ไม่ว่าคุณจะเหยียบคันเร่งจนมิดไมล์หรือรถคุณจะโมดิฟายมาแรงแค่ไหน แต่เมื่อเจอเจ้ายักษ์เขียวรถส่งหนังสือพิมพ์ของสำนักข่าวไทยรัฐ ตำนานตัวแรงแห่งย่านวิภาวดี คุณก็จำเป็นต้องหลีกทางให้กับรถคันนี้อย่างแน่นอน
จริงๆแล้ว รถที่ขับช้ากว่า ก็ต้องหลบให้รถที่เร็วกว่า ตามกฏจราจรและกฏความปลอดภัย การให้รถที่เร็วกว่า ขับแซงซ้ายขึ้นไปถือเป็นเรื่องที่อันตราย สำหรับคนที่คิดว่าขับเร็วแล้ว และอยู่ช่องทางด้านขวา ถ้ามีรถที่เร็วกว่าก็ควรจะหลบซ้ายให้รถที่เร็วกว่าแซงผ่านไปครับ ส่วนรถที่แซงไปแล้วก็ไม่ควรแช่ขวา ถ้าช่องซ้ายว่างก็เปิดช่องขวาเอาไว้ให้แซงเถอะครับ
Photo by Boat Prl
กรุงเทพ - เชียงใหม่ 4 ชั่วโมง
-อันนี้ ไม่จริงครับ ซูปเปอร์คาร์ที่ผมเคยทดสอบหลายรุ่น ในสภาพการจราจรปกติ ไม่มีทางทำเวลาจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ได้ภายในสี่ชั่วโมง ไม่ต้องพูดถึงรถบรรทุกหนัก 12-14 ตัน (ตัวเปล่าหนัก 6-7 ตัน เฉพาะหนังสือพิมพ์ถ้าขนเต็มตู้ หนักประมาณ 5 ตัน) ที่ต้องการระยะเบรกมากกว่า สภาพการจราจร เส้นทางในยุคนั้นที่ไม่ได้ปลอดภัยเท่ากับทางในทุกวันนี้ จากกรุงเทพฯไปถึงนครสวรรค์ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงก็เร็วจนโดนละครับ ด่านนครสวรรค์พี่เค้าขึ้นชื่อเรื่องแม่นความเร็ว หวานเจี้ยบจ่ายสดรับสารภาพในด่านจัดสดเป็นค่าปรับความเร็วเกินอัตรากำหนด 500 ครับ แถวนั้นพี่เค้าจะไม่วิ่งเร็วกันนะครับ
...
1 ชั่วโมง 30 นาทีแรก จากโรงพิมพ์ต้องถึงนครสวรรค์
-โถ่พี่ครับ จะเอาเร็วขนาดนั้น เช่า ฮ.ไป เถอะครับ ชั่วโมงครึ่งไปถึงปากน้ำโพแบบนั้นมีแต่เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ครับที่ทำได้
2 ชั่วโมง ต้องถึงแถว อ.โกสัมพี บ้านวังเจ้า
-ชนเละตั้งแต่ออกจากรังสิตละครับถ้าจะห้อเร็วจิ้ดขนาดนั้น
3 ชั่วโมงต้องถึง อ.สบปราบ
-จริงๆแล้ว สี่ชั่วโมงกว่าๆ พี่ยักษ์ของผมแค่เลยนครสวรรค์มานิดเดียวเองครับ แฮร่!
4 ชั่วโมง ถึงเชียงใหม่
-ปัดโธ่ ยืนยันครับ Lamborghini Huracan STO ที่ว่าเบาและแรงเหมือนรถแข่ง GT3 ในสภาพการจราจรปกติ วิ่ง 4 ชั่วโมง ต้องถึงเชียงใหม่ยังลำบากเลยครับ ยางอาจแตกได้ทุกเมื่อถ้าสะกิดหลุมแค่นิดเดียว แล้วหลุมจาก กทม ไปถึงเชียงใหม่ก็มีอยู่เพียบ ทั้งหลุมเล็กหลุมใหญ่ หลุมเกิดใหม่ที่หลบไม่ทัน ใครขับซูปเปอร์คาร์ขึ้นเชียงใหม่ถ้าไม่ระวังก็โดนถึงล้อถึงยาง! ไม่ต้องพูดถึงรถบรรทุกคันใหญ่อย่างพี่ยักษ์หนัก 14 ตันของผม กว่าจะลอยตัวขึ้นไปได้ก็ใช้เวลาอยู่พอสมควรครับ รถบรรทุกนะครับไม่ใช่รถแข่ง 4 ชั่วโมงก็จอดพักกินข้าวต้มปลานครสวรรค์ละครับ
เรื่องราวของสมรรถภาพและความโดดเด่นของรถส่งหนังสือพิมพ์ ของ นสพ.ไทยรัฐ เคยถูกนำมาเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์จำนวนมาก โดยตั้งสมญานามให้ว่า “ยักษ์เขียววิภา” ระบุว่า รถขนส่งของไทยรัฐ เคยนำ นสพ.จากโรงพิมพ์ย่านวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ ไปส่งถึงเชียงใหม่ ได้ในเวลาเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น (ความเร็วเกือบเท่ากับรถไฟชินกันเซนของญี่ปุ่นเลยทีเดียว) โดยเฉพาะในช่วงมีสถานการณ์ข่าวเร่งด่วนเกิดขึ้น จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาข่าว และส่งถึงมือผู้อ่านให้ทันเหตุการณ์
...
หลายปีผ่านไป ความอยากรู้อยากเห็นเรื่องความเร็วของรถขนส่งไทยรัฐมีมาอย่างต่อเนื่อง ในเว็บไซต์หลายแห่งอ้างถึงข้อมูลที่พยายามสืบค้นจากผู้เกี่ยวข้องในระบบการขนส่งนี้ ระบุข้อมูลภาพรวมของรถบรรทุกขนส่งของ ไทยรัฐว่า รถขนส่งทั้งหมดเป็นรถบรรทุก 6 ล้อ มีหลายโฉม คือ ISUZU NQR175 โฉมปี 2012 เป็นรถบรรทุก 6 ล้อ 5 ตัน ติดตั้งตู้ทึบบริเวณด้านหลังขนาด 4.5 เมตร มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล มาตรฐาน EURO3 แต่ที่ว่าเร็วแรงก็โฉม ISUZU FTR 240 แรงม้า เครื่องยนต์คอมมอนเรล ISUZU 6HK1 TCN เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ 6สูบ ขนาด 7,790 CC และยังอ้างอีกว่าความเร็วปกติวิ่งได้สูงสุดถึง 240 กม./ชม.
-ตอบในฐานะคนไทยรัฐเลยว่า อันนี้ ไม่จริงครับ
แต่หากผ่านการโมดิฟาย เครื่องยนต์แล้วจะสามารถใช้ความเร็วได้มากกว่านั้น
-รถบรรทุกส่งของครับ ไม่ใช่รถแข่งคลอง 5
และล่าสุดหลายคนเชื่อว่าปัจจุบันก็น่าจะมีการปรับปรุงสมรรถนะของรถสายส่งเพิ่มขึ้นอีก
-ปัจจุบัน พี่ยักษ์เขียวของผม หันมาส่งหนังสือพิมพ์และโลจิสติกส์ส่งของทั่วประเทศ ด้วยการใช้ความเร็วตามที่กฏหมายกำหนดครับ
นสพ.ไทยรัฐมีช่างเครื่องยนต์ระดับเทพฯ คอยพัฒนาความสามารถของรถอยู่เสมอ และที่สำคัญการตกแต่งเครื่องยนต์ หรือพัฒนาสมรรถภาพทั้งหมดล้วนเป็นความลับที่ใครๆ ก็อยากรู้
-อันนี้ รถที่ใช้งาน ก็ต้องบำรุงดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมใช้ครับ
มาดูคอมเม้นท์เวลาเค้าเจอพี่ยักษ์เขียวกันดีกว่าครับ
...
วัฒน์ ทุ่งพระยา
ตู้สูงกว่าหัวเก๋งไม่เท่าไหร่หรอก แต่ถ้าไปเจอตู้เสมอเก๋งนี่อย่าไปไล่เลยเปลืองน้ำมันไปซะเปล่าๆ ตัวผมเองไทรตัน ปี ค.ศ.2016 เครื่องเบนซิน รถวิ่งลอยอยู่ 175-180 เส้นถนนหมายเลข 2 ขึ้นอุดรฯ ช่วงตี 3-4 โดนต๊อปไฟใส่ 2-3 ที โยกลงซ้าย เดี๋ยวเดียวพี่แกลอยไปแบบชิลๆ ยิ่งนาน ยิ่งห่าง สุดท้ายเห็นแต่ไฟท้ายลิบๆ หันมาดูหน้าไมล์รถตัวเอง คำถามมีขึ้นมาเลยว่าพี่แกใช้ความเร็วเท่าไหร่ อันนี้ประสบการณ์ตรงของตัวเองครับ
...
Tanadech Tangjiamrattana
วัฒน์ ทุ่งพระยา ฟอร์ดเรนเจอร์ผมขาจึ้นมาจากใต้เส้น สุราษฎร์ธานี-ชุมพร เหยียบจมไมล์แล้วหนีมาหลายกิโลหนีแกไม่ออก เล่นกันมาตลอดทางสุดท้ายต้องยกให้แกแซงไป ต่างคนต่างยกนิ้วให้กันกับบีบแตรทักทาย
Chakkrit Ainthanon
เครื่องไม่ถึงอย่าทะลึ่งไปเล่นกับพี่เขา
พิศาล พลราช
เดี่ยวนี้ไม่น่าจะขับเร็วแล้วครับ ตามยุคสมัยเพราะข่าวหนังสือพิมพ์ไม่ได้รับความนิยมแล้วมีช่องทางการติดตามข่าวออนไลน์ไม่เหมือนก่อน ที่หนังสือพิมพ์ต้องแข่งขันต้องรวดเร็ว เพื่อให้หนังสือพิมพ์ส่งข่าวให้ถึงคนอ่านให้เร็วที่สุดครับ
Exorcist Khonkaen
ถ้าตามประสบการณ์โดยตรง เจอมาไม่ต่ำกว่า 50 รอบ เส้นทางขอนแก่น - กรุงเทพฯ-ขอนแก่น เจอกันในหลายๆช่วง เขาก็วิ่งเร็วกว่ารถบรรทุกทั่วไปครับ แต่ไม่ได้เร็วกว่ารถกระบะ เดิมๆแน่นอน ความเร็วประมาณ 150 -160 ก็แซงได้แล้วครับ ส่วนใครที่เจอเร็วกว่านี้ ผมก็แปลกใจว่า อาจจะคนขับคนละคนหรือรถคนละคัน แต่ที่ผมเจอ ผมก็แซงได้ตลอดครับ เลยคิดไปเองว่า เราคงไม่เจอคันที่เขาขับเร็วๆ หรืออาจจะมีการอวยเกินจริงการไปบ้าง
เชษฐ์ เพชรสังข์
ขอบคุณพี่คนขับยักษ์เขียวสมัย 30 กว่าปีที่ผ่านมา ได้โยน น.ส.พ.ไทยรัฐลงมา 1 ฉบับทุกวันให้กับวัด (ขอบคุณครับอดีตเด็กวัดไม่เคยลืม)
Mathangkul Sanjawin
เค้ากะไม่ได้ตะบี้ตะบันขนาดนั้นหรอก..ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยใช้เบรคอาสัยมุดเอาหาช่องไปยังไงให้ความเร็วไม่ตกขนาดยางนี่ก็มีส่วนรถเล็กยาง 250 รถใหญ่ ยาง 1100 รถใหญ่มันก้าวยาวกว่าเค้าวิ่งเรื่อยๆ ขึ้นตามสเตป รถเล็กถ้าจะไล่ก็ต้องเพิ่มรอบให้จัดขึ้นไงอะไรเงี้ย รอบไมล์ก็ต่างกันรอบรถเล็กขึ้น 200 แต่รถใหญ่แค่ 150 ไรเงี้ย ทางยาวๆเค้าไล่ได้ แต่เค้ากะหนีไม่พ้นไรเงี้ย เค้ายกคันเร่งจังหวะเดียวเราก็ทันเขาแล้วล่ะแต่ต้องยอมรับว่าช่วงล่างเค้าแน่น
Badguy Friday
เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ผมกับเมีย เคยนอนอยู่ข้างใน ตอนนั้น คือ ย้ายบ้าน จาก อุบลฯ เข้า ก.ท.ม พี่ยักษ์เขียวใจดีคิดค่าเสียเวลา 500 บาท เรื่องจริงครับ
วัชระ พิมพศร
Badguy Friday ผมอุดรไปกรุงเทพก็ไทยรัฐนี่ละครับเร็วด้วย 555
Sakesun Sommano
พขร.รุ่นนี้เบากว่าพขร.เก่าๆเยอะบอกได้เลยรุ่นเก่าๆเนียนเร็วกว่าตอนนี้เยอะ มารยาทสุดยอดเลย
บ้านสวนแก้มลิง
ยักเขียวสุดๆครับ เมื่อก่อนเจอกันทุกวันสาย 214 สุรินทร์ ตี 4 ผมวิ่ง 120 พี่แกหายเงียบตรงเวลาสุดครับ วิ่งตามหลังมองช่วงล่างเข้าโค้งโคตรนิ่ง สุดจริงครับ ยอมเลยตำนานเล่าขาน กทม-เชียงใหม่ 4 ชม.
แบงค์ ทุก ที่
Chakkrit Khruewan กทม-เชียงใหม่ 4 ชั่วโมง ใครจะเชื่อก็เชื่อไป ผมคนหนึ่งที่ไม่เชื่อ ไปถึงนครสวรรค์ใช้เวลาเท่าไหร แล้วถึงลำปางกี่โมง ถ้าพิสูจน์ต้องไลฟ์สดแหละถึงจะเชื่อ
Kittipong Niemprasert
Zax Sam จริง พูดกันไปได้ โคตรเว่อร์ครับ กท.-ชม. 4 ชม. บางคนบอกวิ่งเร็วสูงสุด 250km/h ประเทศไทยนะครับ ไม่ใช่ autobahn
Tanakit Bunviriya
Tivakorn Lifelonglearning กรุงเทพ-เชียงใหม่ 700 กิโล = 1 ชม.วิ่งได้ 175 กิโล หมายความว่า ต้องขับความเร็วอย่างน้อย 175 กม/ชม. ตลอดเวลา ย้ำว่าตลอดทาง กับถนนเมืองไทย Super car ยังทำไม่ได้เลยครับ
เบนซ์ กินแฟกัญจน์
เขาขับมีมารยาทมากครับ รถบรรทุกบางคนที่ชอบขับ 80 แช่ขวาควรเอาอย่าง
ช่างเอกแอร์บ้านนครศรีธรรมราช ส.สกุลรักษายศ
150+ ผมลองกับ บีที 50 ผมมาแล้ว เมียบอกพี่ยกเหอะ
Nangyang Cheeze
เคยขับมอเตอร์ไซค์ต่อท้ายรถเค้าตอนรถติดๆที่เส้นวิภาวดี กลิ่นไอเสียเค้าไม่เหมือนรถบรรทุกทั่วๆไปอะครับ มันเหมือนรถแข่งสนามคลองห้ามากกว่า
Anuphap Nalek
ต้องยอมรับว่ารถเค้าแรงในประเภทรถบรรทุกด้วยกันกับรถทั่วไป ด้วยเป็นบริษัทที่ต้องอาศัยความรวดเร็วในการนำข่าวสารไปถึงผู้บริโภคในยุคไร้โซเชียล ประกอบกับเป็นสำนักหนังสือพิมพ์อันดับ 1 การบริหารเวลาได้ดีเท่าไหร่ นั่นหมายถึงย่อมเป็นหนึ่งในใจผู้คน ทำให้รถทุกคันของเค้าต้องมีเครื่องยนต์ที่ดีที่สุด นั่นคือ ช่างดูต้องเก่ง อะไหล่ต้องดี มีการดูแลรถตรวจสอบเครื่องยนต์ ยางรถ น้ำมันเชื้อเพลิงทุกรอบในการออกวิ่งทุกครั้งเหมือนเครื่องบิน รถดีรถแรง สภาพพร้อมใช้งานคนขับมีความมั่นใจรถ + ความใจถึง ฝีมือดี ทำให้ยักษ์เขียววิ่งทำเวลาได้ดี ส่วนรถชาวบ้านวิ่งได้มั้ยแบบยักษ์เขียววิ่งได้ครับ 140-160 ตลอดทาง คำถามคือคงไม่มีใครจะวิ่งแบบเค้าหรอกใช่มั้ย เพื่ออะไร เสี่ยงอันตรายด้วย ในเมื่อเค้าพร้อมทุกด้าน บวกเป้าหมายคืองานของเค้า แต่รถพวกเราไม่ใช่ไม่มีเหตุผลไม่พร้อมที่ต้องเร็วด่วนเหมือนเค้าหรอก อีกอย่างทุกวันนี้เค้าก็ลดความเร็วลงไปมากในปัจจุบัน เพราะโลกการสื่อสารทางโซเชียลมาแทนที่.