ร่วมหาเหตุผลสำคัญ ทำไมเรเว่ ออโตโมทีฟ ประกาศลดราคา BYD Dolphin 2024 เป็นแสน

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้จัดจําหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BYD อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ประกาศลดราคารถยนต์ไฟฟ้า BYD Dolphin 2024 สูงสุดถึง 160,099 บาท ตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย. 67-30 มิ.ย. 67 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด โดยมีรายละเอียดดังนี้

BYD Dolphin ลดราคา 2024

- BYD DOLPHIN รุ่น Standard Range ราคาเพียง 559,900 บาท จากราคา 699,999 บาท โดยราคานี้พร้อมติดตั้งฟิล์ม Ceramic ยี่ห้อ XUV MAX ทุกคัน และรับสิทธิพิเศษ RÊVER Care

- BYD DOLPHIN รุ่น Extended Range ราคาเพียง 699,900 บาท จากราคา 859,999 บาท โดยราคานี้พร้อมติดตั้งฟิล์ม Ceramic ยี่ห้อ XUV MAX ทุกคัน และรับสิทธิพิเศษ RÊVER Care

ทำไม BYD Dolphin ลดราคาปี 2024 ลงเป็นแสน

สำหรับเหตุผลสำคัญที่ทำให้ เรเว่ ออโตโมทีฟ ตัดสินใจลดราคารถยนต์ไฟฟ้า BYD Dolphin สูงสุดถึง 160,099 บาทนั้น มาจาก 3 เหตุผลหลักสำคัญดังนี้

...

1. ในเดือน ก.ค. 67 นี้ โรงงานผลิตรถยนต์ BYD ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ จ.ระยอง จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และ BYD Dolphin จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ผลิตในโรงงานประเทศไทย

2. เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา BYD ได้ประกาศลดราคา Blade Battery ในรถ BYD ทุกรุ่นประมาณ 40% เนื่องจากต้นทุนการผลิตเริ่มปรับตัวลดลง สำหรับราคาแบตเตอรี่ BYD DOLPHIN ราคามีดังนี้

รุ่น Standard Range ราคาแบตเตอรี่เก่าอยู่ที่ 449,910 บาท ลดราคา 140,546 บาท ปัจจุบันราคาเหลืออยู่ที่ 309,364.49 บาท

รุ่น Extended Range ราคาแบตเตอรี่เก่าอยู่ที่ 500,530 บาท ลดราคา 122,427 บาท ปัจจุบันราคาเหลืออยู่ที่ 378,102.80 บาท 

3. การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของค่ายอื่นๆ ที่สเปกใกล้ๆ กัน แต่ทำราคาได้น่าสนใจ เช่น NETA V II ที่ประกอบในประเทศไทย โดยมีการคาดการณ์ราคาอยู่ที่ประมาณ 549,000-569,000 บาท 

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับสมรภูมิสงครามราคารถอีวีในประเทศไทยน่าจะไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ เนื่องจากยังมีผู้เล่นรายอื่นๆ กำลังเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาดอีวีใหม่เพิ่มเติม ในขณะที่ผู้เล่นเดิมเตรียมทำแผนการตลาดใหม่ๆ รองรับ โดยเฉพาะเจ้าตลาดรถอีวีอย่าง BYD ภายใต้การนำของเรเว่ ออโตโมทีฟ ที่มีอะไรออกมาเซอร์ไพรส์ตลาดได้อยู่เสมอ 

แม้หลายฝ่ายจะมองว่าสมรภูมินี้ผู้บริโภคอย่างเราได้เปรียบแน่นอน แต่ทั้งหมดทั้งมวลการแข่งขันด้านราคาอาจจะไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด เพราะบริการหลังการขาย ทั้งการซ่อมบำรุง การซ่อมแซม และการรออะไหล่ รวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อมากกว่าการลดราคานั่นเอง