BYD Seal รถยนต์ไฟฟ้าซีรีส์ 'Ocean' กับข่าวคราวความคืบหน้าของการวางจำหน่ายในตลาดทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า BYD Seal พัฒนาอย่างเข้มข้น สำหรับส่งลงตลาดรถเก๋งไฟฟ้าขนาดกลางพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ไม่เป็นรองแบรนด์คู่แข่งอย่าง Tesla Model 3 แต่มีราคาย่อมเยากว่า นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับราคาของรถ ไฟฟ้าอย่าง BMW i4 สำหรับคนที่ต้องการความทันสมัยและสะดวกสบายด้วยไดนามิกในการขับแบบรถซีดาน ราคาค่าตัวคาดว่าน่าจะไม่เกิน 1.7 ล้านบาทสำหรับรุ่นเริ่มต้น ก็ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่มีความน่าใช้งาน จากความสามารถและประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า

...

Seal มีขนาดที่เล็กกว่า Han ดีไซน์ลู่ลมด้วยฝากระโปรงหน้าที่เทลาด ไฟหน้าบางเฉียบพร้อมส่วนต่อขยายรูปตัว C กันชนหน้าเรียบเพื่อลดแรงต้านทานอากาศ ช่องรับอากาศด้านข้างแนวตั้งเอียงในการออกแบบอย่างมีศิลปะ และช่องรับอากาศด้านล่างขนาดกะทัดรัดรูปตัว A เส้นกลางตัวถังที่โฉบเฉี่ยว เสา C ที่เรียวบาง มือจับที่เปิดบานประตูที่จะหดกลับเมื่อรถเคลื่อนตัวหรือกดล็อก กันชนหลังตกแต่งด้วยดิฟฟิวเซอร์ ไฟท้ายทรงยาวสีขาวเชื่อมต่อทั้งสองฝั่งด้วยเส้นไฟท้ายที่แบ่งส่วนท้ายบนและล่างออกจากกัน ตำแหน่งชาร์จไฟฟ้าอยู่ด้านขวามือ คล้ายกับฝาเติมเชื้อเพลิงของรถยุโรปที่มักจะอยู่ที่ด้านขวา 

...

โดยภาพรวมแล้ว รูปทรงของ Seal แตกต่างจากรถคู่แข่งอย่าง Tesla Model 3 หรือ BMW i4 รูปลักษณ์ภายนอก ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ความลู่ลมส่งผลดีต่อการใช้พลังงานไฟฟ้า และการเก็บเสียงที่โดดเด่น ค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทานอากาศที่ต่ำ ทำให้ Seal มีระยะทางไกลขึ้น ทำรอบการชาร์จน้อยล หมายถึงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น

BYD Seal จัดเบาะที่นั่งระดับพรีเมียม สำหรับผู้โดยสาร 5 คน เบาะนั่งแบบสปอร์ตสีฟ้าอ่อนขาวที่นุ่มนิ่มนั่งสบาย โทนสีภายในที่นำเสนอเบาะนั่งสีขาวมีเส้นสีขาวที่ขอบของตัวเบาะ ที่จับประตูมีรูปทรงเหมือนเปลือกหอย วัสดุ Alcantara ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับห้องโดยสาร เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง จุด รองรับบั้นเอวปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมหน่วยความจำ ระบบระบายอากาศ และระบบทำความร้อน เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ติดตั้งระบบระบายอากาศและระบบทำความร้อนในตัว ส่วนระบบแอร์ ใช้ระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซน พร้อมปั๊มความร้อนที่นำพลังงานความร้อนทิ้งกลับมาใช้ใหม่ เพื่อลดการใช้พลังงาน นอกจากนี้ยังมีกรองอากาศ PM 2.5 และซันรูฟแบบพาโนรามา เซนเซอร์วัดแสงเพื่อปรับความโปร่งใสโดยอัตโนมัติ

...

...

แดชบอร์ดที่โฉบเฉี่ยว ช่องแอร์กว้างและโค้งมน, จอแสดงผล W-HUD, แผงหน้าปัดดิจิตอล ขนาด 10.25 นิ้ว, คอนโซลกลางแบบสะพานเชื่อมต่อกับแดชบอร์ด กุญแจดิจิทัล NFC กาบข้างประตูตราสัญลักษณ์ BYD แท่นชาร์จโทรศัพท์ Qi และระบบเสียง Dynadash 

Seal ติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนท์หน้าจอสัมผัสสไตล์แท็บเล็ต ขนาด 15.6 นิ้วที่ปรับตามแนวตั้งหรือแนวนอนได้ตามความต้องการ ระบบเชื่อมต่อสื่อสาร 5G รวมถึงระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ DiLink ของ BYD สามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นที่เหมือนสมาร์ทโฟนในระบบอินโฟเทนเมนท์

แพลตฟอร์ม BYD e-Platform 3.0 รองรับมอเตอร์และแบตเตอรี่พร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลัง RWD แบบมอเตอร์เดี่ยว หรือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD แบบมอเตอร์คู่ แพลตฟอร์ม 3.0 ใช้แบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อร่นเวลาในการชาร์จให้สั้นลง 

ระบบกันสะเทือนแบบดับเบิลวิชโบนปีกนกคู่ที่ด้านหน้าและระบบกันสะเทือนแบบอิสระมัลติลิงก์ที่ด้านหลัง แม้จะเล็กกว่า Han EV แต่ Seal ก็มีระยะฐานล้อเท่ากันกับ Han จากการใช้แพลตฟอร์มไฟฟ้าร่วมกัน ขนาดที่เล็กกว่าจะช่วยเพิ่มความคล่องแคล่วในเมือง

Seal เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ BYD ที่มีเทคโนโลยีแบตเตอรี่ CTB (cell-to-body) การประกอบแบตเตอรี่เข้ากับตัวรถ ทำให้สามารถใช้โครงสร้างแบบแซนด์วิช ฝาปิดด้านบนของชุดแบตเตอรี่จะรวมเข้ากับพื้นของตัวรถ CTB เพิ่มความแข็งแกร่งและต้านทานแรงบิดตัวขึ้นอีก 100% ที่ 40,000+ Nm/° มีการเพิ่มความสูงของแชสซี ซึ่งหมายความว่าลดโอกาศที่ชุดแบตเตอรี่จะได้รับความเสียหายจากการกระแทก 

ตัวเลือกความจุของแบตเตอรี่สองแบบสำหรับ BYD Seal ในประเทศจีน : เริ่มจาก 61.4 kWh และ 82.5 kWh กำลังการชาร์จไฟกระแสตรง (DC) ที่ 110 กิโลวัตต์ หรือ 150 กิโลวัตต์ ชาร์จ 30-80% ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที

BYD Seal Standard Range RWD ชุดแบตเตอรี่ขนาด 61.4 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ใน Seal RWD ขับเคลื่อนล้อหลังแบบมอเตอร์เดี่ยว กำลัง 150 กิโลวัตต์ (201 แรงม้า) ซึ่งชาร์จเต็มทำระยะทางได้ 550 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ใน 7.5 วินาที รองรับการชาร์จไฟ DC ที่ 110 กิโลวัตต์ ชาร์จจาก 30 ถึง 80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที คาดว่าราคาของ Seal รุ่นเริ่มต้น ไม่น่าจะเกิน 1,500,000 บาท

BYD Seal Long Range RWD ชุดแบตเตอรี่ขนาด 82.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง RWD แบบมอเตอร์เดี่ยว กำลัง 230 กิโลวัตต์ หรือ 308 แรงม้า ชาร์จเต็มวิ่งไกล 650 กิโลเมตร สำหรับราคาของ Seal รุ่นกลางขับเคลื่อนล้อหลังที่วิ่งไกลเอาเรื่อง น่าจะมีราคาประมาณ 1,600,000 บาท 

BYD Seal Long Range AWD Performance แบบมอเตอร์คู่ กำลัง 390 กิโลวัตต์ หรือ 523 แรงม้า แรงบิด 670 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ 82.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำความเร็ว จาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ชาร์จเร็ว DC สูงสุด 150 กิโลวัตต์ เติมไฟ 30-80% ใช้เวลาเท่าเดิมที่ 30 นาที สำหรับรุ่นสูงสุด 523 แรงม้า แรงบิดของมอเตอร์คู่ทะยานไปถึง 670 นิวตันเมตร น่าจะมีราคาไม่เกิน 1,700,000 บาท

Seal เป็นรถยนต์คันแรกของ BYD ที่ใช้เทคโนโลยี iTAC ใหม่ ย่อมาจาก “Intelligence Torque Adaption Control” ระบบนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้มีแรงฉุดลากมากกว่า พร้อมการทำงานของระบบควบคุมเสถียรภาพที่ใช้เซนเซอร์ในล้อ เพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงความเร็วและมีการเบรกเพื่อแทรกแซงเมื่อเกิดความจำเป็น เซนเซอร์ความเร็วล้อจะแบ่งการทำงานแต่ละรอบของล้อออกเป็น 32 หรือ 48 บิต ใน iTAC วงล้อของแต่ละมุมสามารถแบ่งออกเป็น 4,096 บิต ซึ่งหมายความว่าความเร็วและความแม่นยำของข้อมูลที่รวบรวมจะสูงขึ้นอย่างมาก iTAC สามารถปรับการส่งแรงบิดของมอเตอร์แบบเรียลไทม์ ส่งแรงบิดบางส่วนหรือทั้งหมดไปยังล้อทั้งสี่ เพื่อเพิ่มการยึดเกาะ เมื่อ BYD ถูกทดสอบบนหิมะ พบว่าระบบ iTAC สามารถเร่งความเร็วจาก 0-60 กม./ชม. (0-97 ไมล์/ชม.) ได้เร็วขึ้น 0.7 วินาที นอกจากนี้ เมื่อขับแบบดริฟต์ Seal ก็ไม่ต้องการการแก้ไขทิศทางของพวงมาลัยมากเกินไป

การเร่งความเร็วจากจุดหยุดนิ่งแบบเต็มกำลังใน Seal รุ่น AWD ปราศจากการลื่นไถลของล้ออย่างสิ้นเชิง Seal มีความนิ่งเมื่อออกสตาร์ตด้วยการกดคันเร่งลงจนสุด ชุดส่งกำลังไฟฟ้า รักษาระดับแรงบิดนั้นไว้จนถึงตัวเลขสามหลัก (0-100) ประสิทธิภาพการเบรกทำได้ดี ด้วยระยะที่ครอบคลุมเพียง 35.9 เมตร เมื่อหยุดที่ความเร็ว 100 กม./ชม. จนถึง 0 ห้องโดยสารเก็บเสียงดีและเงียจนทำให้ประทับใจ 

BYD SEAL ราคาไทย

ราคาของ BYD Seal RWD รุ่นเริ่มต้นอยู่ที่ 189,800 หยวน (26,812 ดอลลาร์สหรัฐ) หรือ 935,000 บาท (ยังไม่รวมภาษี) รุ่นสูงสุด AWD  มีราคา 279,800 หยวนจีน (39,525 ดอลลาร์สหรัฐ) หรือคิดเป็นเงินไทยยังไม่รวมอัตราภาษีจะอยู่ที่ 1,374,000 บาท คาดเดาว่า ราคาตอนเปิดตัวในไทยน่าจะไม่เกิน 1,500,000 - 1,700,000 บาท 

Seal เป็นรถคู่แข่งของ Tesla Model 3  ผลิตในโรงงานที่เมืองฉางโจว (มณฑลเจียงซู) ประเทศจีน BYD กับโรงงานขนาดยักษ์ สามารถผลิตรถซีดานไฟฟ้ารุ่นใหม่ได้ 15,000 คันต่อเดือน หรือ 180,000 คันต่อปี

นักวิเคราะห์คาดว่า Seal จะสร้างกระแสด้านการใช้งานที่มีประสิทธิภาพและความสะดวกสบายในการขับเคลื่อนทั้งในเมืองและทางไกล สำหรับการเปิดตัวในไทยน่าจะมาถึงในช่วงเดือนกันยายนนี้.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/