ยางรถยนต์กี่ปีเปลี่ยน? อายุการใช้งานยางรถยนต์มีตัวแปรที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับลักษณะของการใช้งาน สภาพเส้นทาง สภาพอากาศและอุณหภูมิ น้ำหนักบรรทุกและแรงดันลมยาง ล้วนแล้วแต่เป็นตัวแปรที่คอยบั่นทอนอายุของยางให้หดสั้นลง ยางติดรถยนต์ เมื่อผ่านการใช้งานไปได้สักระยะหนึ่ง ยางจะเริ่มต้นขั้นตอนของการเสื่อมสภาพไปเรื่อยๆ ตามวันเวลาและระยะทางของการขับขี่ใช้งาน ยิ่งนานวันเข้ายางก็จะเสื่อมไปเรื่อยจนหมดอายุการใช้งาน ต้องเปลี่ยนยางใหม่ ปัจจุบัน อายุการใช้งานของยางเฉลี่ยอยู่ที่ 30,000-40,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 2-3 ปี เมื่อขับใช้งานตามปกติมีวิ่งใกล้ๆ สลับกับการออกทางไกล มีขับบนผิวทางที่ขรุขระ ยางจะเริ่มต้นการสึกหรอ สังเกตจากร่องดอกยางจากที่เคยลึกก็เริ่มตื้น ไหล่ยางมีร่องรอยของการสึกอย่างชัดเจนเมื่อขับบนเส้นทางที่มีโค้งคดเคี้ยว หากไม่ใช้รถบ่อยส่วนใหญ่หนักไปทางจอดแช่อยู่กับบ้านไม่ค่อยได้ขับขยับออกทางไกล ยางที่ครบอายุบางครั้งยังมีดอกลึกราวกับยางใหม่ แต่มีเนื้อยางแข็งกระด้าง

ยางใหม่มีอายุใช้งานกี่ปี? เปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่ถึงจะดี?

จะทราบได้อย่างไรว่ายางที่ติดรถหมดอายุการใช้งาน

...

ยางที่ใช้งานวิ่งบนทางคอนกรีตหรือผิวถนนที่ไม่เรียบ ขรุขระ บ่อยครั้งด้วยความเร็วสูง ดอกยางจะสึกมากกว่าการขับบนถนนลาดยางด้วยความเร็วต่ำ สภาพอากาศก็มีผลกับอายุการใช้งานของยางติดรถ ยิ่งอากาศร้อนจัดในช่วงนี้ ทำให้ยางมีอุณหภูมิสูงและสึกหรอมากกว่าการใช้งานในอุณหภูมิที่เย็นกว่า สำหรับยางใช้งานในเขตร้อนชื้น จะมีการออกแบบส่วนผสมในเนื้อยางให้มีความทนทานมากกว่ายางในเขตหนาว ปัจจุบัน นวัตกรรมด้านวัสดุศาสตร์ ส่วนผสมในเนื้อยาง ที่ใช้ในการผลิตยางนั้นก้าวหน้าไปไกลมาก ส่วนผสมในเนื้อยางรุ่นใหม่สามารถรับมือกับสภาพอากาศทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะร้อนเหมือนในทะเลทราย อุณหภูมิผิวถนนทะลุ 55 องศา ยางยุคใหม่ก็สามารถรับมือได้ในทุกสภาพอากาศ จนกว่าจะหมดอายุการใช้ ขอให้มีแรงดันลมยางอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด รวมถึงไม่บรรทุกหนักมากจนเกินไป หรือใช้ความเร็วต่อเนื่อง ใช้เบรกหนักๆ ไปตลอดทาง 

ยางใหม่มีอายุใช้งานกี่ปี? เปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่ถึงจะดี?
ยางใหม่มีอายุใช้งานกี่ปี? เปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่ถึงจะดี?
ยางใหม่มีอายุใช้งานกี่ปี? เปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่ถึงจะดี?
ยางใหม่มีอายุใช้งานกี่ปี? เปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่ถึงจะดี?
ยางใหม่มีอายุใช้งานกี่ปี? เปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่ถึงจะดี?

...

สภาพเส้นทาง เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้อายุการใช้งานของยางหดสั้นลง เมื่อบวกกับการขับที่ผิดวิธี ก็ยิ่งบั่นทอนทำให้ยางสึกหรอเร็วขึ้น ผิวทางที่ขรุขระ ทางที่เต็มไปด้วยโค้งวกไปวนมา ทางแบบภูเขาสูงชันที่มีทั้งเนินขึ้นลงกับทางโค้งวกอ้อมหุบเขา ทำให้คนขับต้องเร่งความเร็ว หักเลี้ยวและเบรกอยู่ตลอดเวลา เส้นทางแบบนี้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้อายุการใช้งานของยางหดสั้นลง โดยเฉพาะการขับเร็วในเส้นทางดังกล่าว ยางจะหมดดอกเร็วกว่าขับบนทางราบ ถนนที่โรยด้วยกรวดหยาบ ถนนลูกรัง ถนนที่เทด้วยคอนกรีต ถนนที่ชำรุดเสียหายหรืออยู่ในระหว่างการซ่อมบำรุงก็สามารถทำให้ยางในรถของคุณไปเร็วขึ้นกว่าปกติ

ยางใหม่มีอายุใช้งานกี่ปี? เปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่ถึงจะดี?

การขับขี่ด้วยความเร็วสูงติดต่อกันยาวนาน เมื่อเจอกับทางโล่งๆ แล้วรถที่คุณขับก็เป็นรถสมรรถนะสูง คงไม่มีใครซื้อรถราคาหลายล้านมาคลาน เมื่อขับเร็วติดต่อกันนานๆ จะทำให้อุณหภูมิยางสูงขึ้น การออกตัวแรง กระชากออกไปด้วยโหมดสูงสุด ทำให้ยางคุณพังเร็ว การบรรทุกหนักบ่อยครั้งจนน้ำหนักเพิ่มขึ้นเกินกว่าที่กำหนด เมื่อวิ่งด้วยความเร็ว ภาระการรับน้ำหนักทั้งหมดจะตกอยู่กับยาง ทำให้ยางสึกหรอเร็ว ยิ่งบรรทุกหนักแล้วไปเจอทางเขาทางโค้ง แล้วยิ่งขับเร็ว ยางก็เสื่อมสภาพเร็วเป็นเงาตามตัว

...

ยางใหม่มีอายุใช้งานกี่ปี? เปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่ถึงจะดี?
ยางใหม่มีอายุใช้งานกี่ปี? เปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่ถึงจะดี?

ลมยางมีความสำคัญกับการใช้งาน หากลมยางอ่อนเกินไปจะทำให้ยางร้อนอย่างรวดเร็ว แก้มยางสึกหรอเสียหาย หนักข้อก็ถึงกับยางร่อนออกจากล้อหรือระเบิด ตรวจสอบแรงดันลมยางให้เท่ากับค่ามาตรฐานที่กำหนด เมื่อต้องขับออกทางไกลก่อนไปก็เติมลมเผื่อเพิ่มขึ้นอีกนิด ควรเติมลมยางในช่วงที่อุณหภูมิของยางยังไม่สูงมาก ขับออกจากบ้านวิ่งหาที่เติมลมก็ไม่ควรขับซะเร็วจนยางร้อน เติมลมยางแข็งเอาไว้ก่อนนิดๆ จะปลอดภัย แต่ห้ามเติมมากจนเกินไปซึ่งจะเสี่ยงกับการระเบิดอีกเช่นกัน จุ๊บลมที่ใช้งานมานานก็ควรตรวจสอบดูให้ดีๆ ว่ายังอยู่ในสภาพพร้อมใช้

...

ยางใหม่มีอายุใช้งานกี่ปี? เปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่ถึงจะดี?

การเสื่อมสภาพของยางรถยนต์เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการเสื่อมสภาพของเนื้อยาง ทำให้ยางมีรอยปริ แตก ซึม หรือเป็นเพราะการสึกหรอของดอกยาง ทำให้ยางมีสมรรถนะลดลงไปตามระยะเวลา หรือระยะทางของการใช้งาน ยางหมดสภาพไม่เกาะถนน รีดน้ำไม่ดี แข็งกระด้างและส่งเสียงดัง

ยางใหม่มีอายุใช้งานกี่ปี? เปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่ถึงจะดี?

ยางรั่วซึม มีลมออกเร็วกว่าเส้นอื่น เนื่องจากเกิดรอยรั่ว ควรตรวจเช็กสภาพยางและปะรอยรั่วซึม เพื่อป้องกันปัญหายางระเบิด

ลุยแอ่งน้ำแล้วแฉลบ ในกรณีที่ขับรถลุยแอ่งน้ำตื้นๆ ด้วยความเร็วต่ำ แต่รถมีอาการเสียหลัก หรือเสียทิศทาง เกิดจากการที่ดอกยางสึกมาก ยางหัวโล้นหรือยางที่ดอกหมด ตรวจเช็กโดยการสังเกตที่สะพานยาง ตรงกึ่งกลางของร่อง หากดอกยางนั้นสึกลึกเข้าไปเท่ากับสะพานยาง ยางเส้นนั้นถือว่าหมดสภาพการใช้งาน ต้องเปลี่ยนยางเส้นใหม่ทันที

รถวิ่งไม่เรียบ กระเด้ง พวงมาลัยสั่น เกิดจากแก้มยางบวมปูดออกมา โครงสร้างของแก้มยางเคยโดนเบียดหรือกระแทกแรงๆ ทำให้โครงสร้างของยางเสียหาย

ยางใหม่มีอายุใช้งานกี่ปี? เปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่ถึงจะดี?

ควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อไหร่

ระยะการเปลี่ยนยางใหม่ บางคนลากไปถึง 5-6 หมื่นกิโลเมตร มันใช้งานได้ก็จริง แต่ความปลอดภัย ร่องดอกยาง โครงสร้างแก้มยาง คงไม่เหมือนยางที่สดใหม่ ยางเป็นอุปกรณ์สำคัญ หากทำงานผิดพลาดอาจหมายถึงชีวิต เมื่อเห็นว่าได้เวลาที่จะต้องเปลี่ยนก็อย่าไปเสียดายเงิน แนะนำเปลี่ยนยางใหม่ไปเลยไม่ควรใช้ยางเปอร์เซ็นต์ราคาถูก ระยะที่เหมาะสมกับการเปลี่ยนประมาณสี่หมื่นกิโลเมตร บวก-ลบ มากน้อย ขึ้นอยู่กับลักษณะของการใช้งาน เลือกยางให้เหมาะสมกับประสิทธิภาพและรูปแบบของรถจะทำให้ควบคุมทิศทางได้ดีขึ้น แถมยังช่วยประหยัดน้ำมันถ้าล้อไม่ใหญ่จนเกินไปและใช้ยางประเภทลดแรงเสียดทานที่เน้นการประหยัดเชื้อเพลิง

ยางใหม่มีอายุใช้งานกี่ปี? เปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่ถึงจะดี?
ยางใหม่มีอายุใช้งานกี่ปี? เปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่ถึงจะดี?
ยางใหม่มีอายุใช้งานกี่ปี? เปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่ถึงจะดี?

4 ปี หรือประมาณ 40,000 กิโลเมตร เป็นระยะทางที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานยางรถยนต์บนสภาพถนนปกติทั่วไป ยกเว้นรถที่ต้องบรรทุกหนัก หรือวิ่งใช้งานบนเส้นทางวิบากมีแต่หลุมบ่อ อายุการใช้งานย่อมหดสั้นลงเป็นเรื่องปกติ อย่าลืมเช็กแรงดันลมยางและขับให้ช้าลง รวมถึงไม่บรรทุกน้ำหนักเกินกว่าความสามารถของยางที่ระบุเอาไว้ ก็จะช่วยยืดอายุให้ยางรถยนต์ของคุณใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม.

รู้จัก 5 แบรนด์ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี 2025 คุณภาพดี ใช้งานคุ้ม ทนทานต่อทุกสภาพถนน

ยางรถยนต์” ถือเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนสำคัญของยานพาหนะที่ส่งผลต่อสมรรถนะและความปลอดภัยในการขับขี่โดยตรง การเลือกยางรถยนต์ที่เหมาะสมจึงไม่ใช่แค่เรื่องของรูปลักษณ์หรือราคาเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนซื้อสินค้าคุณภาพเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารในระยะยาว

ยางรถยนต์ที่ผลิตตามมาตรฐานสากล มักมาพร้อมกับคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนน ลดระยะเบรก และรองรับการขับขี่บนพื้นสภาพถนนหลากหลายรูปแบบ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อยางรถยนต์จึงควรคำนึงถึงคุณสมบัติหลักๆ ได้แก่ ประสิทธิภาพในการใช้งาน ความทนทานต่อสภาพถนน อายุการใช้งาน  รวมถึงชื่อเสียงของแบรนด์ที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่าเชื่อถือได้

สำหรับใครที่กำลังมองหา “ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี” ปี 2025 ที่จะตอบโจทย์ทั้งคุณภาพและความคุ้มค่า ไทยรัฐออนไลน์ได้คัดสรร 5 แบรนด์ยางรถยนต์ชั้นนำ ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้จริงและมีจุดเด่นด้านความทนทาน การยึดเกาะพื้นถนนที่ดีเยี่ยม และได้รับการการันตีมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก มาแนะนำให้คุณพิจารณาอย่างมั่นใจ 

1. ยางรถยนต์ Michelin

มิชลิน” แบรนด์ยางรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศสที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพมาตรฐานระดับโลก โดดเด่นด้านเทคโนโลยีที่ออกแบบยางรถยนต์ให้มีสมรรถนะขั้นสูงที่ยาวนานตลอดอายุใช้งาน โดยเฉพาะนวัตกรรม MaxTouch ที่ช่วยกระจายแรงกดอย่างสม่ำเสมอทำให้ยางรถใช้ได้นาน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย และยึดเกาะพื้นถนนได้ดี ทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากผู้ผลิตรถยนต์หรูชั้นนำทั่วโลก นอกจากนี้ยังผลิตยางที่ครอบคลุมยานยนต์หลายประเภท ตลอดจนวงการมอเตอร์สปอร์ต เครื่องบิน และยานสำรวจอวกาศ ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในทุกสภาพพื้นผิวที่แตกต่างกัน ตัวอย่างรุ่นที่แนะนำ ได้แก่

ยาง Michelin รุ่น Energy XM 2+

มั่นใจทุกการขับขี่กับเนื้อยาง Full Silica สูตรใหม่ลิขสิทธิ์เฉพาะของมิชลิน ซึ่งยางรุ่นนี้รองรับการใช้งานกับรถไฟฟ้า ที่ให้ความยืดหยุ่นสูงช่วยให้หน้ายางปรับสภาพและยึดเกาะพื้นถนนได้อย่างเต็มที่ จึงใช้งานได้ยาวนานกว่าค่าเฉลี่ยยางชั้นนำทั่วไป เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่มั่นใจกับทุกสภาพผิวถนน 

  • ยางสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กและรถอีโคคาร์จากมิชลิน เบรกสั้น มั่นใจ ทั้งยางใหม่และยางใกล้หมดดอก
  • เนื้อยางสูตรใหม่ MICHELIN Robust Carcass ช่วยรักษาขอบยางจากการตกหลุมบ่อที่พบได้ตามถนนในเมือง ทนทานต่อทุกสภาพถนน
  • ยางมีร่องรีดน้ำแตกต่างกันตามขนาดความกว้างของยาง โดยยางที่มีความกว้างของยาง 195 เป็นต้นไปจะมี 3 ร่องรีดน้ำและยางที่มีขนาดความกว้างของยางน้อยกว่านั้นจะมี 2 ร่องรีดน้ำ
ยางใหม่มีอายุใช้งานกี่ปี? เปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่ถึงจะดี?

2. ยางรถยนต์ WestLake 

ยางรถยนต์เวสต์เลค (WestLake) แบรนด์ยางรถยนต์คุณภาพระดับโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 1958 ผลิตโดย Hangzhou Zhongce Rubber Company (ZC Rubber) ซึ่งเป็นผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศจีน เพราะเป็นโรงงานจีนแห่งเดียวที่ติด TOP 10 จากการจัดอันดับของ tirebusiness.com อีกทั้งเว็บไซต์ส่วนใหญ่ยังจัดให้ ZC Rubber เป็นอันดับ 1 ของจีน และติดอันดับ 10 ของโลกในปี 2024 (จัดอันดับโดย tirebusiness.com

WestLake มีชื่อเสียงในการนำเทคโนโลยีการผลิตจากเยอรมนี ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา มาใช้ผลิตยางรถยนต์คุณภาพสูงและได้รับการยอมรับในระดับสากล ผลิตด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย ทำให้มีจุดแข็งในเรื่องความทนทานสูง ดอกยางคุณภาพ อายุการใช้งานยาวนาน และเนื่องจากมีโรงงานผลิตยางอยู่ในประเทศไทย ใช้วัตถุดิบน้ำยางคุณภาพจากยางพาราไทย จึงทำให้มีราคาที่เอื้อมถึงได้ แต่ยังคงรักษาคุณภาพและมาตรฐานไม่แพ้แบรนด์อื่นๆ

ปัจจุบัน WestLake มีตัวแทนจำหน่ายด้านยางรถยนต์มากกว่า 100 สาขาทั่วประเทศ ทำให้สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการได้อย่างสะดวกรวดเร็ว มีผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ให้เลือกหลากหลายประเภท ซึ่งตอบโจทย์ในทุกการใช้งาน เช่น ยางสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (PCR), ยางรถบรรทุก (TBR), ยางรถ Off Road 4×4, ยางรถกระบะ, ยาง MT, ยาง HT รวมถึงยางรถไฟฟ้ารุ่นที่ผลิตในไทย เป็นต้น

ยางรถยนต์ WestLake ที่มาใหม่ รองรับการใช้รถไฟฟ้า หรือรถบ้านทั่วไป

WestLake เป็นแบรนด์ยางรถยนต์ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานทั่วโลก ด้วยคุณภาพที่ได้มาตรฐานและมียางหลากหลายรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน มาทำความรู้จักยางรุ่นต่างๆ ของ WestLake ว่ามีรุ่นไหนที่มีความน่าสนใจบ้าง เพื่อให้คุณได้เลือกให้ตรงกับสไตล์การขับขี่ และประเภทของรถที่ใช้งานอยู่ได้ง่ายมากขึ้น ยกตัวอย่างรุ่นที่แนะนำ ดังนี้

ยาง WestLake รุ่น ZuperACE EV (สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า)

SUPER SILENT เงียบที่สุด*

  • ร่องบนไหล่ยาง ช่วยระบายอากาศผ่านร่องดอกยางได้อย่างรวดเร็วช่วยลดเสียงรบกวนในขณะขับขี่
  • จุดลดเสียงแบบสามมิติช่วยลดการสะท้อนเสียงรบกวนต่างๆ
  • โฟมโพลียูรีเทนถูกออกแบบมาให้อยู่ในส่วนท้องยางด้านใน เพื่อดูดซับเสียง ลดการสั่นสะเทือน

SUPER GREEN ประหยัดพลังงานที่สุด*

  • เทคโนโลยี BPOT ช่วยกระจายแรงกดบนหน้ายางให้สม่ำเสมอช่วยให้หน้ายางมีอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้นและช่วยประหยัดพลังงาน
  • เนื้อยางสูตรพิเศษ ลดแรงต้านทานจากการหมุนของล้อ ช่วยยืดอายุการใช้งาน และเพิ่มระยะทางในการใช้งานมากขึ้น

SUPER HYBRID ยึดเกาะถนนดีที่สุด*

  • เทคโนโลยีเฉพาะของยาง WESTLAKE ทำให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ แม้ใช้ความเร็วสูง เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ เพิ่มคุณภาพในการยึดเกาะถนน

SUPER TOUCH สัมผัสดีไซน์โดดเด่นที่สุด*

  • ให้รถคุณโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยแก้มยางกำมะหยี่สีดำน้ำเงินเข้ม และยังช่วยลดแรงต้านทานลมในขณะขับขี่ทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น

 *เมื่อเปรียบเทียบกับยางรุ่นเก่าของ WestLake 

ยางใหม่มีอายุใช้งานกี่ปี? เปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่ถึงจะดี?

ยาง WestLake รุ่น ZuperFlex Z-117 (สำหรับรถเก๋งทั่วไป)

  • ลายดอกยางที่ถูกดีไซน์ Sport Hybrid ที่ลงตัว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุม และลดแรงต้านทานการหมุนส่งผลให้การขับขี่ราบรื่น และเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง
  • เทคโนโลยีการออกแบบ Groove Chamfer ทำให้หน้ายางสัมผัสถนนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการหยุดรถ และลดระยะทางในการเบรก ทำให้การเบรกมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
  • มาพร้อม 4 ร่องรีดน้ำขนาดใหญ่ เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่รีดน้ำออกจากหน้ายางอย่างรวดเร็วในสภาวะถนนเปียก ลดความเสี่ยงจากการเหินน้ำในสภาพถนนที่มีน้ำขัง
  • Block Pattern ไหล่ยางด้านนอกถูกดีไซน์ออกมาให้เพิ่มความแข็งแรง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมรถขณะเข้าโค้ง และการยึดเกาะถนนในทุกสภาพถนนอย่างมั่นใจ

ติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับยางรถยนต์รุ่นอื่นๆ ของ WestLake เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.westlaketyrethailand.com หรือสอบถามที่เฟซบุ๊ก WestLake Tyre Thailand - ยางรถยนต์เวสต์เลค ประเทศไทย

3. ยางรถยนต์ Bridgestone

บริดจสโตน” แบรนด์ยางรถยนต์พรีเมียมที่ถือกำเนิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น โดยได้ผลิตออกแบบและจำหน่ายยางรถยนต์รายใหญ่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยนานกว่า 50 ปี มียางรถยนต์คุณภาพสูงที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ยางมีความต้านทานต่อการสึกหรอ อีกทั้งยังมีการนำนวัตกรรม ENLITEN มาใช้ในการผลิตยางน้ำหนักเบา ช่วยลดความต้านทานการหมุนของยางรถยนต์ จึงตอบโจทย์ทั้งในด้านสมรรถนะ ความปลอดภัย และความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมรองรับทุกสไตล์การขับขี่ ตั้งแต่การใช้งานในชีวิตประจำวันไปจนถึงสมรรถนะระดับมืออาชีพ ตัวอย่างรุ่นที่แนะนำ ได้แก่

ยาง Bridgestone รุ่น Potenza Adrenalin RE004 

ยางรถยนต์ที่ยกระดับเหนือชั้นของการขับขี่แบบสปอร์ต ให้ประสบการณ์ขับขี่ที่ช่วยควบคุมการตอบสนองและการเข้าโค้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งบนถนนเปียกและถนนแห้ง ทำให้รถสามารถยึดเกาะถนนได้ดี พร้อมตอบสนองต่อการควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ เร้าใจในการขับขี่ทุกเส้นทาง

  • ร่องดอกยางแบบพิเศษ ช่วยกระจายแรงกดบริเวณหน้าสัมผัสของยางกับพื้นถนนอย่างสม่ำเสมอ
  • บล็อกดอกยางด้านในขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มพื้นที่หน้ายางให้สัมผัสกับพื้นถนนได้มากขึ้น
  • ร่องดอกยางรูปตัว A สไตล์สปอร์ตเต็มพิกัดด้วย DNA ของ Adrenalin
ยางใหม่มีอายุใช้งานกี่ปี? เปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่ถึงจะดี?

4. ยางรถยนต์ Yokohama

โยโกฮามา” แบรนด์ยางรถยนต์ชั้นนำจากญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมการผลิตยางรถยนต์ โดยได้รับการยอมรับในระดับสากลถึงคุณภาพยางที่มีสมรรถนะสูง ทนทานต่อการใช้งาน ทรงตัวและยึดเกาะถนนดีเยี่ยม เหมาะกับทุกสภาพพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นถนนเรียบหรือออฟโรด อีกทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยลดแรงต้านการหมุน ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลไร้เสียงรบกวน จึงมั่นใจได้ในคุณภาพและความคุ้มค่าในระยะยาว ตัวอย่างรุ่นที่แนะนำ ได้แก่

ยาง Yokohama รุ่น Advan V61

ยางพรีเมียมสำหรับรถ SUV ที่เนื้อยางบริเวณส่วนดอกยางถูกพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษด้วยเทคนิคเฉพาะรุ่น Advan V61 มีการนำเทคโนโลยี AI ในการออกแบบ เพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่และยึดเกาะที่ดีบนถนนเปียก ทนต่อการสึกหรอ และช่วยประหยัดพลังงาน

  • ใช้เทคโนโลยี algorithms ของ HAICoLab ในการออกแบบลายดอกยาง  เพื่อที่จะได้ประสิทธิภาพความเงียบ และจำนวนบล็อกดอกยางที่เหมาะสม 
  • ร่องดอกยางรูปทรงสายฟ้า จะถูกจัดวางบริเวณตรงกลางหน้ายางและร่องด้านนอก เพิ่มความแข็งแรงของดอกยาง และขจัดฟิล์มน้ำบนผิวสัมผัส เพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมบนถนนเปียก
  • เนื้อยางใต้ชั้นหน้ายาง (Base rubber) มีความพิเศษ ช่วยในการประหยัดพลังงาน และลดเสียงของยางขณะสัมผัสพื้นถนน
ยางใหม่มีอายุใช้งานกี่ปี? เปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่ถึงจะดี?

5. ยางรถยนต์ Continental

คอนติเนนทอล” แบรนด์ยางรถยนต์ของประเทศเยอรมนี ก่อตั้งมาแล้วกว่า 150 ปี โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างต่อเนื่อง โดยมีห้องปฏิบัติการวิจัยที่เน้นพัฒนาวัสดุใหม่ๆ เพื่อนำมาผลิตยางรถยนต์คุณภาพและปลอดภัยสูง มีการคิดค้นเทคโนโลยี ContiSeal ที่หากเกิดเหตุการณ์ยางแตก จะช่วยอุดรอยรั่วยางได้ถึง 80% ทำให้ขับรถต่อไปได้อย่างปลอดภัย รวมถึงเทคโนโลยี ContiSilent ที่ช่วยลดเสียงรบกวนจากถนน ยางของแบรนด์นี้ยังนิยมนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และการเกษตร เนื่องจากมีความแข็งแรงและทนทานสูงนั่นเอง ตัวอย่างรุ่นที่แนะนำ ได้แก่

ยาง Continental รุ่น ContiSportContact 5P

โดดเด่นเรื่องความแม่นยำในการควบคุมทิศทาง ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ตลอดเส้นทาง มาพร้อมคุณสมบัติการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม เข้าโค้งได้อย่างมั่นคง และเบรกได้ในระยะสั้น ทั้งบนถนนเปียกและแห้ง อีกทั้งยังตอบสนองและปรับตัวได้ดีกับทุกสภาพพื้นผิว โดยเฉพาะเมื่อต้องขับด้วยความเร็ว

  • SSR-Self Support Runflat เทคโนโลยียางที่สามารถขับต่อได้แม้เจอเหตุการณ์ยางแบน ยางรั่ว ช่วยให้สามารถพยุงรถยนต์ต่อไปได้ แม้ไม่มีความดันลมยาง 
  • เทคโนโลยี Black Chilli ที่ไม่เพียงแต่เคลื่อนที่ได้เร็วเท่านั้น แต่ยังหยุดรถได้เร็วอีกด้วย
  • ได้รับการติดตั้งตัวดูดซับเสียงไว้ภายในยาง ช่วยลดเสียงรบกวนภายในรถยนต์ขณะวิ่งบนท้องถนนได้มากถึง 9 dB(A) (ขึ้นอยู่กับชนิดของรถยนต์ ความเร็ว และพื้นถนน)
ยางใหม่มีอายุใช้งานกี่ปี? เปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่ถึงจะดี?

อย่างไรก็ตาม การเลือกยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี 2025 ไม่ใช่แค่เรื่องของราคาเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาถึงคุณสมบัติการใช้งานเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการขับขี่ ซึ่งทั้ง 5 แบรนด์ยางรถยนต์ที่แนะนำนี้ ล้วนแต่เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพ ความทนทาน และความคุ้มค่า โดยแนะนำให้เลือกยางรถยนต์ให้เหมาะสมกับประเภทยานยนต์ เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากที่สุด