เอกลักษณ์และปรัชญาของ Toyota ก็คือ ทำให้รถยนต์มีความน่าเชื่อถือและทนทานมากขึ้น ด้วยพื้นฐานด้านวิศวกรรม วัสดุที่มีคุณภาพ การผลิตเครื่องยนต์รวมถึงบล็อกเหล็กหล่อที่แข็งแกร่ง อะลูมิเนียมอัลลอยที่ทนทาน และส่วนประกอบเหล็กคุณภาพสูงในชิ้นส่วนที่ต้องรับแรงกดดันมหาศาล งานวิศวกรรมที่มีความแม่นยำ หมายความว่าเครื่องยนต์แต่ละตัวได้รับการออกแบบและผลิตด้วยความเอาใจใส่ในรายละเอียด ส่วนประกอบทุกชิ้นทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น มีอายุการใช้งานยาวนาน
...
...
การมาถึงของมินิเอ็มพีวี Toyota Veloz เวอร์ชันประกอบอินโดนีเซีย ลูกค้า Toyota หลายคนเกิดอาการลังเลใจว่าจะเลือกรถที่มีเครื่องยนต์ไฮบริดประหยัดน้ำมันอย่าง Corolla Cross รุ่นปรับโฉม ซึ่งมีราคาแพงกว่าแต่มีอุปกรณ์ครบมากกว่า หรือจะเลือกรถที่มีขนาดใหญ่กว่าแต่มีราคาถูกกว่าอย่าง Veloz เพราะจุดเด่นเรื่องพื้นที่ใช้สอยที่พอเพียงของห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง เบาะสามแถวของ Veloz ใช้งานได้จริง แต่เบาะแถวที่สามมีพื้นที่ไม่มากเหมาะสำหรับให้เด็กนั่งมากกว่า การเข้ามาแทนที่ Avanza ทำให้ Veloz ต้องยกระดับความอเนกประสงค์เพิ่มเติมหลายจุด ด้วยขนาดของตัวถังที่ใหญ่ขึ้น อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ Toyota เพิ่มเข้ามาให้อย่างเต็มที่ และการขับขี่ในย่านความเร็วสูงที่ให้ความมั่นใจได้ดีกว่ารถรุ่นพี่อย่าง Avanza โดยเฉพาะการทรงตัวในโค้ง เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ของ Veloz มีกำลังไม่มากนัก แต่ก็พอจะเอาตัวรอดบนถนนที่เป็นเนินสูงชัน เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียงสี่สูบความจุ 1.5 ลิตร ยังประหยัดเชื้อเพลิงใช้ได้แม้ไม่มีระบบไฮบริดคอยช่วยเหลือก็ตาม ....
...
Toyota Veloz Premium ราคา 875,000 บาท
Toyota Veloz Smart ราคา 795,000 บาท
สีเงิน Purplish Silver Mica Metallic
สีแดง Dark Red Mica Metallic
สีขาวมุก Platinum White Pearl
สีดำ Black Metallic
สีพิเศษ Platinum White Pearl เพิ่ม 7,000 บาท
...
Toyota Veloz Premium ชุดแต่ง X-Urban ราคา 914,900 บาท
อุปกรณ์ตกแต่ง ประกอบด้วย
สเกิร์ตด้านหน้า
สเกิร์ตด้านหลัง
กาบด้านข้างประตู
คิ้วซุ้มล้อ
สัญลักษณ์ X-Urban บริเวณท้ายรถ
ล้ออัลลอยสีทูโทนปัดเงา ขนาด 17 นิ้ว
ฝาครอบดุมล้อ พร้อมสัญลักษณ์ X
เพิ่ม 39,900 บาท
ผลิต จำหน่าย ติดตั้งโดย บริษัท TCD Asia Sales รับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
ยอดขาย MINI MPV 7 ที่นั่ง ไตรมาส 1 ปี 2024 (ม.ค.-มี.ค. 67) Mitsubishi Xpander ครองแชมป์ 3,094 คัน ส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 69.1% ตามด้วย Toyota Veloz ที่เพิ่งกลับมาส่งมอบได้เป็นเดือนแรก และ Hyundai Stargazer ประคองยอด คว้าอันดับ 3 แซงหน้า Honda BR-V
ยอดขายรถยนต์กลุ่มรถ MINI MPV 7 ที่นั่ง เดือน มกราคม–มีนาคม 2567 รวม 4,479 คัน
- อันดับ 1 Mitsubishi Xpander : 3,094 คัน ส่วนแบ่งตลาด 69.1%
- อันดับ 2 Toyota Veloz : 646 คัน ส่วนแบ่งตลาด 14.4%
- อันดับ 3 Hyundai Stargazer : 348 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.8%
- อันดับ 4 Honda BR-V : 212 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.7%
- อันดับ 5 Suzuki XL7 : 138 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.1%
- อันดับ 6 Suzuki Ertiga : 41 คัน ส่วนแบ่งตลาด 0.9%
หน้าตาของ Toyota Veloz Premium + ชุดแต่ง X-Urban ดูเข้าทีดีเหมือนกันแม้กระจังหน้าจะใหญ่โตกินพื้นที่ส่วนหน้าของรถเกือบทั้งหมด แต่การออกแบบรายละเอียดพวกลวดลายภายในชุดกระจังและคาดพลาสติกโครเมียมที่ส่วนบนเพื่อเชื่อมโยงกับแนวของไฟหน้า ทำให้ใบหน้าของ Veloz ดูลงตัวใช้ได้ ระบบส่องสว่าง ติดตั้งไฟหน้า LED มีไฟหรี่กลางวัน LED Daytime running light มาพร้อมฟังก์ชันยกหรือลดไฟสูงแบบอัตโนมัติ เมื่อลองใช้งานในตอนกลางคืน บนถนนที่ไม่มีแสงไฟ ระบบไฟอัตโนมัติของ Veloz ก็มีความสว่างที่ใช้ได้ ทำให้มองเห็นบนถนนที่มืดมิดได้ดี การมองเห็นที่ดีในตอนกลางคืนยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน ระบบอัตโนมัติทำงานเร็ว แต่ก็ต้องไม่มีแสงไฟรอบด้าน ระบบไฟสูงออโต้จะเข้ามาช่วยส่องในบริเวณที่คุณมองไม่เห็น สำหรับกันชนหน้าของ Veloz ใหญ่จนปิดคลุมส่วนหน้าของรถเกือบทั้งหมด มุมของกันชนหน้ามีไฟตัดหมอก LED ไฟหน้า LED พร้อมด้วย Light Guiding ไฟเลี้ยวแบบ Sequential วัสดุตกแต่งบริเวณไฟตัดหมอกหน้า (เฉพาะรุ่น Premium คันที่รีวิว) วัสดุตกแต่งด้านข้างประตู (เฉพาะรุ่น Premium) วัสดุตกแต่งสปอยเลอร์หลัง (เฉพาะรุ่น Premium) ล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทน ขนาด 17 นิ้ว รุ่น Premium ช่องรับอากาศของกันชนและชุดกระจังหน้าช่วยระบายความร้อนในห้องเครื่องยนต์ ฝากระโปรงหน้ายกสันนูน จากมุมของไฟหน้ากับกระจังหน้า เพื่อใช้เป็นเส้นนำสายตาที่ออกแบบให้มีรูปทรงของไฟที่ทันสมัย กระจกมองข้างมีกล้องซ่อนอยู่ทั้งสองฝั่ง รวมถึงเลนส์ไฟเลี้ยวแบบ LED ในกรอบกระจกมองข้างของรุ่นสูงสุดที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเปลี่ยนช่องทางเมื่อเปิดใช้งานไฟเลี้ยว ในจุดนี้ถือว่าทำได้ดี
Veloz Premium รุ่นสูงสุด พร้อมชุดแต่ง X-Urban มองดูคล้ายกับรถเอ็มพีวีครอสโอเวอร์ที่ยกความสูงเพื่อการขับบนผิวทางที่ขรุขระ จุดประสงค์ก็คือการลุยน้ำท่วมและขับบนทางลูกรังได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ ระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องอยู่ที่ 205 มิลลิเมตร สูงพอที่จะลุยน้ำท่วมขังที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อมีฝนตกหนัก เสาหน้ามีองศาของความลาดเอียงที่เชื่อมโยงกับผืนหลังคาได้อย่างสวยงาม แนวเส้นด้านข้างจากขอบของไฟหน้าผ่านแก้มข้างและมือจับที่เปิดประตู จนถึงขอบของไฟท้าย ซุ้มล้อมีการดึงโป่งออกมาด้านข้าง ล้ออัลลอย ขอบ 17 นิ้ว ยาง Bridgestone Turanza T005 A ไซส์ 205/50R17 เน้นความนุ่มนวลและมีเสียงรบกวนไม่มาก ล้อขอบ 17 นิ้วยังรองรับการใช้งานได้อย่างครอบคลุมเกือบจะทุกสภาพถนน ล้อที่มีขนาดไม่ใหญ่มากจนเกินไป ไม่กินกำลังเครื่องยนต์และทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง แรคหลังคาสีเงินกับเสาอากาศทรงครีบฉลาม ฝาถังเชื้อเพลิงทรงกลมด้านซ้ายรองรับเชื้อเพลิง E20 ความจุถังเชื้อเพลิง 43 ลิตร น้ำมันเต็มถัง วิ่งได้ระยะทาง 400-450 กิโลเมตร เนื่องจากขนาดถังเชื้อเพลิงไม่ได้ใหญ่โตอะไร มิติตัวถังของ Toyota Veloz มีขนาดความยาว 4,475 มิลลิเมตร กว้าง 1,750 มิลลิเมตร สูง 1,700 มิลลิเมตร ความสูงนี่เองที่ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง สำหรับความยาวฐานล้ออยู่ที่ 2,750 มิลลิเมตร ความกว้างช่วงล้อ หน้า/หลัง 1,515 / 1,510 มิลลิเมตร ระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 205 มิลลิเมตร มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.0 เมตร ถือว่ากระชับใช้ได้ไม่กว้างเกินไปจนทำให้ขาดความคล่องเวลายูเทิร์น
ส่วนท้ายที่เหมาะกับการใช้งาน แม้จะไม่มีฝาท้ายไฟฟ้า แต่พื้นที่เก็บสัมภาระเมื่อยังไม่ได้พับเบาะแถวหลังถือว่าให้มาพอสมควรแก่การบรรจุกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้สองใบ หากไม่มีผู้โดยสารแถวหลังสุด เบาะแถวสาม เมื่อพับราบลงกับพื้น ห้องเก็บสัมภาระของ Veloz จะเพิ่มขึ้นอีกเพียบ จุดเด่นของบั้นท้ายอยู่ที่การออกแบบไฟท้าย LED กับขนาดของฝาท้ายที่ต้องเปิดด้วยมือโดยไม่มีระบบฝาท้ายไฟฟ้ามาให้ จุดเด่นของ Veloz ก็คือ พื้นที่เก็บสัมภาระเมื่อพับเบาะแถวที่สาม ไฟท้าย LED เชื่อมต่อกันทั้งสองฝั่งด้วยเส้นไฟท้ายเรียวเล็กและจะเรืองแสงในเวลากลางคืน ไฟเบรกดวงที่สาม หลอด LED อยู่ในกระจกฝาท้ายด้านบนบริเวณกึ่งกลางของกระจกบังลมบานฝาท้าย กระจกฝาท้ายมีขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มความโปร่งโล่ง รวมถึงที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง มุมของกันชนหลังทั้งสองข้างมีพลาสติกมัลติรีเฟกเตอร์ช่วยในเรื่องของการสะท้อนแสงเพื่อให้รถคันหลังมองเห็น ชายล่างของกันชนหลังตกแต่งด้วยพลาสติกสีเงิน
ขนาดห้องโดยสารและอุปกรณ์ของ Toyota Veloz ถือเป็นจุดขายที่ต้องเน้นความอเนกประสงค์ พื้นที่ภายใน มีระยะห่างระหว่างที่นั่งผู้โดยสารในแถวที่หนึ่งและแถวที่สองเทียบเท่ากับรถใน C-segment ในขณะที่เบาะแถวที่สองสามารถเลื่อนเดินหน้าได้ถึง 240 มิลลิเมตร ออกแบบการจัดวางที่นั่งแบบปรับพับได้อย่างยืดหยุ่น มือจับที่เปิดประตูขนาดกำลังดี หน้าปัดมาตรวัดความเร็วปรับการแสดงผลได้ 4 รูปแบบ เครื่องเสียงพร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง หน้าจอแบบสัมผัส 9 นิ้ว รองรับการปรับตั้งและการเชื่อมต่อต่างๆ มีที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless charger) ช่องเสียบ USB ให้มาถึง 4 จุด ระยะการปรับเบาะแถวที่ 2 ยาวถึง 240 มม. เปิดพื้นที่สำหรับผู้โดยสารของเบาะแถวหลัง เบาะแถวที่ 3 มีขนาดความกว้าง 700 มิลลิเมตร ปรับพับเบาะได้ถึง 7 รูปแบบ ช่องใส่ Tablet และไฟตกแต่งตอนกลางคืน Ambient light ระบบปรับอากาศอัตโนมัติที่เย็นจนหนาวแม้อากาศภายนอกจะพุ่งสูงถึง 41 องศา!
เบาะคนขับ ผู้โดยสารตอนหน้า เบาะแถวกลางและแถวที่สาม ทั้งหมด ปรับด้วยมือ เบาะหุ้มด้วยผ้าและหนังสังเคราะห์โทนสีขาว-ดำ สีทูโทนยังถูกใช้ในจุดต่างๆ เพื่อความสวยงาม แดชบอร์ดทรงทันสมัย แผงประตูตกแต่งด้วยไวนิล การวางตำแหน่งของจอภาพ ช่องใส่แก้วน้ำที่แดชบอร์ดคอนโซล ซุ้มเกียร์กั้นพื้นที่ระหว่างเบาะคู่หน้าโดยใช้ดีไซน์ที่เป็นสัดส่วนการใช้งานเฉพาะตำแหน่ง คันเกียร์หุ้มหนัง พร้อมฟังก์ชันการแปรผันแบบ 7 สปีดของชุดเกียร์อัตโนมัติ CVT เบรกมือไฟฟ้าและระบบ Auto Hold
null
null
null
null
อุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในรถยนต์ครอบครัวยุคใหม่ก็คือ จอภาพมอนิเตอร์กลางสั่งงานด้วยระบบสัมผัส Toyota Veloz รุ่นท็อป มาพร้อมจอภาพขนาด 9 นิ้ว เป็นจอมอนิเตอร์กลางที่มีความคมชัด ระบบอินโฟเทนเมนต์เชื่อมต่อโทรศัพท์ ทั้งผ่านสาย USB และเชื่อมต่อแบบไร้สาย หน้าจอรองรับ Apple CarPlay Android Auto มาพร้อมกล้องมองภาพรอบคัน แบบ 360 องศา เพิ่มมุมมองด้านความปลอดภัย เมื่อต้องเข้า-ออกในพื้นที่จอดคับแคบ วิทยุ AM/FM การปรับตั้งค่าต่างๆ ของรถ ผ่านจอภาพด้วยระบบสัมผัส มีฟังก์ชันระนาบองศาของรถขณะเคลื่อนที่ อุณหภูมิภายนอก อุณหภูมิน้ำในระบบระบายความร้อนและระดับของไฟในแบตเตอรี่
จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (MID) แบบจอสี TFT ขนาด 7 นิ้ว เป็นมาตรวัดดิจิทัลที่ทันสมัย อ่านค่าได้ง่าย ทั้งวัดรอบเครื่องยนต์และความเร็วที่แสดงผลเป็นตัวเลขโตเท่ากับหม้อแกง! มาตรวัดของ Toyota Veloz ปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้ 4 รูปแบบ มีทั้งแบบวัดรอบทรงกลมที่หมุนไป-มาซ้าย-ขวา คอยแจ้งเตือนระดับการทำงานของเครื่องยนต์ด้วยการวัดรอบเครื่องที่มีค่าแม่นยำใช้ได้ หน้าจอภาพยังมีจอแสดงข้อมูล MID multi function display ทั้งทริปมิเตอร์ ระดับเชื้อเพลิงในถัง คำนวณระยะทางต่อเชื้อเพลิงท่ีเหลืออยู่ ตำแหน่งของเกียร์ CVT รวมถึงไฟแจ้งเตือนสถานะการทำงานของระบบต่างๆ โดยเฉพาะระบบความปลอดภัย TSS
รูปแบบของการพับเบาะ แถวที่สองและสาม เป็นการออกแบบห้องโดยสารโดยเน้นไปที่ความอเนกประสงค์ในการใช้งานจริง เพื่ออำนวยความสะดวกทั้งการขนผู้โดยสารหรือสัมภาระขนาดใหญ่ เบาะปรับพับเบาะได้ 7 แบบ คือ
1. BIG ROOM พับแถว 2 และแถว 3
2. SMALL ROOM พับแถว 3
3. RELAX MODE พับแถว 1 เอนราบ
4. DAY BED พับแถว 2 เอนราบ
5. LONG STUFF พับแถว 3 และเบาะกลางแถว 2
6. FREE FORM พับแถว 3 และแถว 2 ด้านซ้ายหรือขวา
7. CABINET พับแถว 3 ด้านซ้ายหรือขวา
เครื่องยนต์ของ Toyota Veloz วางเครื่องเบนซิน 4 สูบแถวเรียงแบบตามขวาง ขับเคลื่อนล้อหน้า เครื่องยนต์ รหัส 2NR-VE 4 สูบ 4 วาล์วต่อสูบ DOHC ระบบวาล์วแปรผัน Dual VVT-i ความจุ 1,496 ซีซี. ความกว้างกระบอกสูบ 72.5 มิลลิเมตร ระยะชัก 90.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.5 : 1 กำลังสูงสุด 78 กิโลวัตต์ หรือ 106 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร (14.1 กิโลกรัม/เมตร) ที่ 4,200 รอบต่อนาที ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ติดตั้งหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI รองรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E20 ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อม Sequential Shift ผลักคันเกียร์มาทางขวาจะเข้าสู่โหมดแมนนวล ชิฟต์หรือเปลี่ยนเกียร์ขึ้น-ลง ด้วยการโยกคันเกียร์ในตำแหน่ง +/- อัตราทดเกียร์เดินหน้า 2.800 - 0.425 อัตราทดเกียร์ถอยหลัง 4.748 - 2.145 อัตราทดเฟืองท้าย 5.105 ระบบกันสะเทือนด้านหน้า แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบกันสะเทือนหลัง ทอร์ชันบีมและคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบเบรกหน้า-หลังของ Veloz เป็นดิสก์เบรกทั้งสี่ล้อ
การใช้งาน Toyota Veloz Premium X-Urban ในชีวิตประจำวัน จากการออกแบบให้เป็นยานพาหนะที่ทำตัวได้อย่างหลากหลายของครอบครัวที่มีสมาชิก 5 คน จุดเด่นก็คือ ความคล่องตัวในเมือง และวิ่งได้มั่นคงบนไฮเวย์ ไม่มีปัญหาเรื่องการทรงตัวในย่านความเร็วสูง การทรงตัวทางตรงและในโค้งดีกว่า Toyota Avanza เมื่อขับออกทางไกลและใช้ความเร็วในวันที่ต้องเรียบเร่ง ในย่าน 140-150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง Veloz ประกอบอินโดนีเซียก็ยังวิ่งนิ่งใช้ได้ อาจมีปัญหาลมปะทะด้านข้างบ้างในวันที่มีลมแรง ความเร็วเดินทาง 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเหมาะสมกับรถครอบครัวที่มีกำลังไม่มาก เน้นขับเรื่อยๆ เพื่อท่องเที่ยวทางไกลในวันหยุดกับสมาชิกในครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ขับในย่านความเร็วเดินทาง Veloz Premium ให้ความสบายและความมั่นใจได้ดี แต่การเร่งความเร็วเพื่อแซง ต้องมีการกะระยะเผื่อเหลือเผื่อขาดเพื่อความปลอดภัย เครื่อง 1.5 ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศกับเกียร์ CVT เน้นการขับใช้งานในเมืองเป็นหลัก มีขับออกทางไกลในวันหยุดเพื่อท่องเที่ยวกับครอบครัว การเก็บเสียงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
เมื่อตัวเลขความเร็วผ่าน 80 กิโลเมตรขึ้นไป เสียงลมและเสียงยางก็จะดังเข้ามาพอให้ได้ยิน Toyota ที่อินโดนีเซีย ไม่ได้เน้นเรื่องความเงียบของห้องโดยสารเท่ากับความสบายในการขับขี่ แต่สิ่งที่ทำออกมาได้ดีอีกตำแหน่งก็คือทัศนวิสัยมุมมองรอบคันที่โปร่งโล่งใช้ได้ อุณหภูมิภายนอกสูงถึง 39 องศาเซลเซียส แต่ระบบปรับอากาศที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมแม้อากาศภายนอกจะร้อนจัด เรื่องความเย็นของรถ Toyota คือจุดขายหลักเมื่อต้องใช้งานในเวลาที่สภาวะภูมิอากาศโลกเปลี่ยนแปลง ระบบแอร์ของพี่โตนั้นไว้ใจได้ในเรื่องสู้กับอากาศร้อน แอร์ของ Veloz ทำให้ห้องโดยสารเย็นฉ่ำอยู่ตลอดเวลา ท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงต่อเนื่องทั้งวัน ระบบแอร์ที่มีประสิทธิภาพทำให้อากาศในรถเย็นสบายท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงถึง 42 องศาในวันที่นำไปรีวิวทดสอบ
ช่วงล่างของ Veloz Premium มีการปรับเซตค่าในช่วงของการพัฒนาให้ออกมาในแบบนั่งสบาย โช้คสปริงขึงให้แชสซีหนึบแน่นใช้ได้ โช้คอัพและสปริง มีระยะยืด-ยุบที่สอดรับกับน้ำหนักตัว ยาง Bridgestone Turanza T005A ไซส์ 205/50 R17 ทำหน้าที่ได้ดีในการยึดเกาะกับโค้ง ยางและช่วงล่างรวมถึงชุดบังคับเลี้ยวตอบสนองต่อการขับเร็วพอใช้ได้ ตัวถังที่ค่อนข้างสูงเมื่อขับเข้าโค้งด้วยความเร็วปกติ ถือว่าเป็นรถบ้านไซส์โตที่ควบคุมได้ง่ายเมื่อเทียบกับรถคู่แข่ง การถ่ายเทน้ำหนักนั้นทำได้พอๆ กันกับ XL7 ของ Suzuki ระยะฟรีตรงกลางของพวงมาลัยไฟฟ้าเยอะไปนิด เมื่อเทียบกับพวงมาลัยกระชับและแม่นของ Toyota C-HR และ Corolla Cross รุ่นพี่ทั้งสองคันมีพวงมาลัยที่แม่นและคมกว่า แต่ Veloz Premium เน้นความสบาย ไม่กระชับฉับไวและคมเท่ากับรถรุ่นพี่ทั้งสองคัน หากเซตให้พวงมาลัยมาไวเกินไป ผู้โดยสารอาจบ่นว่านั่งไม่สบายเพราะอาการโคลงก็อาจมีความเป็นไปได้เมื่อขยับพวงมาลัยแค่นิดเดียวรถก็จะเบนไปตามทิศทางนั้นทันที
ขุมกำลัง 2NR-VE และเกียร์ CVT แปรผัน ตอบสนองดี ในย่านความเร็วสูง เสียงเครื่องดังเข้ามาอย่างชัดเจนเหมือนกับ Honda HR-V E-HEV เมื่อขับแบบลากรอบ เสียงเครื่องก็จะดังเข้ามาให้ได้ยินทันที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงของ Veloz Premium ทำได้ 11.8 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุด ซึ่งน้อยคนที่จะขับเอ็มพีวีไปจนถึงท็อปสปีด ทำได้ที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การทรงตัวเมื่อไปจนสุดคันเร่งก็ยังนิ่ง ถ้าไม่มีลมปะทะด้านข้างแรงๆ ถือว่ายังทรงตัวได้ดีอยู่ เกียร์ CVT แปรผันแบบ 7 สปีด มีประสิทธิภาพในการถ่ายเทแรงบิดที่นุ่มนวล กำลัง 106 แรงม้า กับแรงบิด 138 นิวตันเมตร ทำให้การไต่ระดับความเร็วต้องใช้ระยะเวลากันสักนิด น้ำหนัก 1.1 ตัน ไม่สร้างภารกรรมให้กับระบบขับเคลื่อนมากจนเกินไป นั่งกันสี่คนพร้อมสัมภาระกระเป๋า 4 ใบ Veloz Premium ก็สามารถไปได้อย่างคล่องตัว รอบสูงสุดพอลากเข้าใกล้ 6,000 รอบต่อนาทีเกียร์จะปรับอัตราทดให้ เพื่อไม่ให้กินเชื้อเพลิงมากจนเกินไป
เมื่อมีผู้โดยสารถึง 6 คน เบาะแถวกลางหรือแถวที่สองออกแบบให้ปรับเอนได้เล็กน้อย เพื่อความสบายขณะเดินทางไกล ส่วนเบาะแถวสาม ค่อนข้างคับแคบเหมาะกับเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ตัวโต เนื่องจาก พื้นที่วางขานั้นน้อยเกินไป หากเบาะแถวสองมีการปรับเอนเพื่อความสบายแผ่นหลัง พื้นที่วางเท้าของเบาะแถวสามก็จะยิ่งเหลือน้อยลงไปอีก ตำแหน่งของการนั่งโดยสาร แค่ 4-5 คนดูจะเหมาะสมและไม่สร้างความอึดอัดเมื่อต้องเดินทางไกล สำหรับระบบความปลอดภัย TSS เช่น ระบบรักษาช่องทางและช่วยดึงพวงมาลัยกลับเมื่อขับเข้าไปทับกับเส้นแบ่งช่องทางจราจรนั้นทำหน้าที่ได้ดี ระบบความปลอดภัยอื่นๆ เช่น ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor) อันนี้ดีเลยสำหรับคนที่ไม่ค่อยจะระวังเวลาเปลี่ยนช่องทาง รวมถึงระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) ที่เหมาะกับการถอยจอดในที่คับแคบ ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) ส่วนระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams) มีโอกาสได้ลองทดสอบบางช่วงของถนนไม่มีแสงไฟ ไฟอัตโนมัติของ Veloz Premium ทำงานเร็วใช้ได้และลดไฟสูงทันทีที่วิ่งเข้าไปใกล้กับท้ายรถคันหน้าหรือมีรถแล่นสวนทางมา
Toyota Veloz Premium ชุดแต่ง X-Urban 914,900 บาท เทียบกับ Mitsubishi Xpander HEV ราคา 912,000 และ Suzuki XL7 สี Mono tone ราคา 799,000 บาท เห็นได้ชัดว่ารถพี่โตแพงกว่า แต่ก็มีความน่าใช้งานอยู่ไม่น้อย ทั้งความทนทานตามสไตล์ของแบรนด์สามห่วง ศูนย์บริการที่ครอบคลุม และราคาขายต่อที่พอจะรับกันได้ สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มา มีบางอย่างใช้งานได้ดีอย่างระบบแจ้งเตือนต่างๆ ของระบบความปลอดภัย TSS จุดที่ยังทำได้ไม่ดีก็คือการเก็บเสียง แต่ก็ชดเชยด้วยความง่ายและสบายในการควบคุมไม่ว่าจะขับในเมืองหรือออกทางไกล พื้นที่ใช้สอยเยอะจุใจ ถ้าใช้รถคนเดียวก็สามารถขนสารพัดสิ่งที่อยากจะขนแต่ทำไม่ได้ในรถเก๋งเล็ก การที่มีระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 205 มิลลิเมตร ช่วยเอาตัวรอดเมื่อต้องลุยน้ำท่วมขังผิวจราจรที่มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำเมื่อฝนตกลงมาอย่างหนักแล้วระบายไม่ทัน ความสบายที่เกิดจากระบบรองรับ ทำให้ Veloz Premium เป็นรถที่นุ่มนวลและยึดเกาะถนนได้ดี อาจมีบางจังหวะที่ย้วยบ้าง ตามประสารถครอบครัว แต่ถ้าไม่ได้ขับเร็วจนเป็นสันดาน ใช้ความเร็วปกติทั่วไป ออกไปในแนวไหลไปเรื่อยๆ Toyota Veloz Premium นับเป็นรถครอบครัวที่มีความน่าใช้อยู่เหมือนกันเมื่อเทียบกับรถคู่แข่งในเวลานี้.
Toyota Veloz Premium 1.5 ลิตร AT ชุดแต่ง X-Urban ราคา 914,900 บาท
ข้อมูลทางเทคนิค Toyota Veloz Premium
ระบบเกียร์ อัตโนมัติ CVT พร้อม Sequential Shift
ขนาด
มิติภายนอก ยาว 4,475 มิลลิเมตร กว้าง 1,750 มิลลิเมตร สูง 1,700 มิลลิเมตร
ความยาวฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร
ความกว้างช่วงล้อ หน้า/หลัง 1,515 / 1,510 มิลลิเมตร
ระดับต่ำสุดจากพื้น 205 มิลลิเมตร
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.0 เมตร
ความจุถังน้ำมัน 43 ลิตร
เครื่องยนต์
รหัส 2NR-VE
แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี) 1,496
ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก (มม.) 72.5 x 90.6
อัตราส่วนกำลังอัด 11.5 : 1
กำลังสูงสุด EEC net 78 กิโลวัตต์ (106 PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด EEC net 138 นิวตัน-เมตร (14.1 กก.-ม) ที่ 4,200 รอบต่อนาที
ระบบจ่ายน้ำมัน หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI
รองรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E20
ระบบขับเคลื่อนและระบบรองรับ
ระบบขับเคลื่อน ขับเคลื่อนล้อหน้า
ระบบส่งกำลัง แบบอัตโนมัติ CVT พร้อม Sequential Shift
อัตราทดเกียร์เดินหน้า 2.800 - 0.425
อัตราทดเกียร์ถอยหลัง 4.748 - 2.145
อัตราทดเฟืองท้าย 5.105
ระบบกันสะเทือนหน้า แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบกันสะเทือนหลัง ทอร์ชันบีมและคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบเบรกหน้า ดิสก์
ระบบเบรกหลัง ดิสก์
ล้อ ล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทน 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 205/50 R17
ล้ออะไหล่ ล้ออัลลอย 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 205/50 R17
พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering)
อุปกรณ์ภายนอก
ไฟหน้า LED พร้อมด้วย LED Light Guiding และไฟเลี้ยวแบบ Sequential LED พร้อมด้วย LED Light Guiding และไฟเลี้ยวแบบ Sequential
ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-Me-Home และ Leaving Home Lamp
กระจังหน้าสีดำเงา
วัสดุตกแต่งไฟตัดหมอกโครเมียม
ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding
เสาอากาศ แบบครีบฉลาม
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว พร้อมไฟส่องสว่างบริเวณพื้น (Foot Lamp)
ที่ปัดน้ำฝนด้านหน้า แบบหน่วงเวลา พร้อมระบบแปรผันอัตโนมัติตามความเร็วรถ
ที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง
มือจับประตูด้านนอก สีเดียวกับตัวรถ
ราวหลังคา
สปอยเลอร์หลัง
อุปกรณ์ภายใน
สีภายใน สีทูโทน (ดำและเทา)
วัสดุเบาะนั่งคู่หน้า หนังสังเคราะห์และผ้า ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา
วัสดุเบาะนั่งแถวที่ 2 หนังสังเคราะห์และผ้า ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา
วัสดุเบาะนั่งแถวที่ 3 ผ้า
เบาะนั่งด้านคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้
เบาะนั่งแถวที่ 2 แยกพับ 60:40 พร้อมที่พักแขน แยกพับ 60:40 พร้อมที่พักแขน
เบาะนั่งแถวที่ 3 แยกพับ 50:50 แบบ Tilt Down แยกพับ 50:50 แบบ Tilt Down
กระเป๋าหลังเบาะคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า พร้อม Mini Pocket พร้อม Mini Pocket
วัสดุตกแต่งพวงมาลัย หุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา และแถบสีเงินเมทัลลิก
วัสดุตกแต่งแผงคอนโซลหน้า สีเงินเมทัลลิก
วัสดุตกแต่งบริเวณคอนโซลกลางและช่องปรับอากาศ ตกแต่งด้วยสีดำเปียโนแบล็กและโครเมียม
วัสดุตกแต่งแผงประตู หุ้มหนังสังเคราะห์ บริเวณที่วางแขนคู่หน้าและหลัง หุ้มหนังสังเคราะห์
มือเปิดประตูด้านใน โครเมียม
วัสดุตกแต่งหัวเกียร์ หุ้มหนัง ตกแต่งด้วยแถบสีเงินเมทัลลิก
วัสดุตกแต่งฐานเกียร์ สีเงินเมทัลลิก
กระจกหน้าต่างไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบด้านคนขับ
กระจกแต่งหน้า พร้อมไฟส่องสว่าง บริเวณแผงบังแดดคู่หน้า ผู้โดยสาร
ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า แบบ LED
ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร แบบ LED
ไฟส่องสว่างบริเวณห้องเก็บสัมภาระ
ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร บริเวณคอนโซลกลางและแผงประตูด้านหน้า
ราวมือจับ 3 ตำแหน่ง
กล่องเก็บของบริเวณคอนโซลกลางพร้อมฝาปิด หุ้มหนังสังเคราะห์ ตกแต่งด้วยด้ายสีเทาพร้อมที่วางแก้ว
กล่องเก็บของด้านท้าย
มาตรวัดและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
มาตรวัด แบบเรืองแสง
จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (MID) แบบจอสี TFT ขนาด 7 นิ้ว
ไฟแสดงการขับขี่แบบประหยัด
พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง สูง - ต่ำ และ ใกล้ - ไกล
ระบบ Smart Entry และ Push Start
ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ (Auto Brake Hold)
กุญแจรีโมต
สวิตช์เลือกโหมดการขับขี่ ECO / NORMAL / POWER ECO / NORMAL / POWER
เครื่องเสียงวิทยุ AM/FM พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว
ระบบเชื่อมต่อด้วย Bluetooth รองรับโทรศัพท์ และการเล่นเพลง พร้อมระบบโทรออกด้วยเสียง (ทำงานร่วมกับ Apple CarPlay และ Android Auto)
ระบบ Apple CarPlay และ Android Auto
จำนวนลำโพง 6
สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง โทรศัพท์ และจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนพวงมาลัย พร้อมปุ่มควบคุมกล้องมองรอบคัน (PVM)
ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB ด้านหน้า และด้านหลังบริเวณเบาะนั่งแถวที่ 2
ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า 12V บริเวณกล่องเก็บของและเบาะนั่งแถวที่ 3
อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย
ระบบปรับอากาศตอนหน้า แบบอัตโนมัติ แบบอัตโนมัติ
ระบบปรับอากาศตอนหลัง
กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน
ระบบส่องสว่างภายในห้องโดยสารอัตโนมัติ
กระจกมองข้างปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบพับเก็บอัตโนมัติ
ระบบความปลอดภัย
ไฟตัดหมอกหน้า
กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
กล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor)
สัญญาณเตือนกะระยะด้านท้าย
ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED
สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Brake Signal)
ระบบเซ็นทรัลล็อก พร้อมระบบ Speed Auto Lock พร้อมระบบ Speed Auto Lock
ระบบละลายฝ้ากระจกหลัง
ระบบเบรก ABS / EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA
ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor)
ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert)
ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams)
ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (Lane Departure Alert)
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว (Front Departure Alert)
ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งแบบผิดวิธี (Pedal Misoperation Control)
ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS คู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านด้านข้าง
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX)
เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง พร้อมระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง
เข็มขัดนิรภัยเบาะนั่งแถวที่ 3 ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง พร้อมระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง
ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
ระบบเตือนการโจรกรรม TDS (Theft Deterrent System)
เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง พร้อมระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง
เข็มขัดนิรภัยเบาะนั่งแถวที่ 3 ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง พร้อมระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง
ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
ระบบเตือนการโจรกรรม TDS (Theft Deterrent System)