กฟผ. จับมือ EDS เปิดตัว DC Fast Charger ที่ผลิตและรับรองมาตรฐานโดยคนไทยรายแรก พร้อมสร้างความมั่นใจ และประหยัดเวลาในการเดินทางให้แก่ผู้ใช้รถยนต์ EV

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. ในฐานะผู้พัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ EleX by EGAT ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดของประเทศไทย

โดยบริษัท บริษัท อีแกท ไดมอนด์ เซอร์วิส จำกัด หรือ EDS ซึ่งเกิดจากการร่วมทุนของ กฟผ. 45% Mitsubishi Power Asia Pacific (MPW-AP) 30% Mitsubishi Corporation (MC) 15% และ RATCH Group 10% มีประสบการณ์ด้านธุรกิจดูแลอุปกรณ์ เครื่องจักร อะไหล่ของโรงไฟฟ้า ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

นอกจากความเชี่ยวชาญดังกล่าว EDS ยังมีศักยภาพในการต่อยอดธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ เช่น การพัฒนาเครื่องอัดประจุไฟฟ้า DC Fast Charger ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการด้านการให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า และผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของผู้ผลิตเครื่องอัดประจุไฟฟ้าภายในประเทศ และเกิดประโยชน์ด้านธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า นำไปสู่การสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมแก่ประเทศไทยในอนาคต

...

นายนัฐวุธ พิริยะจิตตะ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท อีแกท ไดมอนด์ เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า EDS ได้พัฒนาเครื่องอัดประจุไฟฟ้า DC Fast Charger ที่ผลิตและรับรองมาตรฐานโดยคนไทยรายแรก โดยมีความเสถียร มั่นคง จ่ายกระแสไฟฟ้าได้เต็มประสิทธิภาพ สามารถสื่อสารและเชื่อมโยงการใช้งานผ่านระบบแอปพลิเคชัน รองรับการชาร์จกับรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่นในปัจจุบัน

รวมทั้งผ่านการทดสอบมาตรฐาน International Electrotechnical Commission หรือ IEC จากศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หรือ PTEC เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้ประกอบการสามารถเป็นเจ้าของเครื่องอัดประจุไฟฟ้ามาตรฐานสากล ในราคาที่เหมาะสม และเข้าถึงการบริการหลังการขายได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

สำหรับเครื่องอัดประจุไฟฟ้า DC Fast Charger ที่ผลิตโดย EDS มีกำลังไฟสูงสุดถึง 150 kW สามารถชาร์จไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว นำร่องติดตั้งเป็นแห่งแรกที่โรงไฟฟ้าวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ EDS ได้ร่วมกับ EleX by EGAT เตรียมพร้อมที่จะขยายเครือข่ายการใช้งานเครื่องอัดประจุไฟฟ้า DC Fast Charger เชิงพาณิชย์ให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ

ทั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดจากปัจจุบันที่ กฟผ. เปิดให้บริการสถานีชาร์จ EleX by EGAT พร้อมสถานีพันธมิตรในเครือข่าย EleXA แล้ว 120 สถานีทั่วประเทศ และตั้งเป้าขยายสถานีชาร์จในเครือข่ายให้มีจำนวนรวมกว่า 180 สถานี ภายในสิ้นปี 2566 เพื่อสร้างความมั่นใจ และประหยัดเวลาในการเดินทางแก่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ควบคู่ไปกับการสร้างอากาศที่ดีลดมลพิษบนท้องถนน.