ความนิยมในรถยนต์อเนกประสงค์ประเภทเอสยูวี (Sport Utility Vehicle) ทำให้บริษัทรถเกือบจะทุกแบรนด์ต้องหันมาผลิตสิ่งที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด แนวโน้มความนิยมรถยนต์เอสยูวีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ยอดจำหน่ายรถเอสยูวีรวมทุกทวีปทั่วโลกมีจำนวนสูงถึง 29.77 ล้านคัน คิดเป็น 36.4% ของยอดขายรถยนต์ทุกประเภท นอกจากนี้ตัวเลขการจดทะเบียนรถเอสยูวีในไทยก็ยังคงพุ่งสูงต่อเนื่อง สวนทางกับรถยนต์ไฟฟ้าที่เริ่มมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้นแต่ยังตามหลังยอดขายเอสยูวีอยู่ไกลลิบ

ในประเทศไทย ยานยนต์อเนกประสงค์ 5-7 ที่นั่งยังเติบโตสูงสุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สร้างกำไรมหาศาลให้กับบางบริษัทที่ผลิตรถยนต์เอสยูวีและเข้าถึงความต้องการของลูกค้าพร้อมบริการที่โดนใจอย่าง Toyota และ Isuzu ขณะที่ยอดขายรถอเนกประสงค์ในประเทศไทยช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จากปี ค.ศ. 2010–2019 เติบโตพุ่งทะยานถึง 130.70% ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าตลาดเอสยูวีนั้นยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับบริษัทผู้ผลิตยานยนต์ในปัจจุบัน

...

การเลือกซื้อรถอเนกประสงค์ได้รับความนิยมมานานกว่า 20 ปีแล้วจากความต้องที่มากกว่ารถยนต์ทั่วไป ตามข้อมูลการวิจัยทางการตลาดล่าสุด คนใช้รถยนต์ในประเทศไทยจำนวนไม่น้อย มองหารถอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ความต้องการ ด้วยเหตุผลหลายอย่างด้านการใช้งานที่เอสยูวีเหนือกว่ารถเก๋ง ตั้งแต่ความกว้างของห้องโดยสาร เครื่องยนต์ดีเซลมีแรงบิดดีและประหยัดน้ำมัน สัดส่วนความสูงที่ออกแบบมาเพื่อลุยทางวิบาก หรือลุยฝ่าน้ำท่วมขังบนถนน ความแข็งแกร่งทนทาน เป็นจุดเด่นที่มาพร้อมกับราคาที่ไม่ถูก

พื้นที่ใช้สอย ความอเนกประสงค์ในการใช้งานของเอสยูวี มีพื้นที่ภายในกว้าง ทำให้เกิดข้อได้เปรียบมากกว่ารถเก๋งหลายด้าน เช่น ความสะดวกสบายจากตัวรถที่มีขนาดใหญ่ ห้องโดยสารกว้างขวาง ความสูงที่มากกว่ารถเก๋งทำให้ทัศนวิสัยมุมมองรอบตัวรถดีกว่าและใช้ขับลุยทางออฟโรด หรือถนนที่กำลังซ่อมแซมซึ่งมีอยู่ทั่วทุกหัวระแหง รถเอสยูวีตอบสนองต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะขับไปทำงานในเมือง หรือพาครอบครัวออกไปเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุด ตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันได้อย่างรอบด้าน จุดเด่นของการใช้งานในประเทศไทยก็คือ ความสูงที่มากกว่ารถเก๋ง ทำให้สามารถลุยน้ำท่วมขังเอาตัวรอดได้ในวันที่ฝนตกหนัก รถเอสยูวียังมีพื้นที่เก็บสัมภาระมากกว่ารถเก๋ง ใส่สัมภาระพวกอุปกรณ์กีฬาหรือกระเป๋าใบโตสะดวกมากกว่า

...

รถอเนกประสงค์ออฟโรด หรือรถกระบะดัดแปลง PPV-SUV จุผู้โดยสารได้มากจากพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง รถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั่วไปหรือรถเก๋ง 4 ประตูไซส์เล็กรองรับผู้โดยสารได้จำนวน 4-5 คน กับพื้นที่เก็บสัมภาระไม่มากนัก กลายเป็นเรื่องที่ยากลำบากในการพาครอบครัวใหญ่เดินทางไปสถานที่ต่างๆ ด้วยกัน แต่หากเป็นรถอเนกประสงค์แบบเบาะที่นั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง นอกจากจะขนสมาชิกในบ้านได้ถึง 6 คนแล้ว หากเดินทางแค่ 3-4 คนก็ยังสามารถพับเบาะแถวหลังเก็บเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้กับสัมภาระได้อีกด้วย

...

ตัวรถที่มีขนาดใหญ่ และกว้างของรถเอสยูวี โดยเฉพาะรถยนต์อเนกประสงค์บางรุ่นที่บรรทุกผู้โดยสารได้มากกว่ารถซีดาน เบาะโดยสารแบบ 5-7 ที่นั่ง เหมาะสำหรับการนำคนในครอบครัวเดินทางไปพร้อมกัน รถเอสยูวียังออกแบบเบาะแถวที่สองและสามให้สามารถพับเบาะเพื่อบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่ กระเป๋า อุปกรณ์กีฬา จักรยาน เฟอร์นิเจอร์ หรือแม้กระทั่งใช้เป็นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเคลื่อนที่ระหว่างทริปก็ยังได้ แต่อย่าลืมว่าพื้นที่เบาะแถวสามนั้นเหมาะกับเด็กมากกว่าที่จะให้ผู้ใหญ่ตัวโตลงไปนั่ง และการนั่งเต็มทั้งสามแถว จะทำให้พื้นที่เก็บของลดลง 

...

ระยะความสูงจากพื้นและระบบกันสะเทือนของรถเอสยูวี รวมไปถึงระบบส่งกำลังที่ถูกออกแบบมารองรับสภาพทางที่สมบุกสมบันกว่า รองรับการขับในชีวิตประจำวันได้ดีกว่ารถเก๋งในทุกสภาพทาง ไม่ว่าจะถนนที่ไม่เรียบในตัวเมือง ถนนลูกรังในต่างจังหวัด หรือแม้แต่การขับข้ามประเทศ รถอเนกประสงค์ยกสูงขับเคลื่อนสี่ล้อสามารถขับแบบออฟโรดได้อย่างสมบุกสมบัน ต้องยอมรับว่า เจ้าของรถอเนกประสงค์ส่วนใหญ่ ไม่เคยเอารถออกไปขับรถไปในเส้นทางการขับขี่แบบออฟโรด อย่างไรก็ตาม ด้วยรถยกสูงที่มีพื้นฐานมาจากรถกระบะมีความแข็งแกร่งทนทาน ทำให้เอสยูวีบุกตะลุยไปได้เกือบจะทุกที่ ไม่เหมือนการใช้รถเก๋งเล็กที่มีระยะห่างระหว่างถนนกับใต้ท้องรถไม่มาก และการไม่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมยางออฟโรดสำหรับขับลุยทางวิบาก ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงถนนแบบออฟโรด รถอเนกประสงค์ PPV-SUV ที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อจึงมีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่แบบเขตร้อนของประเทศไทย โดยเฉพาะการขับใช้งานในฤดูฝน หรือการใช้งานในเส้นทางที่ทุรกันดาร 

ปัจจุบัน เครื่องยนต์ของรถเอสยูวี มีให้เลือกทั้งเบนซินและดีเซล ส่วนใหญ่รถยนต์อเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมและมีจำหน่ายในประเทศมักเป็นรถกระบะดัดแปลง PPV SUV ที่ใช้ขุมกำลังแบบเดียวกับรถปิกอัพภายในค่าย นั่นก็คือเครื่องยนต์ดีเซลที่มีให้เลือกตั้งแต่ 1.9 ลิตร ใน Isuzu MU-X ไปจนถึงเครื่อง 2.8 ลิตร ดีเซลเทอร์โบยุคใหม่ใน GR Fortuner Legender ซึ่งถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ ทั้งแรงม้าและแรงบิดที่มากเกินพอต่อการใช้งานปกติ เครื่องยนต์ดีเซลยุคใหม่มีขนาดเล็กลงแต่มีกำลังมากกว่าเครื่องรุ่นเก่า กินเชื้อเพลิงเท่าที่จำเป็นและปล่อยมลพิษน้อยกว่าเครื่องดีเซลในอดีต แถมยังมีความคงทนและซ่อมบำรุงได้ง่าย ประหยัดกว่าเอสยูวี Luxury ที่มีราคาแพงกว่ามาก 

รถอเนกประสงค์เครื่องยนต์ดีเซลนั้นจะมีอัตราสิ้นเปลืองที่ยอมรับได้ ส่วนใหญ่จะเน้นประสิทธิภาพของการประหยัดน้ำมัน ผู้ผลิตรถยนต์กำลังคิดค้นวิธีต่างๆ ที่จะทำให้รถอเนกประสงค์เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น เช่น การนำเอาหลักการด้านอากาศพลศาสตร์มาใช้ในการออกแบบและนำเทคโนโลยีต่างๆ มาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยเรื่องการประหยัดน้ำมัน ปรับขนาดของเครื่องยนต์ให้มีขนาดที่เล็กลงและเบาขึ้นแต่ยังมีแรงบิดหรือแรงฉุดลากเพียงพอต่อการใช้งาน มีการใช้วัสดุโครงสร้างชั้นสูงเพื่อช่วยลดน้ำหนักของรถให้เบาลง ทั้งหมดนี้สามารถช่วยเรื่องการประหยัดน้ำมันของรถยนต์ให้ดียิ่งขึ้น แต่ความประหยัดน้ำมันของรถเอสยูวีนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยในการขับใช้งาน เช่น น้ำหนักบรรทุกผู้โดยสารและสัมภาระและความเร็วในการขับขี่ไปจนถึงการต้านกระแสลม และการเปลี่ยนระดับของพื้นถนน รถอเนกประสงค์ PPV-SUV ส่วนใหญ่เติมเชื้อเพลิงหนึ่งถังจะวิ่งได้ไกลกว่า 600 กิโลเมตร ราคาเชื้อเพลิงดีเซลที่ต่ำกว่าเบนซิน รวมถึงความทนทานไม่จุกจิกกวนใจใช้กันยาวๆ ของเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอลเรลไดเรคอินเจคชั่น ทำให้รถเอสยูวีที่ใช้เครื่องดีเซลกลายเป็นทางเลือกที่เหนือกว่ารถเก๋งเครื่องเบนซิน

รถอเนกประสงค์ยุคใหม่ออกแบบได้สวยงามน่าใช้ โดยเฉพาะขาลุยที่ชอบรถยกสูงขับเคลื่อน 4 ล้อคันโต ถึงแม้ว่าบางคนจะซื้อรถอเนกประสงค์เอสยูวีเพราะต้องการรถที่มีขนาดใหญ่หรือไว้ขับขี่แบบออฟโรด แต่คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนที่ใช้งานในเมืองเป็นหลักมักจะซื้อรถอเนกประสงค์จากความนิยมในขณะนี้ จากเหตุผลนานัปการที่ทำให้การใช้งานเหนือกว่ารถเก๋งขนาดเล็ก แม้เอสยูวีที่เป็นรถกระบะดัดแปลงจะมีราคาสูงเฉียด 2 ล้านบาทก็ยังมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่ยอมกัดฟันซื้อเพื่อการใช้งานที่ครบมากกว่า จากยอดการขายรถอเนกประสงค์ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยคาดว่ารถเอสยูวีจะยังคงเติบโตต่อไปเรื่อยๆ

การเลือกใช้รถอเนกประสงค์ ยังเป็นการเลือกที่สมเหตุสมผลด้วยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวไปแล้วการเลือกรถอเนกประสงค์ยังเป็นการใช้ความรู้สึกในการตัดสินใจ เพราะสไตล์ของรถเป็นที่ชื่นชอบของคนส่วนใหญ่ ส่วนจะเลือกเอสยูวีรุ่นไหนยี่ห้อใดราคาเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและเงินในกระเป๋า

สิ่งที่คุณจะได้รับหลังการซื้อรถยนต์ Toyota ก็คือ ความแข็งแกร่งทนทาน รถ PPV ของพี่โต ถูกสร้างขึ้นเพื่อการใช้งานอย่างสมบุกสมบัน ท่ามกลางภูมิประเทศที่มีความหลากหลายของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดของยานยนต์ดัดแปลงแบบ PPV รถ Fortuner ได้รับความนิยมสูงสุดจากตัวเลขยอดขาย เป็นรถอเนกประสงค์ที่ครองตำแหน่งแชมป์ยอดขาย PPV ในประเทศไทยนานหลายปี แม้จะมีคู่แข่งอย่าง MU-X และ Everest ซึ่งมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ Isuzu MU-X สามารถขึ้นนำยอดขาย แต่ก็เพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น รถ PPV รุ่นยอดนิยมของ Toyota ที่เห็นวิ่งกันเกลื่อนถนน ไม่ได้เกิดขึ้นจากรูปทรงแค่เพียงอย่างเดียวที่ทำให้มันขายดี Fortuner ยังมีการขับที่ดี และมีบริการหลังการขายที่คอยเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมให้ยอดขายนำโด่ง การเปิดตัว Fortuner Legender รุ่นปรับโฉม เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2563 พร้อมกับปรับหน้าตาใหม่ให้ทันสมัยน่ามองมากยิ่งขึ้น จัดอุปกรณ์ในระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่ ทำให้ Legender ที่เป็นรถรุ่นหนึ่งในโมเดล Fortuner ที่ยังคงครองความเป็นเจ้าตลาด หลังจากนั้น พี่โดก็ยังกระตุ้นความอยากของคนที่ชอบการแต่งรถ ด้วยรถ Fortuner เวอร์ชันตกแต่งพิเศษ GR Sport เป็นรถที่ไม่ได้มาแค่สติกเกอร์หรือตราสัญลักษณ์ แต่ลงลึกไปถึงไดนามิกของการขับที่ถูกปรับให้ดีขึ้นกว่าเดิม 

รุ่นและราคา Toyota Fortuner 2023

Toyota Fortuner 2.8 GR Sport AT 4WD สีดำ Attitude Black Mica 1,879,000 บาท

Toyota Fortuner 2.8 GR Sport AT 4WD สีแดง Emotional Red หลังคาสีดำ Black Top 1,899,000 บาท

Toyota Fortuner สีขาวมุก White Pearl หลังคาดำ Black Top 1,899,000 บาท

มิติตัวถังของ Toyota Fortuner GR Sport เหมือนกับรุ่น Legender โดยมีขนาดความยาวของตัวถัง 4,795 มิลลิเมตร กว้าง 1,855 มิลลิเมตร สูง 1,835 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหน้า 1,540 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหลัง 1,555 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 193 มิลลิเมตร มิติภายใน ยาว 2,487 มิลลิเมตร กว้าง 1,478 มิลลิเมตร สูง 1,103 มิลลิเมตร ฝาท้ายไฟฟ้า ช่วยทำให้ทุกอย่างสะดวกขึ้นเมื่อขนสัมภาระ งานตกแต่งส่วนท้าย โดยเฉพาะตัวถังสีแดง มีความสวยงามลงตัว จากไฟท้ายทรงยาวหลอด LED สัญลักษณ์ GR Sport ที่มุมด้านขวาของฝาท้าย กันชนหลัง GR ที่มุมของกันชนทั้งสองข้างติดตั้งพลาสติกมัลติรีเฟคเตอร์ สำหรับตำแหน่งของไฟเบรกดวงที่สาม อยู่กึ่งกลางด้านบนของกระจกบังลมบานฝาท้าย ขอบของสปอยเลอร์หลังที่ติดอยู่บนหลังคามีสีเงา ตัดขอบด้วยสีแดง

Toyota Fortuner GR Sport รุ่น 2.8 4WD AT วางเครื่องยนต์ดีเซลแบบแถวเรียง 4 กระบอกสูบ รหัส 1GD FTV ปริมาตรความจุ 2.8 ลิตร หรือ 2,755 ซีซี กำลัง 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร มาในย่าน 1,600-2,400 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังใน Fortuner รุ่นท็อปสุดใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีดพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift หลังวางพวงมาลัย ส่วนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่วิศวกรของ Toyota เรียกว่า Sigma 4 ประกอบด้วยระบบช่วยขับเคลื่อนยามต้องลุยฝ่าสภาพเส้นทางแบบออฟโรด Sigma 4 ถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในขณะขับเคลื่อนทั้งบนทางเรียบและทางที่มีความทุรกันดาร องค์ประกอบของ Sigma 4 มีรูปแบบของการขับเคลื่อน 3 รูปแบบคือ H2 H4 L4 ผสมผสานการทดกำลังของเกียร์และเฟืองขับสี่ผ่านการควบคุมด้วย ECU ของชุดขับเคลื่อน

เข้ามาดูงานตกแต่งภายในของ Fortuner รุ่นท็อปสุด จุดเด่นของมันอยู่ตรงเบาะผู้โดยสารแถวที่สองของ Fortuner รุ่น 2.8 GR Sport สามารถปรับเอนเพื่อให้ความผ่อนคลายสำหรับการเดินทางไกล ตำแหน่งของเบาะแถวที่สองค่อนข้างสูงทำให้รู้สึกถึงความเตี้ยของหลังคา ความโปร่งโล่งจากการออกแบบทำให้ไม่สร้างความอึดอัดตลอดระยะเวลาที่นั่งโดยสารอยู่บนเบาะแถวที่สอง ตำแหน่งของช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังออกแบบใหม่โดยติดตั้งอยู่บนเพดานฝั่ง และสองตำแหน่งครอบคลุมและช่วยกระจายความเย็นได้อย่างรวดเร็ว มีตำแหน่งสวิตช์ควบคุมระบบปรับอากาศมาให้สำหรับผู้โดยสารตอนหลังเอาไว้ปรับความแรงของพัดลมและไอเย็นจากคอมเพรสเซอร์แอร์ ในจุดนี้มีความเหมาะสมกับการใช้งานในเมืองร้อนของประเทศไทย ไอเย็นที่กระจายตัวอย่างรวดเร็วช่วยทำให้สบายเนื้อสบายตัวขณะนั่งโดยสาร

การเพิ่มทางเลือกสำหรับคนที่กำลังอยากได้รถอเนกประสงค์ Toyota Motor Thailand นำ Fortuner พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งภายนอกและภายใน นั่นก็คือ Toyota Fortuner GR Sport แต่งโหดตามแนวทางของสำนักแต่ง Gazoo Racing สำหรับ Toyota Fortuner GR Sport รถรุ่นพิเศษที่มีการตกแต่งเพิ่มเติมจาก Fortuner Legender จากการออกแบบชุดแต่งที่ลงตัวของสำนัก Gazoo Racing ซึ่งเป็นทีมแข่งระดับอินเตอร์ของ Toyota เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ดีเซลเทอร์โบ 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ช่วงล่างที่ปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ในจุดนี้ ถือว่าทำออกมาได้อย่างโดนใจ ระบบรองรับที่มีการปรับเปลี่ยนโช้คอัพใหม่ เหมาะสมกับการขับขี่ทั้งในเมือง และออฟโรด โช้คอัพแบบโมโนทูบ (Monotube Shock Absorber) ผ่านการทดสอบ และทำการปรับตั้งมาเป็นพิเศษเพื่อประสิทธิภาพในด้านการทรงตัวและความนุ่มนวล Toyota แจ้งว่า การปรับปรุงระบบรองรับทำให้ Fortuner GR Sport นั่งได้สบายขึ้น ลดอาการโคลงตัว ซึ่งก็สามารถทำได้อย่างที่พูดจากการขับทดสอบทางไกล การปรับเปลี่ยนโช้คอัพใหม่ให้ทำหน้าที่ได้ดีขึ้น เป็นการเพิ่มเติมความผ่อนคลายระหว่างการเดินทาง โดยเฉพาะอาการโคลงตัวนั้นลดลงไปมาก Fortuner รุ่น Legender 2.8 GR Sport ยังมีการเพิ่มระบบความปลอดภัยใหม่ เช่น ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง และระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ พร้อมกล้องมองรอบคัน พร้อมชุดแต่ง GR Sport ที่แตกต่างไปจาก Modellista เป็นดีไซน์ที่มีความแปลกแยกไปจาก Fortuner รุ่นมาตรฐานทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

ตำแหน่งของเบาะแถวสองที่สามารถเลื่อนหรือพับเพื่อเปิดพื้นที่เข้าออกสำหรับเบาะแถวสาม มีการออกแบบให้ใช้งานได้สะดวก แต่เบาะแถวสามหลังสุดมีพื้นที่ไม่มาก ไม่แนะนำให้คนที่มีรูปร่างสูงเข้าไปนั่ง เหมาะสำหรับพับเก็บเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของ หรือให้เด็กตัวเล็กๆ นั่งมากกว่าจะให้ผู้ใหญ่นั่งโดยสารทางไกล พื้นที่วางขาของเบาะแถวสองมีพอให้ไม่รู้สึกอึดอัด ส่วนเบาะแถวสุดท้าย ถ้าไม่ค่อยได้ใช้งานก็พับเก็บได้แบบพับแอบติดแนวเสาท้าย การออกแบบจุดพับยังเป็นรองรถ PPV บางรุ่นที่สามารถพับเบาะราบไปกับพื้น เมื่อมีผู้โดยสารสามคน พื้นที่ใช้สอยที่พอเพียงไม่สร้างความรู้สึกคับแคบ แต่เบาะแถวหลังสุดหรือแถวที่สามนั้นมีพื้นที่วางเท้าไม่มากนัก ทำให้ไม่เกิดประโยชน์ในการใช้งานจริงเท่าที่ควร

การจัดวางอุปกรณ์บริเวณคอนโซลกลางอย่างเต็มรูปแบบเพิ่มความน่าใช้งาน ช่องแอร์ด้านบนกึ่งกลางคอนโซลหุ้มด้วยพลาสติกโครเมียมสีเงิน จอมอนิเตอร์แสดงผลกลางขนาด 9 นิ้ว รองรับการสั่งงานด้วยระบบสัมผัส พร้อมด้วยเครื่องเล่น DVD การเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบบลูทูธ กล้องมองภาพด้านหลัง ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย และระบบนำทางด้วยดาวเทียมพร้อมเมนูภาษาไทยในทุกฟังก์ชันเพื่อความง่ายในการใช้งาน ช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์ USB / iPOD / AUX ระบบ T-Connect ไม่ต้องกลัวรถหายอีกต่อไป สามารถเช็กตำแหน่งรถตามเวลาจริง (Real Time) ได้ทุกที่ ทุกเวลา รวมถึงระบบป้องกันการโจรกรรม (Theft Track) และระบบประสานความช่วยเหลือ SOS ของ Toyota ตลอดเวลา บริการแจ้งเตือนล่วงหน้าสำหรับเข้าศูนย์บริการ Telematic Care

Toyota Fortuner 2.8 GR Sport AT 4WD สีแดง Emotional Red หลังคาสีดำ Black Top รถทดสอบของ Toyota Motor Thailand ราคา 1,899,000 บาท แพงสุดในกลุ่ม PPV หรือรถกระบะที่ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นรถอเนกประสงค์ เทียบราคากับรถคู่แข่งเรียงลำดับยอดขายไล่มาให้ดูกันชัดๆ ดังนี้

Isuzu MU-X 4x4 3.0 DDi Ultimate 6A/T ราคา 1,639,000-1,651,000 บาท ถูกกว่า Fortuner GR Sport ถึง 248,000 บาท

Mitsubishi Pajero Sport 2.4 GT Premium 4WD 6AT ราคา 1,679,000 บาท ถูกกว่า GR Sport 220,000 บาท

Ford Everest Wildtrak 2.0 4x4 10AT ราคา 1,899,000 บาท เปิดราคาเสยกับพี่โตแบบขบเหลี่ยมกันเลยทีเดียว 

Nissan Terra 2.3 Sport 4WD 7AT ราคา 1,555,000 บาท จัดเต็มอุปกรณ์และการขับขี่ที่เอาใจครอบครัวขนาดใหญ่ มีค่าตัวถูกที่สุดในกลุ่ม PPV รุ่นท็อปสุด ถูกกว่า Fortuner GR Sport ถึง 344,000 บาท.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-5253692475053/