เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม Toyota Hilux Travo ถูกบันทึกภาพในประเทศไทยในขณะที่วิศวกรและทีมทดสอบกำลังขับทดสอบในขั้นตอนสุดท้ายก่อนการเปิดตัวและเข้าสู่สายการผลิต Toyota Hilux รุ่นใหม่ประจำปี 2025 เป็นที่ทราบกันดีว่าชื่อรุ่น REVO จะถูกปรับเปลี่ยนเป็น Travo พร้อมโครงสร้างและสไตล์ของรถทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงการตกแต่งภายในที่ใช้การออกแบบใหม่ทั้งหมด Hilux 2025 ถูกบันทึกภาพเอาไว้ได้ขณะทดสอบ โดยตัวรถมีรูปลักษณ์ภายนอกใหม่หมดทั้งคัน ในขณะที่ยังคงรักษาองค์ประกอบของโครงสร้างหลักจากการออกแบบเดิมเอาไว้ เนื่องจากของเดิมมีความแข็งแกร่งทนทานอยู่แล้ว

เมื่อเร็วๆ นี้ Toyota ยื่นขอจดเครื่องหมายการค้าด้วยชื่อใหม่ Hilux Travo' ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางสำคัญในการพัฒนาและการผลิตเพื่อขายในประเทศและส่งออกไปยังบางภูมิภาคทั่วโลก ภาพสปายช็อตดังกล่าวบ่งชี้ว่า Hilux Travo ใหม่หมดตั้งแต่ด้านหน้าไปจนถึงส่วนท้าย รูปลักษณ์ด้านหน้าดูคล้ายรถกระบะอเมริกัน ไฟหน้า LED แบบใหม่ กระจังหน้าใหม่ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เล็กลงและคล้ายกับกระจังของรถยนต์ไฟฟ้าจีนบางแบรนด์ ด้านท้ายมีการออกแบบใหม่ของตัวกระบะท้ายเพื่อปรับปรุงการใช้งานให้ดีขึ้น เปลี่ยนไฟท้ายและซุ้มล้อใหม่ พร้อม ล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่
...




คาดว่า Toyota New Hilux Travo รุ่นท็อป จะใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแถวเรียง 4 สูบ ความจุ 2.8 ลิตร กำลัง 225 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร มีการปรับปรุงเพื่อลดการปล่อยมลพิษของเครื่องยนต์ดีเซลสมรรถนะสูง
เครื่องยนต์ดีเซลความจุ 2.8 ลิตร เทอร์โบ มีการลงมือลงแรงในหลายจุด เพื่อทำให้เครื่องยนต์มีแรงม้าและแรงบิดเพิ่มขึ้น ตอบสนองต่อการใช้งานดีขึ้น เป็นอีกจุดที่ปรับแต่งแล้วมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เครื่องยนต์ดีเซลความจุ 2.8 ลิตร เทอร์โบ มีการปรับจูนกล่องควบคุมใหม่ เพื่อทำให้เครื่องยนต์มีแรงม้าและแรงบิดเพิ่มขึ้น ตอบสนองต่อการใช้งานดีขึ้น เป็นอีกจุดที่ปรับแต่งแล้วมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเห็นๆ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 1GD FTV (High) แบบแถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว DOHCVN Turbo พร้อมชุดลดอุณหภูมิไอดีอินเตอร์คูลเลอร์ ปริมาตรความจุ 2,755 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ 92.0 มิลลิเมตร ช่วงชัก 103.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.6:1 กำลังสูงสุด 224 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที เป็นแรงบิดรอบต่ำที่ทำให้การเคลื่อนตัวของกระบะคันโตในเมืองมีความคล่องแคล่วว่องไวกว่าเดิม เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 เทอร์โบ ติดตั้งระบบ Stop & Start ระบบจ่ายเชื้อเพลิงคอมมอลเรลไดเรคอินเจคชันระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ 6 สปีด พร้อม Paddle Shift ระบบอัดอากาศ ใช้เทอร์โบแบบบอลแบร์ริ่ง ชุดบาลานซ์ชาร์ปลดแรงสั่นสะเทือนจากการทำงานของเครื่องยนต์ การปรับจูนกล่องควบคุมเครื่องยนต์ใหม่หมดทำให้เครื่อง 1GD FTV ที่ถูกปรับแต่งมีแรงม้าแรงบิดเพิ่มขึ้นจากเดิม
...
ความแตกต่างในด้านแรงม้าและแรงบิดของเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 กระบอกสูบ VN Turbo พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด 6AT with Sequential Shift and Paddle Shift มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในรอบหลายปีที่ผ่านมา แรกเริ่ม กำลังสูงสุดอัปจาก 130 กิโลวัตต์ หรือ 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที เป็น 150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า และล่าสุด จากการเขี่ยกล่อง ECU แรงม้ามาเพิ่มอีก 20 ตัว เป็น 164 กิโลวัตต์ หรือ 224 แรงม้า ส่วนแรงบิดของเครื่อง 2.8 ลิตร ซึ่งเคยทำได้ 450 นิวตันเมตร ก็ถูกปรับจูนให้แรงฉุดลากพุ่งเป็น 500 นิวตันเมตร หลังจากนั้น ตัวเลขดังกล่าว ดูจะไม่สาแก่ใจขาแรง วิศวกรของ Toyota จึงล้วงลึกเข้าไปในกล่องควบคุมเพื่อจูนอัพแรงบิดเพิ่ม ทำให้มีประสิทธิภาพด้านแรงฉุดลากที่มากกว่าเดิมอีก 50 นิวตันเมตร เป็น 550 นิวตันเมตร ขับสนุกและมีกำลังมากพอที่จะบรรทุกทั้งคนและสัมภาระแบบเต็มคัน ในการใช้งานสำหรับการเดินทางไกลได้ดี โดยเฉพาะเส้นทางภูเขาสูงชัน.