หลายคนอาจมีคำถามซื้อรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี หรือจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2024 นี้ควรเลือกยี่ห้อไหนดี เพราะเห็นโปรโมชันและราคาน่าสนใจมาก เรียกได้ว่ามีตัวเลือกมากขึ้นจากปีก่อนๆ แต่ก่อนที่จะซื้อรถอีวี ยังมีอีกหลายอย่างที่เราควรรู้ และ fintips by ttb โดยธนาคารทหารไทยธนชาต ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจไว้ โดยสิ่งแรกที่ควรรู้ คือ 

1. ประเภทรถยนต์ไฟฟ้า

ประเภทของรถยนต์ไฟฟ้าจะแบ่งตามวิธีการทำงานและพลังงานที่ใช้ในการขับเคลื่อน โดยสามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภท ดังนี้

- Hybrid หรือ HEV เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ผสมผสานการใช้งานระหว่างพลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิง และพลังงานไฟฟ้า เพื่อขับเคลื่อนรถยนต์ จึงมีทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกัน

- Plug-in Hybrid หรือ PHEV มีความคล้ายคลึงกับ HEV แต่มีความสามารถในการชาร์จแบตเตอรี่จากแหล่งพลังงานภายนอกด้วยการใช้ปลั๊กไฟฟ้าได้

- Battery Electric Vehicle หรือ BEV เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนที่ใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว จึงไม่มีการปล่อยก๊าซที่สร้างมลพิษให้กับโลก ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้ได้รับความสนใจจากอุตสาหกรรมผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก

- Fuel Cell Electric Vehicle หรือ FCEV เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซไฮโดรเจนทำปฏิกิริยากับออกซิเจนที่เซลล์เชื้อเพลิงเพื่อสร้างพลังงานให้เกิดการขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้า

...

2. สำรวจความพร้อมด้วยเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าน่ารู้

หลายคนอาจกังวลเรื่องความพร้อมและบริการต่างๆ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่ แต่ปัจจุบันตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเราสามารถติดตามเทรนด์และความเคลื่อนไหว เพื่อให้ไม่พลาดข่าวสาร รวมทั้งช่วยเสริมความมั่นใจและไขข้อสงสัยต่างๆ ได้อีกด้วย โดยเทรนด์ที่น่าสนใจล่าสุด มีดังนี้

- ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมียอดขายและการจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก ส่วนในประเทศไทย สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งประเทศไทย (EVAT) รายงานว่า มียอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้า BEV รวมทุกประเภท ตั้งแต่มกราคม-ธันวาคมปี 2566 จำนวนกว่าหนึ่งแสนคัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีเพียงหลักหมื่นคัน

- ปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีแบตเตอรี่พัฒนาขึ้นมาก ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น สามารถวิ่งระยะทางได้ไกลขึ้นเรื่อยๆ

- กระแสความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม ทำให้รัฐบาลทั่วโลกหันมาสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น

3. ไลฟ์สไตล์เราเป็นแบบไหน เหมาะกับรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่

แน่นอนว่าไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและการทำงานก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่ควรพิจารณาควบคู่ เช่น

ผู้ที่ห่วงใยใส่ใจสิ่งแวดล้อม : รถยนต์ไฟฟ้าตอบโจทย์สายรักษ์โลก เพราะใช้พลังงานสะอาด ลดภาวะก๊าซเรือนกระจก เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทำให้โลกเราน่าอยู่ขึ้น

ผู้ที่ต้องการทางเลือกที่ประหยัด : ค่าน้ำมันนับวันยิ่งแพงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น รถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องพลังงานในระยะยาวมากกว่า

ผู้ที่สามารถปรับตัวไปพร้อมกับเทคโนโลยีได้ : จะใช้รถยนต์ไฟฟ้าต้องมีความพร้อมในการปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น สถานีชาร์จภายในบ้าน และต้องหมั่นติดตามอัปเดตซอฟต์แวร์ต่างๆ ให้ทันสมัย

4. ข้อมูลสำคัญ เพื่อการดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้า

ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า เราควรจะต้องทราบข้อมูลที่สำคัญในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า เช่น

ประเภทของแบตเตอรี่ : รถยนต์ไฟฟ้ามีแบตเตอรี่หลายรูปแบบ ซึ่งเราจะต้องทราบรายละเอียดแต่ละประเภท เพื่อการใช้งานและดูแลรักษาให้มีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น

- ลิเทียมไอออน เป็นแบตเตอรี่ที่ถูกนำมาใช้ในอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าด้วย มีคุณสมบัติที่เหมาะสมและได้รับความนิยมนำมาใช้งานในรถยนต์ไฟฟ้า เพราะมีประสิทธิภาพสูง เก็บพลังงานได้อย่างดี อีกทั้งยังมีน้ำหนักที่เบา ขนาดที่เล็กกว่า เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ที่มีความจุเท่ากัน

- ลิเทียมไอออนฟอสเฟต เป็นแบตเตอรี่ที่ใช้ฟอสเฟสเป็นตัวเก็บประจุไฟฟ้า ทำให้มีความทนทาน มีอายุการใช้งานที่ยาวกว่าลิเทียมไอออน ใช้เวลาชาร์จสั้นลง ปลอดภัยและทนทานในการใช้งานในอุณหภูมิต่างๆ ได้อีกด้วย

- โซลิดสเตด เป็นแบตเตอรี่ที่มีการพัฒนาให้ได้คุณภาพที่สูงขึ้น ชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็ว สามารถใช้ในรถยนต์ที่มีการขับขี่ในระยะไกล ทำงานได้หลายอุณหภูมิ และมีความปลอดภัยสูง

...

แท่นชาร์จ  : หมั่นตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ชาร์จที่บ้านเป็นประจำ เพื่อรักษาความปลอดภัยในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาด การตรวจสอบช่องระบายอากาศ และสายเคเบิล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย

ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้ามีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ซึ่งก่อนตัดสินใจซื้อควรต้องศึกษาข้อมูลต่างๆ ให้เข้าใจก่อนว่า รถยนต์ไฟฟ้านั้นมีกี่ประเภท ไลฟ์สไตล์การใช้งานแบบไหนที่เหมาะกับตัวเอง รวมไปถึงการดูแลรักษาต่างๆ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อได้อย่างคุ้มค่า และขับขี่อย่างปลอดภัยตลอดอายุการใช้งาน