร ช่วงล่างที่สุดยอดของ UX ดีงามกว่า Toyota C-HR ประมาณ 2 เท่า! รวมถึงกำลังจากเครื่องยนต์ไฮบริดก็ยังถูกปรับให้แรงกว่านิดๆ เพื่อความสนุก คุณสามารถพารถเข้าสู่ไลน์ที่ถูกต้องในโค้งได้อย่างง่ายๆ ด้วยชุดบังคับเลี้ยวที่มีความแม่นยำของ UX250h ด้วยการขยับพวงมาลัยแค่นิดเดียว ส่วนหน้าของรถก็จะหันไปในทิศทางที่ต้องการ เป็นพวงมาลัยที่มีน้ำหนักลงตัวกับสปีดความเร็วและโหมดการขับเคลื่อน Sport Mode ไม่ได้ทำให้น้ำหนักของพวงมาลัยใน UX เพิ่มขึ้นมากนัก แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาก็คือความตรงไปตรงมาของพวงมาลัยเมื่อขับเร็วขึ้น มันมีน้ำหนักที่เป็นธรรมชาติ เมื่อขับเรื่อยๆ ในย่านความเร็วต่ำก็จะเบาสบายมือ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเริ่มต้นหวดมันหนักข้อขึ้น น้ำหนักของพวงมาลัยก็จะถูกปรับให้สอดคล้องกับความเร็วที่ใช้ ในขณะที่การควบคุมตัวถังซึ่งถือเป็นจุดแข็งของยานยนต์ยี่ห้อ Lexus ก็ทำออกมาได้อย่างไร้ที่ติ แม้จะโดนหวดอย่างหนักก็ไม่เคยออกอาการเสียววูบให้เห็น ผมเคยชอบการขับที่ดีของ Mercedes-Benz GLA200 Urban และ Audi Q2 แต่ UX250h กลับเหนือกว่านิดๆ ทั้งในด้านการผ่องถ่ายน้ำหนักในโค้งและความนิ่มนวลของระบบรองรับ เป็นการเซตรถที่เด็ดขาดจากทีมงานของ Chika Kako และทำให้รู้สึกอยากเป็นเจ้าของอยู่เหมือนกัน

เสียงรอบตัวเริ่มเงียบขึ้นเมื่อออกมาไกลจากเขตเมือง ในที่สุดมันก็พาผมเข้าไปอยู่ท่ามกลางทุ่งโล่งๆ ที่มีภูเขาอยู่ไกลลิบ Chika Kako ออกแบบเส้นสายของตัวถังรอบคันได้อย่างลงตัว UX เป็นรถคันเล็กที่มีสัดส่วนสวยงามและไม่มีจุดไหนที่แสดงออกถึงความอ่อนช้อยของสุภาพสตรีแม้แต่นิดเดียว มันไม่ได้สวยแบบอลังการเหมือน RX รุ่นพี่ที่มีราคาค่าตัวแพงระยับ โอเวอร์แฮงค์หน้าที่พอดิบพอดีกับด้านข้างของรถที่แสดงออกถึงการพุ่งทะยาน รูปลักษณ์ทั่วทั้งคันเหมือนทำออกมาโชว์มากกว่าจะผลิตขายแบบจริงจัง แม้แต่เสียงตอนกดปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ก็ยังเงียบกริบไม่มีอะไรที่ดังออกมาทั้งนั้น! การทำตัวเป็นยานยนต์ไฮบริดส่งผลให้มันมีความประหยัดพอใช้ได้ ถ้าขับเรื่อยๆ แบบค่อยเป็นค่อยไปทั้งในและนอกเมืองด้วยโหมด Eco อัตราสิ้นเปลืองจะอยู่ประมาณ 14-15 กิโลเมตรต่อลิตร แต่ถ้าอยากมันนึกคันขึ้นมาและคาอยู่ในโหมดสูงสุดหรือ Sport Mode อัตราสิ้นเปลืองจะหล่นลงมาอยู่ที่ 12 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งก็ยังประหยัดอยู่วันยังค่ำละครับ 

หัวใจของระบบขับเคลื่อนใน UX250h คือระบบ Hybrid Drive ประกอบด้วย เครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้า เกียร์ E-CVT ชุดอุปกรณ์ Power Control Unit ที่ติดตั้งอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้า ชุดแบตเตอรี่ Hybrid พร้อมชุดควบคุมอุณหภูมิ ติดตั้งอยู่ใต้เบาะผู้โดยสารตอนหลัง เพื่อทำให้ตัวแบตฯ สามารถจ่ายไฟได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกสภาพอากาศ การติดตั้งแบตฯ ให้อยู่ใต้พื้นห้องโดยสารเป็นการกระจายน้ำหนักที่สามารถพบเห็นได้ในรถไฟฟ้ายุคใหม่ ในโหมด EV เมื่อระบบไฮบริดชาร์จกระแสไฟฟ้าจนเต็มแบตฯ UX250h สามารถวิ่งด้วยความเร็วประมาณ 45-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดยได้ระยะทางนิดเดียวแค่ 2-3 กิโลเมตร หลังจากนั้นเครื่องยนต์จะติดตัวเองขึ้นแบบอัตโนมัติ แล้วรับหน้าที่ขับเคลื่อนต่อไปพร้อมกับชาร์จประจุกระแสไฟฟ้า เข้าไปกักเก็บยังแบตเตอรี่ด้านหลัง หมุนเวียนอยู่แบบนี้ตลอดการขับขี่ใช้งาน เป็นการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งสองตัว (MG1 MG2) ตัวที่ 1 ใช้ขับเคลื่อนร่วมแกนกับล้อคู่หน้า ส่วนตัวที่สองใช้ปั่นกระแสไฟฟ้าเข้าไปเก็บในแบตเตอรี่ แตกต่างจากรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปแบบปกติ การสลับสับเปลี่ยนการทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า เกิดขึ้นอย่างนุ่มนวลจนแทบจะไม่รู้สึก มีเพียงแค่จอแสดงผลบนหน้าปัดเท่านั้น ที่บ่งบอกว่ามันกำลังทำงานด้วยระบบใด ความเงียบของ Lexus UX250h เมื่อขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ระมัดระวังคนเดินเท้า รวมถึงคนขี่จักรยานที่อาจไม่ได้ยินเมื่อคุณขับตามหลัง

คันเร่งไฟฟ้าของ UX ให้ความรู้สึกแทบจะไม่แตกต่างจากรถยนต์แฮตช์แบค 5 ประตูเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี ทั่วไป กำลัง 175 แรงม้า เมื่อเครื่องยนต์และมอเตอร์ทำงานพร้อมกันทั้ง 2 ระบบ ส่งผลให้ UX250h มีความกระฉับกระเฉงและว่องไว พวงมาลัยคล้ายกับรถยุโรปอย่าง Audi Q2 หรือ BMW X2 และ Mercedes-Benz GLA ส่วนช่วงล่างของ UX ก็ให้ความรู้สึกที่หนึบแน่นและสร้างความมั่นใจในโค้งได้อย่างดีเยี่ยม การยึดเกาะกับผิวถนนด้วยยาง michelin รุ่น primacy 4 ไซส์ 215/60R17 ยางให้ความรู้สึกที่นิ่มนวลจากแก้มยางที่สูงและปราศจากอาการกระด้างจนทำให้รู้สึกแปลกใจเมื่อวิ่งผ่านผิวถนนที่ไม่เรียบ

ช่วงล่างหน้าแมคเฟอร์สัน หลังมัลติลิ้งค์ ซับแรงสั่นสะเทือนแล้วตอบสนองกลับคืนมาสู่พวงมาลัยทำให้เพิ่มความเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ จนไม่รู้ตัว สัมผัสของพวงมาลัยและช่วงล่างคล้ายสปอร์ตแฮตช์แบค 5 ประตูของยุโรปบางยี่ห้อ แม้ UX250h จะไม่ใช่รถที่ออกแบบมาเพื่อการทำความเร็ว แต่โหมด Sport กลับมอบอารมณ์และความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร อย่างชัดเจน ความนิ่งของแชสซีใหม่และความสามารถของระบบขับเคลื่อนที่พอดิบพอดีกับขนาดและน้ำหนัก 1.7 ตัน ส่งถ่ายความรู้สึกเพลิดเพลินแทบจะไม่ต่างไปจากรถคู่แข่งที่มีราคาสูสีกัน 

ทุกโหมดของ Lexus UX ปรับการตอบสนองของพวงมาลัยและคันเร่งให้ทำงานเข้ากับเกียร์พร้อมโช้คอัพนุ่มๆ ควบรวมกับเบาะหนังที่นั่งได้นิ่มราวกับก้นอันอ่อนนุ่มของทารก! 3-4 อาทิตย์ที่ผ่านมา ไล่เรียงจากการได้ขับรถทดสอบอย่าง Mercedes-Benz C200 Coupe / BMW M4 CS /MINI Cooper Clubman JCW / Audi Q8 / Porsche 911/992 / Audi A7 Sportback จนมาถึงจักรกลตราหัวลูกศรคันนี้ที่มีความดีงามในแบบฉบับของตัวเอง เกียร์อัตโนมัติของ UX250h มี ECU ที่คอยตรวจจับรอบเครื่องเพื่อจัดอัตราทดที่เหมาะสมกับการทำงานของเครื่องยนต์ในแต่ละย่านไม่ว่าจะขับเอื่อยเฉื่อยเป็นเรือบรรทุกทรายหรือหวดไม่ยั้งในโหมด Sport เครื่องยนต์ไฮบริดไม่ได้มีกำลังล้นเหลือเหมือนรถรุ่นพี่อย่าง RX450h แต่วิศวกรของ Lexus ลงมือจูนเครื่องและมอเตอร์ MG1 เพื่อรีดแรงบิดออกมาได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ การตอบสนองที่ดีของเครื่องไฮบริด รวมถึงการเซตพวงมาลัยกับช่วงล่างของ UX250h แสดงให้เห็นว่า หัวหน้าทีมออกแบบ Chika Kako จะต้องเป็นผู้หญิงที่ชอบขับรถเร็วอย่างแน่นอนที่สุด! 

เครื่องยนต์ไฮบริดของ UX250h พาผมวิ่งมาโผล่ในแถบอำเภอหนองปรือของจังหวัดกาญจนบุรี อำเภอเล็กๆ ที่มีวิวอันงดงามแถวๆ อ่างเก็บน้ำห้วยกระพร้อย หนึ่งในโครงการพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 Lexus UX ไม่ไช่รถที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองแต่เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป การวิ่งด้วยความมั่นคงบนทางไฮเวย์ โดยเฉพาะเส้นทางเล็กๆแบบสองเลนสวนกัน พิสูจน์ตัวมันเองอย่างเด่นชัดถึงประสิทธิภาพของระบบ Hybrid ที่ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ Atkinson cycle ได้อย่างโดดเด่น อุปกรณ์แยกกำลัง Power Split Device ทำหน้าที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าได้อย่างลงตัว ชุด Power Control Unit จะรับหน้าที่ควบคุมไฟฟ้ากระแสตรงจากแบตเตอรี่ รวมถึงกระแสไฟฟ้าแบบสลับ จากมอเตอร์ไฟฟ้า MG2 ซึ่งเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหรือเจเนอเรเตอร์ในตัวคอยชาร์จไฟใส่แบตฯ อย่างต่อเนื่อง

มันสามารถขยายกำลังไฟจากแบตฯ ลิเทียม ไอออนเพื่อป้อนพลังงานให้กับชุดมอเตอร์ MG1 ที่ใช้ขับเคลื่อน นี่คืองานวิศวกรรมจักรกลที่เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีและความสะดวกสบายในการขับเคลื่อนยุคใหม่จาก Lexus ซึ่งกำลังเข้ามาแทนที่รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบปกติที่กินเชื้อเพลิงมากกว่า กำลังจากเครื่อง 2.0 ลิตร ผสานมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถดึงออกมาใช้งานได้ในทุกห้วงเวลาที่ต้องการ มันอาจไม่ใช่รถที่เร็วเหมือน BMW330e หรือแม้แต่ Mercedes Benz C350e แต่เจ้า UX250h Luxury ก็มีความเร็วพอที่จะเอาตัวรอดได้ในสถานการณ์ที่ต้องการกำลังในการเร่งแซง ทั้งบนทางไฮเวย์และบนทางหลวงชนบท

ในฐานะสื่อมวลชนและคนที่บ้ารถ ต้องปรบมือให้กับทีมออกแบบและพัฒนาของ Lexus ซึ่งมี Chika Kako เป็นหัวหน้า ครอสโอเวอร์หรูไซส์เล็กอย่าง Lexus UX ปราศจากข้อติติงเมื่อใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันนาน 1 อาทิตย์ แม้ราคาจะแรงแต่การขับที่ดีของมันก็ทำให้ค่าตัว 2.4 ล้านไม่ได้แพงมากจนเกินไป เป็นรถเล็กที่ขับได้ดี (มาก) และเหนือกว่ารถคู่แข่งในบางจุด เช่น ไดนามิกส์ที่ดี ขับยังไงก็ไม่รู้สึกว่าเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า วัสดุที่เลือกตกแต่งห้องโดยสาร ความสบายของเบาะ ความเงียบจากการเก็บเสียงที่เป็นมาตรฐานของยานยนต์จาก Lexus การซึมซับแรงสั่นสะเทือนจากการปรับจูนโช้คอัพรวมถึงการเลือกใช้ขนาดของล้อและยางที่ลงตัว นอกจากรูปลักษณ์ที่สวยงามทันสมัย การขับใช้งานที่โดนใจ การเป็นเจ้าของ UX250h รุ่นถูกสุด Luxury ก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณจะยอมเปลี่ยนความจงรักภักดีจากแบรนด์เยอรมันอย่าง BMW Audi หรือ Mercedes Benz มาเป็น Lexus หรือเปล่าเท่านั้นละครับ. 

TECHNICAL DATA
Engine Type (M20A-FXS) 2.0-liter L-4 16-Valve, DOHC, VVT-iE (intake), VVT-i (exhaust)
Displacement 1,987 cc
Max. Output 146 PS/6,000 rpm
Max. Torque 188 Nm/4,400 - 5,200 rpm
Fuel System EFI (Electronic Fuel Injection System)
Octain Rating 91 or Higher (E10)

Hybrid System 
Motor Type Synchronous Alternating Current Motor (Permanent Magnet Type)
Max Voltage 216 V
Max Output 80 KW / 109 PS
Max Torque 202 Nm
Total System Output 135 KW / 184 PS
Hybrid Battery
Type Ni-MH (Nickel-Metal Hydride)

PERFORMANCE
Max. Speed 177 km/h
Acceleration 0 - 100 km/h 8.5 sec
Minimum Turning Radius (Tire) 5.2 m
Fuel Consumption (Avg) 22.73 km/L
Emission CO2 (Combined) 103 g/km
Emission Standard

Transmission Type E-CVT
Suspension
Front MacPherson Strut
Rear Double Wishbone
Drive Train Systm Front-Wheel Drive
Steering System Electric Power Steering (EPS)
Brake
Front Ventilated Disk
Rear Solid Disk


Overall
Length 4,495 mm
Width without Mirror 1,840 mm
Height 1,520 mm
Wheelbase 2,640 mm
Wheel Tread
Front 1,560 mm
Rear 1,560 mm
Weight
Curb Weight 1,570 - 1,625 kg
Gross Vehicle Weight 2,110 kg
Fuel Tank Capacity 43 L


WHEEL & TRIES
215/60 R17 SM GEN SP michelin primacy 4

INTERIOR
7.0" TFT Multi-Information Display
Leather Steering Wheel
Steering Wheel Control Switches
Shift Lever Knob : Leather
Vanity Mirrors & Lamp (Front Seats)
Center Console Box ; Audio Mini-Jack, USB
Auto Air Conditioning System ; Independent Temperature with Clean Air Filter : Dual-Zone with Lexus Cliamte Concierge
Instrument Panal Trim : Wood

Seat Cover Material : Synthetic Leather
Power Front Seat 8-Way Adjuster
Seat Heater
Rear Seat Reclining Adjustments (60:40)

Audio System : DVD 6 SP
Bluetooth

Power Tilt & Telescopic Steering Column: Manual
Intermittent Wiper : Time Adj.
Cruise Control
Drive Mode Selector (ECO/Normal/Sport)
EV Mode
Smart Entry & Start System
7.0" EMV (Electro Multi-Vision) Display
Multimedia Controller
Power Back Door with Kick Sensor
Wireless Charger


FASETY
Vehicle Stability Control System (VSC)
Traction Control System (TRC)
Anti-Lock Brake System (ABS) with Electronic Brake Force Distribution (EBD)
Brake Assist System (BA)
Hill Start Assist Control
Parking Assist System
Back Monitor
Tire Pressure Warning
Dual Stage SRS Airbag (Driver's Seat)
Dual Stage SRS Airbag (Front Passenger's Seat) ; Twin-Chamber Type
SRS Knee Airbags (Front Seats)
SRS Side Airbags (Front Seats)
SRS Curtain Shield Airbags
WIL (Whiplash Injury Lessening) (Front Seats)
3-point ELR Seatbelts with Pretensioners, Force Limiters and Torsionreduce (Front Seats)
3-point ELR Seatbelts (Rear Seats)
Anchor Bars for Fixing ISO FIX - Compliant Child Seat (Rear Seat)
Anti-Theft System (Silen+Sensor+Glass+Angle)



อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/