พาไปพิสูจน์ "ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่" รุ่น e:HEV ประหยัดน้ำมันสูงถึง 42.3 กม.ต่อลิตร และรุ่น TURBO ประหยัดน้ำมันสูงถึง 38.8 กม.ต่อลิตร ตอกย้ำความเป็นที่สุดของซิตี้คาร์ ทั้งแรงและประหยัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้เชิญสื่อมวลชนชั้นนำรวมกว่า 60 สื่อ ร่วมทดสอบสมรรถนะการขับขี่และอัตราประหยัดน้ำมันของ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ทั้งขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV และขุมพลัง TURBO ในกิจกรรม Fuel Challenge การแข่งขันประหยัดน้ำมัน บนเส้นทางกรุงเทพฯ-สิงห์บุรี รวมระยะทาง 133 กิโลเมตร
ทั้งนี้ จากการขับขี่และใช้งานจริงของสื่อมวลชน ผลการทดสอบสามารถทำสถิติอัตราประหยัดน้ำมันในขุมพลัง e:HEV สูงสุด 42.3 กม.ต่อลิตร และขุมพลัง TURBO สูงสุด 38.8 กม.ต่อลิตร (ตัวเลขอ้างอิงอัตราประหยัดน้ำมันขุมพลัง e:HEV 27.8 กม.ต่อลิตร และขุมพลัง TURBO 23.8 กม.ต่อลิตร) ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ เป็นซิตี้คาร์ที่ขับสนุก ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม และคุ้มค่าที่สุดในคลาส

นายเกียรติสยาม เกิดทรัพย์ จาก Driveautoplace กล่าวว่า ระบบฟูลไฮบริดของ ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ มีการจัดสรรพลังงานระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าได้ค่อนข้างดี ตัวเลขที่ทำได้จริงจากการขับขี่ประหยัดพลังงานได้เกินความคาดหมาย โดยใช้ความเร็วประมาณ 60-80 กม.ต่อชม. แปรผันตามสภาพการจราจรในเมืองที่จำนวนรถค่อนข้างหนาแน่น
...

จังหวะที่เร่งและยกคันเร่งมอเตอร์ สามารถชาร์จไฟกลับเข้าไปเก็บในแบตเตอรี่ได้ค่อนข้างเร็ว ทำให้สามารถใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนได้เยอะ ถือเป็นรถในกลุ่มซิตี้คาร์ที่ให้ความคุ้มค่าในการเดินทางได้ดี ณ เวลานี้
นายพรหมมินทร์ งามจั่นศรี จาก driveautoblog.com กล่าวว่า เทคโนโลยี e:HEV ของฮอนด้าเป็นระบบไฮบริดที่ฉลาดมาก รถจะรู้เองว่าตอนไหนขับด้วยมอเตอร์หรือเครื่องยนต์ และเหมาะกับการใช้ชีวิตในตอนนี้ที่ระบบอำนวยความสะดวกของรถ EV ยังไม่ครอบคลุม หรือสถานีชาร์จไฟยังไม่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ จึงเหมาะที่สุดและทำให้ชีวิตง่ายขึ้น เพราะใช้ได้ ทั้งน้ำมันและไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ซึ่งเสริมให้ประหยัดน้ำมันมากกว่ารถที่ใช้น้ำมันอย่างเดียวถึง 30%

สำหรับการขับรถ e:HEV ของฮอนด้าให้ประหยัดน้ำมัน คือ ต้องทำให้สัญญาณไฟ EV ขึ้น มีดังนี้
1. ใช้คันเร่งสม่ำเสมอ อย่าเติมคันเร่งมากเกินไป หรือดีที่สุดคือพยายามให้ความเร็วค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ หรือพยายามเติมคันเร่งควบคุมให้ความเร็วคงที่
2. ออกตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ช่วยถนอมรถ เกียร์ และยางอีกด้วย รวมถึงเลือกใช้ฟีเจอร์ที่เหมาะสม อาทิ การปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสม ไม่ต่ำหรือสูงจนเกินไป
แต่หากขับแล้วสัญญาณไฟ EV บนรถไม่เคยขึ้นเลย แสดงว่าคุณขับแบบไม่ประหยัดน้ำมัน มีการเติมคันเร่งที่หนักตลอดเวลาเครื่องยนต์จึงติดเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าให้ทันการใช้งานตลอดเวลา จึงไม่สามารถปั่นไฟไปเก็บที่แบตเตอรี่ไฮบริดได้ทันสำหรับการขับขี่ในโหมด EV