โตโยต้า ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ที่ 38.5% ในปี 68 ด้วยยอดขาย 230,000 คัน ขณะที่รถไฮบริดโตโยต้า หรือ HEV ยังคงยอดขายด้วยอันดับหนึ่ง ล่าสุดพร้อมสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงตลอดอายุการใช้งานด้วย TOYOTA TRUSTED SERVICES
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด หรือ Toyota กล่าวว่า ในปี 2568 นี้ เราตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 230,000 คัน เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดที่ประมาณ 38.5% เท่ากับปี 67 ที่ผ่านมา โดยเราคาดการณ์ว่าปี 68 นี้ยอดขายรถยนต์รวมทั้งประเทศจะอยู่ที่ 600,000 คัน
ทั้งนี้ ยอดขายยังคงไม่นิ่ง เนื่องจากมาตรการภาครัฐและสภาพความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แต่หากมองจากยอดขายเดือน ม.ค. และ ก.พ. 68 ที่ผ่านมา มาร์เก็ตแชร์ของโตโยต้าอยู่ที่ 37% ซึ่งหากมองภาพรวมทั้งปีก็คาดว่าจะยังรักษามาร์เก็ตแชร์ของทั้งปีได้ที่ 38.5%
อย่างไรก็ตาม รถยนต์ไฮบริดของโตโยต้า หรือ HEV ของเราได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าด้วยยอดขายเป็นอันดับที่ 1 มาตลอด เพราะเราโดดเด่นในด้านความน่าเชื่อถือ ซึ่งก็พิสูจน์มาเป็นระยะเวลามากกว่า 10 ปีแล้ว นอกจากนี้ ยังมีความพร้อมด้านงานบริการ ทั้งเซอร์วิสและช่างเทคนิคที่พร้อมให้แก้ปัญหาให้กับลูกค้าเป็นอย่างดี
...
"หากมองในมุมการใช้งานของลูกค้า เรามั่นใจว่ารถของโตโยต้าจะยังเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในใจลูกค้า เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่มองว่าไม่ใช่แค่การซื้อรถแล้วจบเลย แต่นั่นหมายถึงการดูแลลูกค้าให้ครอบคลุมมากกว่าการขาย โดยเฉพาะการดูแลรักษารถยนต์ตลอดอายุการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเคลมอะไหล่หรือการซ่อมบำรุง เพื่อสร้างความสบายใจให้กับลูกค้าโตโยต้า"
นายศุภกร กล่าวอีกว่า สำหรับทิศทางราคารถยนต์ในตลาดนั้น เรามองว่าก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของแต่ละแบรนด์ ซึ่งโตโยต้าไม่ได้มองแค่การขายรถใหม่แล้วจบเลย แต่เรามองถึงภาพรวมการใช้งานของลูกค้าทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นลูกค้าเก่าหรือลูกค้าใหม่
"แม้ว่าเราจะเคยพูดว่าเราไม่ร่วมเล่นสงครามราคา แต่ไม่ได้หมายความว่าโตโยต้าไม่ต้องการขายของถูกนะ เพียงแต่เราจะไม่ทำการลดราคาอย่างรุนแรงเพื่อกระตุ้นการขาย ทุกวันนี้เราพยายามบริหารจัดการต้นทุนให้ดีที่สุด เพื่อเสนอความคุ้มค่าให้กับลูกค้าของเรา ซึ่งรวมถึงราคาขายต่อของตัวรถด้วย และเราพยายามสร้างประสบการณ์ที่ดีตลอดการใช้งานของลูกค้าโตโยต้า"
ส่วนการแข่งขันของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ หรือ BEV นั้นเราเห็นได้ว่ายอดขาย BEV ค่อนข้างคงที่ หลายค่ายจึงมาจับตลาด HEV และ PHEV ซึ่งก็เป็นกลยุทธ์ของแบรนด์ต่างๆ เช่นเดียวกับโตโยต้า เมื่อมองเห็นศักยภาพในการทำตลาดในเซกเมนต์ใด เราก็จะเข้าไปร่วมแนะนำผลิตภัณฑ์ในกลุ่มตลาดนั้นๆ ถือว่าเป็นเรื่องปกติ และหากรถนั้นๆ เป็นการผลิตภายในประเทศ เราก็ยินดี เพราะเรามองว่าเป็นการแข่งขันที่ดีช่วยให้ผู้บริโภคก็ได้ของที่ดี โตโยต้าก็จะได้พัฒนาตนเองขึ้นไปอีก
...
ดูแลลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรกด้วย TOYOTA TRUSTED SERVICES
ทั้งนี้ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้เดินหน้าสู่การเป็นองค์กรแห่งการขับเคลื่อน Mobility Company ผ่านการดูแลลูกค้าอย่างครบวงจร นอกจากการผลิตยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่าหรือ Ever-Better Cars เพื่อสร้างรถที่มีคุณภาพ ทนทาน เชื่อถือได้ โตโยต้ายังมีความพร้อมทางด้าน บริการที่ครบวงจร เพื่อให้ผู้ใช้รถเกิดความอุ่นใจ Peace of mind หรือความสบายใจสูงสุดตลอดการใช้รถของโตโยต้ากับ Toyota Trusted Services
สำหรับ Toyota Trusted Services คือประสบการณ์แห่งการบริการในการสร้างความเชื่อมั่นและความอุ่นใจให้แก่ลูกค้า นับตั้งแต่ก้าวแรกที่เป็นลูกค้าโตโยต้าไปตลอดการใช้งาน โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. Physical Touchpoint : การบริการหลังการขายที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเพื่อให้ลูกค้าใช้รถได้อย่างมั่นใจในทุกเส้นทาง
- ศูนย์บริการมาตรฐานกว่า 450 แห่งทั่วประเทศ ที่พร้อมดูแลรถยนต์ด้วยบริการคุณภาพในทุกด้านแบบ One Stop Service ด้วยศูนย์บริการฯ กว่า 450 แห่ง สำหรับงานเช็กระยะ ซ่อมทั่วไป เปลี่ยนยาง แบตเตอรี่ และอะไหล่อื่นๆ เพื่อให้รถยนต์มีความปลอดภัยตลอดทุกการขับเคลื่อน ด้วยการรับประกันงานซ่อม 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
...
นอกจากนี้ โตโยต้ายังมีศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสี กว่า 250 แห่ง ดูแลรถของคุณด้วยคุณภาพที่มั่นใจได้ ด้วยมาตรฐานการซ่อมที่แม่นยำ เครื่องมือ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้สีและงานซ่อมตรงรุ่นตามมาตรฐาน พร้อมรับประกันคุณภาพงานซ่อม 1 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง
– ทีมช่างผู้ชำนาญที่ผ่านการอบรมและรับรองจากโตโยต้าทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ในหลักสูตรมาตรฐานญี่ปุ่น ได้รับการฝึกให้ใช้เครื่องมือวิเคราะห์และซ่อมบำรุงที่ทันสมัยที่สุด ทีมช่างใส่ใจในทุกรายละเอียด ทุกขั้นตอนการซ่อม ตรวจเช็ก และส่งมอบรถที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพโดยหัวหน้าช่าง เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุด เมื่อนำรถกลับไปใช้งาน
– ความพร้อมด้านอะไหล่ในราคาที่เหมาะสม และไม่ต้องรอนาน ซึ่งโตโยต้าพร้อมให้บริการด้วยอะไหล่แท้ (Toyota Genuine Parts) ผ่านการทดสอบความทนทานและความปลอดภัย ทุกชิ้นออกแบบให้ตรงรุ่น ติดตั้งเข้ากับรถได้อย่างสมบูรณ์แบบ มั่นใจได้ในคุณภาพ ช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว พร้อมรับประกันคุณภาพทุกชิ้นส่วนหลังการซ่อม
นอกจากนี้ โตโยต้ายังมีศูนย์บริการทางเลือก FIX FIT ศูนย์บริการซ่อมรถยนต์ทางเลือกใหม่ ให้บริการทุกยี่ห้อ ภายใต้การควบคุมมาตรฐานและคุณภาพโดย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้านอกระยะเวลารับประกัน ที่ต้องการความสะดวก คุ้มค่า และคุณภาพที่เชื่อถือได้ พร้อมอะไหล่คุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำที่หลากหลาย และการรับประกันงานซ่อม 6 เดือน
...
นอกจากนี้ โตโยต้ายังมี T-OPT อะไหล่ทางเลือก คุณภาพมาตรฐานระดับ OEM ที่ได้รับการสนับสนุนจากโตโยต้า และพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบและผลิตอะไหล่รถยนต์ที่หลากหลาย คุ้มค่าด้านราคา ให้บริการได้มาตรฐาน พร้อมการรับประกันคุณภาพอะไหล่เป็นเวลา 6 เดือน หรือ 10,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน
2. Digital Touchpoint เปิดประสบการณ์ใหม่ในการดูแลลูกค้าผ่านแพลตฟอร์ม T-Connect สร้างความอุ่นใจตั้งแต่ก่อนการซื้อและดูแลไปตลอดการใช้งาน โดยมีรายละเอียดดังนี้
- บริการ T-Connect สำหรับการขาย ไม่ว่าจะเป็นบริการสินเชื่อ Connected Auto Loan (CAL) ช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ รวมถึงผลิตภัณฑ์ประกันภัย Toyota Care PHYD - Pay How You Drive ขับดีลดให้ เพื่อให้เกิดการขับขี่อย่างปลอดภัยในท้องถนน ซึ่งมีการวิเคราะห์ข้อมูล ระยะทางการใช้งาน และพฤติกรรมการขับขี่ของลูกค้า นำมาคำนวณคะแนนการขับขี่ พร้อมข้อแนะนำเพื่อปรับปรุงในการขับขี่ เพื่อได้รับส่วนลดพิเศษสูงสุด 40% สำหรับการต่ออายุประกันภัยในปีถัดไป (ส่วนลดประวัติดี 20% และเพิ่มส่วนลดจากพฤติกรรมการขับขี่ 25%)
- บริการ T-Connect หลังการขาย ไม่ว่าจะเป็นบริการ Connect You บริการแจ้งสิทธิพิเศษที่คัดสรรมาสำหรับลูกค้าโตโยต้า โดยแบ่งหมวดหมู่เป็นเฉพาะคุณ สิทธิพิเศษเฉพาะสำหรับลูกค้า เช่น วันเกิด รวมถึงกิจกรรมและข่าว เป็นการแจ้งสิทธิพิเศษ และร่วมสนุกตามวันสำคัญในปีปฏิทินผ่านแอป และบทความต่างๆ ที่เป็นสาระความรู้ที่จำเป็นต่อการใช้รถของลูกค้า
นอกจากนี้ยังมีโปรแกรม Toyota ALIVE-X ทุกค่าใช้จ่ายที่ศูนย์บริการโตโยต้า สามารถสะสม/แลกคะแนน The1 เป็นส่วนลดที่ศูนย์บริการโตโยต้า และร้านค้าในเครือเซ็นทรัลกว่า 30,000 ร้านทั่วประเทศ โดยทุกการใช้จ่าย 25 บาท จะได้รับ 1 คะแนน The1 และสิทธิประโยชน์อีกมากมายในแอปพลิเคชัน
รวมถึง TCFR Plus+ เข้าศูนย์ตามนัด พลัสระดับความคุ้ม บริการหลังการขายใหม่ ที่จะสร้างความมั่นใจตลอดระยะเวลาการเป็นเจ้าของรถโตโยต้า เริ่มต้นที่ระดับบรอนซ์ (Bronze), ปรับเป็นระดับซิลเวอร์ (Silver) เมื่อเช็กต่อเนื่อง 5 ครั้ง, ระดับโกลด์ (Gold) เมื่อเช็กต่อเนื่อง 7 ครั้ง, และระดับไดมอนด์ (Diamond) เมื่อเช็กต่อเนื่อง 9 ครั้ง รวมถึงรับสิทธิ์ขยายระยะรับประกันคุณภาพรถยนต์สูงสุด 8 ปี พร้อมสิทธิประโยชน์ตามการเช็กระยะต่อเนื่องอีกด้วย
- ระบบ Find My Car ที่สามารถระบุพิกัดรถได้ บริการติดตามรถหาย TheftTrack ที่ช่วยในการประสานงานกับตำรวจ ฟังก์ชันแจ้งเตือนเมื่อมีคนนำรถออกนอกเขตที่กำหนดไว้ หรือ Geo-fencing รวมถึงบริการ SOS ที่มีเจ้าหน้าที่ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
3. บริการทางเลือกอื่น ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานรูปแบบใหม่ สำหรับลูกค้าโตโยต้า ให้ครอบคลุมด้านงานบริการอย่างครบวงจร
โดยเฉพาะ TOYOTA SURE สู่บริการรถใช้แล้วคุณภาพดี และให้ลูกค้าเกิดความสบายใจตลอดการใช้รถ โตโยต้ายังมีบริการทางเลือกสำหรับการขายต่อรถยนต์ในราคาสมเหตุสมผล
ทั้งนี้จะให้บริการแบบ One Stop Service ในด้านการซื้อ-ขาย Trade-in รถมือสอง ที่มีมาตรฐานการประเมินสภาพรถ TVI โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ (inspector) และควบคุมมาตรฐานการดำเนินการภายใต้ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมตอกย้ำความเชื่อมั่นเรื่องราคาขายต่อ และมูลค่ารถยนต์มือสอง ผ่านบริการประเมินราคารถด้วยมาตรฐานราคากลางฟรี ซึ่งสามารถปรึกษาพนักงานขายได้ ภายในบูธของโตโยต้า
สำหรับจุดเด่นของรถ Sure Certified by TOYOTA รับประกันสูงสุด 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร อุ่นใจบริการหลังการขายได้ที่ศูนย์บริการโตโยต้าทั่วประเทศกว่า 450 แห่ง รับส่วนลดค่าอะไหล่เช็กระยะ หรืออะไหล่กลุ่ม Eco Pack 25% พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม.อีกด้วย