911/992 GT3 RS คือรถ Porsche ที่สุดขั้วที่สุดเท่าที่เคยมีมา GT3 RS รุ่นใหม่ประจำปี 2024 ไม่เพียงแต่ได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ต แต่ยังเป็นรถแข่งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ การออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อให้ใช้งานง่าย และเข้าถึงได้สำหรับมนุษย์ทั่วไป ทั้งบนท้องถนนและในสนามแข่ง พูดง่ายแต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว 911 GT3 RS ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะเศรษฐีที่ไม่มีความเชี่ยวชาญในการควบคุมรถยนต์

50 ปีพอดีนับตั้งแต่ Porsche 2.7 RS เริ่มต้นเรื่องราวของ 911 RS รถคันนี้ถือเป็นการแสดงออกที่ท้าทาย ด้วยสปีดความเร็วอย่างไม่หยุดยั้งในสไตล์ของรถแข่ง

...

อากาศพลศาสตร์ของ 911 GT3 RS เน้นไปที่แรงกดตัวถัง หรือ Downforce ที่ตัวเลข 860 กิโลกรัม ที่ความเร็ว 284 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และ 406 กิโลกรัม ที่ 199 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งมากกว่าสองเท่าของ Porshce 991.2 GT3 RS แผ่นพับที่ปรับได้ในสปอยเลอร์หน้า และองค์ประกอบแบบไฮดรอลิก DRS ในวิงหลังคอหงส์ขนาดใหญ่ ที่ทำให้น้ำหนักของแรงกดกลับมาอยู่ที่ 306 กิโลกรัม ที่ความเร็ว 284 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในทันที GT3 RS รุ่นใหม่ให้การยึดเกาะได้มากเท่าที่ต้องการ และปรับให้แรงกดและแรงต้านอากาศลดลงลงเมื่อรถมีความเร็วต่ำ

...

แพ็กเกจแอโรไดนามิก เพื่อดึงศักยภาพสูงสุดของระบบอากาศพลศาสตร์ออกมาใช้งาน รวมถึงความใส่ใจในรายละเอียดของระบบระบายความร้อน แทนที่จะมีหม้อน้ำสามใบในกันชนหน้าเหมือนกับ 911 รุ่นอื่นๆ แต่ 911/991 รุ่น GT3 RS มีหม้อน้ำเอนไปข้างหน้าขนาดใหญ่หนึ่งใบ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง 911 RSR และ 911 GT3 R ข้อเสียของการมีระบบอากาศพลศาสตร์แบบรถแข่งก็คือ? คุณจะสูญเสียที่เก็บของใต้ฝากระโปรงหน้า พื้นที่ว่างด้านใดด้านหนึ่งสำหรับใบพัดใต้ท้องรถ ซึ่งจะมีการปรับและทำงานร่วมกับวิงหลังและดิฟฟิวเซอร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสมดุลของอากาศที่ด้านหน้า 30 เปอร์เซ็นต์ และด้านหลัง 70 เปอร์เซ็นต์

...

...

ปัญหาใหญ่ก็คือหม้อน้ำ ในเขตร้อน การนำพาความร้อนออกจากระบบขับเคลื่อน ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและส่งผลต่อสมรรถนะของเครื่องยนต์ หม้อน้ำใน 911/992 GT3 RS 2024 ใช้การระบายอากาศร้อนจัดออกตรงรูจมูกของฝากระโปรงหน้า อากาศร้อนจะไหลผ่านหลังคารถ และเข้าไปในช่องรับอากาศของเครื่องยนต์ที่ด้านหลัง นั่นเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ เครื่องยนต์ที่ดูดอากาศเข้าไปโดยธรรมชาติ ปราศจากระบบอัดอากาศ (เทอร์โบ) ชอบอากาศเย็นที่มีความหนาแน่นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการจุดระเบิด ดังนั้น ครีบสีดำบนฝากระโปรง จึงทำหน้าที่บังคับทิศทางของลมร้อน โดยนำอากาศร้อนจากหม้อน้ำออกไปด้านหลังในลักษณะไหลข้ามหลังคาไปยังส่วนท้าย ป้องกันการย้อนกลับเข้าไปหาช่องรับอากาศเข้าของเครื่องยนต์

มันคุ้มค่าไหมกับการออกแบบครีบจัดเรียงกระแสอากาศดังกล่าว? ความแตกต่างระหว่างอากาศเข้าที่มีอุณหภูมิ 20 องศาฯ กับ 30 องศาฯ คือการสูญเสียกำลังมากถึง 15 แรงม้า Porsche ออกแบบช่องระบายอากาศรอบๆ ล้อ เพื่อจุดประสงค์เดียวเช่นกัน โดยดึงอากาศออกจากส่วนโค้งของโพรงซุ้มล้อ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ช่วยลดการยกตัวได้ดีขึ้น 

เครื่องยนต์ Boxer 6 สูบ จอมปั่นรอบ ไม่พึ่งพาระบบอัดอากาศ มีปริมาตรความจุ 4.0 ลิตร กวาดรอบเครื่องยนต์ไปได้ถึง 9,000 รอบต่อนาที พร้อมเสียงคำรามกึกก้อง ให้กำลัง 518 แรงม้า แรงบิด 465 นิวตันเมตร กำลังที่ไม่ได้มากเหมือนอย่างที่คิด สาเหตุหลักมาจากเพลาลูกเบี้ยวกับชิ้นส่วนเคลื่อนไหวอื่นๆ ที่จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นและสึกหรอเร็วขึ้นหากดันแรงม้าให้มากกว่าที่มีอยู่ แต่กำลังของ GT3 RS ก็มากกว่า GT3 รุ่นมาตรฐาน 15 แรงม้า และมากกว่า GT3 RS รุ่นก่อนหน้าเพียง 5 แรงม้าเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายในยุคที่รถเทอร์โบชาร์จและรถพลังงานไฟฟ้าสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม และแต่ละคันล้วนแล้วแต่มีแรงม้ามหาศาล Porsche ยังคงรักษาเรี่ยวแรงของรถ GT3 RS ได้ค่อนข้างคงที่ โดยมุ่งความสนใจไปที่จุดอื่นเพื่อลดเวลาต่อรอบในสนามแข่งมากกว่าจะเพิ่มทั้งแรงม้าและแรงบิดล้นๆ จนควบคุมได้ยาก 

กระปุกเกียร์ PDK เจ็ดสปีด มีอัตราส่วนการขับเคลื่อนสั้นกว่า GT3 รุ่นมาตรฐาน แขนกันสะเทือนอะลูมิเนียมหรือปีกนก มีส่วนรับน้ำหนัก 40 กิโลกรัม ที่ความเร็วสูงสุด อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.2 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 296 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพียงพอที่จะทำให้เสียวสันหลังได้ หากไม่สาแก่ใจก็ยังสามารถปลดล็อกความเร็วปลายได้อีกนิดหน่อย 

วิงหลังไฮดรอลิกแบบสองชิ้น, ตัวถังคล้าย 911 เทอร์โบ, แอ็กทีฟแอร์โรไดนามิกที่กันชนหน้า, แทร็กกว้างขึ้นและยางอ้วนขึ้น ล้วนมีน้ำหนักที่หนักหนาสาหัส ขั้นตอนการลดมวลได้รับการตอบสนองด้วยล้อแมกนีเซียมเบาหวิว คาร์บอนไฟเบอร์ สำหรับปีก หลังคา บานประตู ฝากระโปรงหน้า และครีบรีดอากาศส่วนหน้า 

ผลลัพธ์ที่ได้ในขั้นตอนของการลดน้ำหนักด้วยวัสดุมวลเบาทั้งหมด คือ 1,450 กิโลกรัม ซึ่งมากกว่า GT3 15 กิโลกรัม ถือว่าไม่แย่ เมื่อพิจารณาว่ามีระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบครบครัน รวมถึงระบบช่วยเลี้ยวล้อหลังแบบปรับได้

911 GT3 RS คือมาสเตอร์พีซที่สมบูรณ์แบบในด้านพลศาสตร์ของการบังคับอากาศและงานปรุงแต่งแชสซี ไม่เพียงแค่เพิ่มกำลังขับเท่านั้น แต่ยังเลือกที่จะใช้สมรรถนะสูงสุดในด้านอื่นเพื่อทดแทนสิ่งที่ขาดหายไป ด้วยกำลังแค่ 518 แรงม้า แต่ทำเวลารอบ Nürburgring Nordschleife ด้วยเวลาเพียง 6 นาที 49.328 วินาที ในช่วงปลายปี 2022 ซึ่งเร็วกว่า GT3 'รุ่นมาตรฐาน' มากกว่า 10 วินาที GT3 RS ไม่ใช่ภาพเขียนสีน้ำมันหรือรถสปอร์ตที่เอาไว้คุยโวโอ้อวด ถ้าเจ้าของมีฝีมือมากพอ การทำเวลาต่อรอบที่ลดลงในสนามแข่งที่ไม่คุ้นชินนั้นมีสิทธิ์เกิดขึ้นได้มากพอๆ กับการทำมันหลุดและวิ่งไปอัดกำแพง หรือกองยาง  

วิศวกรและนักขับทดสอบของ Porsche Motorsport ทุ่มเททำงานหนักเพื่อลูกค้าที่ยอมจ่ายเงินจำนวนมากสำหรับการครอบครอง GT3 RS พวกเขาผลักดันในทุกพื้นที่ของถนนและสนามแข่ง เพื่อสร้างรถของนักขับที่หลงใหลในมอเตอร์สปอร์ตอย่างแท้จริง ด้วยขีดความสามารถและศักยภาพในการทำความเร็ว เวอร์ชัน GT RS คือสุดยอดรถ 911 ที่มุ่งเน้นการขับในสนามแข่ง แต่จริงๆ แล้วเพียงแค่ยืนดู 992 GT3 RS คุณอาจไม่ชอบความสวยงามโดยรวมของมัน 

การเปลี่ยนแปลงวัสดุ และมุมแคมเบอร์ที่แปลกประหลาด คือธรรมชาติของระบบกันสะเทือนที่สามารถปรับได้ แน่นอนว่ามันมีของเจ๋งๆ มากมายที่คุณคาดหวังได้ มีเหล็กกันโคลงคาร์บอนไฟเบอร์ (ลดน้ำหนักได้ 1.5 กิโลกรัม) พร้อมด้วยส่วนหน้าที่ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์อย่างสวยงาม ล้อแมกนีเซียมลดน้ำหนักได้ 8 กิโลกรัม สามารถปรับการตอบสนองของโช้คอัพหน้าและหลังได้ทันทีผ่านปุ่มควบคุมแบบหมุน (ง่ายๆ บนพวงมาลัย) เป็นตำแหน่งที่ทำให้ RS เชื่องมือสำหรับการใช้งานบนท้องถนน

วิงหลังพร้อมคอหงส์มีขนาดใหญ่กว่าวิงหลังของ GT3 รุ่นมาตรฐานถึง 40% ทำให้วิงดูมีขนาดใหญ่มากจนเกินไป จากมุมมองด้านสุนทรียภาพล้วนๆ เมื่อวิงหลังรวมกับสกูป ครีบ ช่องดักอากาศและท่อทางอื่นๆ ทั้งหมด ทุกอย่างถูกออกแบบให้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ (ล้อ Satin Pyro Red ก็ดีเหมือนกัน) วิงหลังมีช่วงการปรับแบบอิเล็กทรอนิกส์ 34 องศา สามารถเคลื่อนตัวได้ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งวินาที และทำงานร่วมกับสปอยเลอร์ใต้ท้องรถแบบสองชิ้นด้วยตัวมันเอง ทำให้เกิดแรงกดที่เพลาหน้าเพิ่มขึ้นมากถึง 80% เมื่อรวมกันแล้ว ระบบแอ็กทีฟแอร์โรทั้งด้านหน้าและด้านหลังจะเปิดใช้งาน DRS ซึ่งเป็นคำที่คุณได้ยินบ่อยๆ ในวงการมอเตอร์สปอร์ต หมายถึง "ระบบลดแรงต้านทานอากาศ" ในตำแหน่งที่ต่ำ ปีกจะถูกปรับให้อยู่ในตำแหน่งแบนราบมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อลดแรงต้านของกระแสอากาศ เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ตลอดจนการขับบนทางตรงยาวๆ ในสนามแข่ง แต่การตั้งค่าที่สูงของ DRS จะทำให้สปอยเลอร์อยู่ในตำแหน่งที่สูงชันที่สุด เพื่อเข้าถึงแรงกดส่วนท้ายสูงสุดเพื่อให้การควบคุมและเสถียรภาพในการเข้าโค้งดีขึ้น

ใน GT3 RS ตำแหน่ง DRS ที่ปรับให้ต่ำจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ต้องขับด้วยความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิงหลังไฮดรอลิกจะเริ่มการทำงานเมื่อตำแหน่งแป้นคันเร่งถูกกดแบบฉับพลันทันที มากกว่า 95% เครื่องยนต์ต้องหมุนรอบสูงกว่า 5,500 รอบต่อนาที และคงความเร่งด้านข้างไว้ที่น้อยกว่า 0.9 G นอกจากนี้ยังมีปุ่มคำสั่ง DRS แบบแมนนวลบนพวงมาลัยทางด้านซ้าย เมื่อเหยียบเบรกหนักๆ DRS ที่ปรับมุมองศาของวิงหลังให้ตั้งชันจะทำงานทันทีเพื่อช่วยลดความเร็ว

การปรับแต่งระบบอากาศพลศาสตร์ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ใต้ท้องรถของ GT3 RS มีแผ่นปิดพร้อมครีบระบายอากาศ ดิฟฟิวเซอร์มีส่วนรับผิดชอบในการจัดเรียงกระแสอากาศใต้ท้องรถ รวมถึงช่วยสร้างของแรงกดส่วนท้ายอีก 10% ครีบด้านข้างที่ล้อทั้งสี่ พร้อมบานเกล็ดที่แก้มข้าง เพื่อแยกอากาศออกจากส่วนโค้งของซุ้มล้อ ช่วยลดแรงกดและระบายอุณหภูมิของจานเบรก ระบบกันสะเทือนหน้าแบบปีกนกสองชั้น ถูกปรับรูปทรงใหม่หมด เพื่อให้อากาศไหลผ่านล้อได้ดีขึ้น

เมื่อมองเข้าไปในห้องโดยสารของ 911/992 GT3 RS จะเห็นพวงมาลัยบุด้วยวัสดุ Alcantara พร้อมแป้นหมุนสี่อันที่ส่วนล่าง จากซ้ายไปขวา ใช้ควบคุมระบบกันสะเทือนแบบแอ็กทีฟ (PASM) ระบบเวกเตอร์แรงบิด (PTV) ระบบควบคุมเสถียรภาพ/การยึดเกาะถนน และโหมดการขับขี่ เมื่อเรียกใช้หน้าจอ PASM คุณสามารถปรับการตอบสนองของโช้คอัพของเพลาหน้าและเพลาหลังแบบแยกกันได้ โดยมีการตั้งค่าบวกหรือลบ 4 รายการ นอกเหนือจากจุดกึ่งกลางแบบค่ามาตรฐาน PTV จะช่วยให้ปรับแต่งพารามิเตอร์การเคลื่อนตัวและพลวัตของกำลัง ซึ่งโดยทั่วไปสามารถปรับแต่งให้ดันส่วนท้ายออกมากน้อยได้ตามต้องการ สุดท้าย GT3 RS มีปุ่มควบคุมการยึดเกาะเจ็ดระดับที่แตกต่างกัน และสามระดับสำหรับการควบคุมระบบรักษาเสถียรภาพ

911/992 GT3 RS คือจุดสุดยอดของ 911 มันเหมือนกับรถแข่งที่สามารถขับใช้งานบนท้องถนนได้อย่างถูกกฎหมาย และทั้งหมดที่ว่ามานี้ไม่มีราคาถูก Porsche 911/992 GT3 RS ราคาเริ่มต้นที่ 25,900,000 บาท แต่สามารถขึ้นไปถึง 28,000,000 บาท หากเลือกออปชันราคาแพง เช่น นาฬิกา GT3 RS Porsche Design ที่เข้าคู่กัน และอื่นๆ ที่ทำให้ RS คันใหม่ของคุณดูเหนือสุดๆ

ความเร็วคือสัญลักษณ์ของรถซุปเปอร์คาร์ และ GT3 RS ทุกคันก็มีตัวเลขเวลาต่อรอบในสนามนรกเขียวเป็นเกณฑ์มาตรฐาน ในวงการมอเตอร์สปอร์ต ความเร็วคือสิ่งที่บริษัทผู้ผลิตมักจะอ้างอิงถึง และการปรับแต่งเพื่อบรรลุเป้าหมายแห่งชัยชนะก็เป็นเพียงแง่มุมหนึ่งของประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม ความเร็วมอบประสบการณ์และความตื่นเต้น รวมถึงอันตรายสำหรับนักขับ ความเร็วเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพด้านการขับเคลื่อน ด้วยข้อมูลใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ นั่นคือสิ่งที่นักขับทดสอบของ Porsche ค้นพบทุกครั้งที่ออกไปขับในสนามแข่ง และการเข้าร่วมการแข่งรถแบบ Endurance : ไม่ใช่แค่การสร้างรถที่เร็วที่สุดเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการทำงานเป็นทีมด้วยความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะอีกด้วย.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/