Lexus นำรถยนต์ไฟฟ้าสุดหรู รุ่น RZ 450e เข้ามาทำตลาดในไทย โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2023 ยานยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่นี้ เป็นครอสโอเวอร์ขนาดใหญ่ที่มีมิติตัวถังใกล้เคียงกับ RX ครอสโอเวอร์รุ่นเรือธง รวมถึงฝาแฝดรุ่นน้องอย่าง Toyota bZ4X สำหรับ RZ 450e ถูกวางตัวอยู่ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าหรูของอเมริกาและยุโรป เช่น Tesla Model Y, Mercedes EQC และ BMW iX3
...
Lexus RZ 450e ถูกเปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้วในอเมริกา ในฐานะผลิตภัณฑ์ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทแม่อย่าง Toyota ซึ่งมีการประกาศเปิดตัวรถยนต์แนวคิดพลังงานไฟฟ้าใหม่มากถึง 11 รุ่น เนื่องจากทั้งสองแบรนด์ กำลังมีการปรับเปลี่ยนไปสู่ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบภายในปี 2030 สำหรับราคาของ Lexus RZ 450e อยู่ที่ 4.3 ล้านบาท - 4.7 ล้านบาท คาดว่า รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ของแบรนด์หัวลูกศร จะติดอันดับต้นๆ ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ครอสโอเวอร์ของแบรนด์ Lexus ด้วยราคาเริ่มต้นประมาณ 3,870,000 บาท (รุ่น Luxury)
RZ 450e เกรด Luxury 3,870,000 บาท
RZ 450e เกรด Premium 4,190,000 บาท
RZ 450e มีความคล้ายคลึงกับ Lexus RX อย่างมาก แม้ว่าจะมีการออกแบบกระจังหน้าแบบตัดเรียบที่อยู่ระหว่างไฟหน้าคู่ทำมุมทแยงอย่างดุดัน มีแนวหลังคาที่คล้ายกับ Lexus NX 2022 โดยเฉพาะการออกแบบตัวถังด้านข้างและส่วนท้าย RZ หุ้มตัวถังบริเวณโพรงซุ้มล้อด้วยพลาสติกสีดำและสเกิร์ตข้าง ด้านหลังใช้ทรงของไฟท้ายแบบเดียวกับ NX ดีไซน์สปอร์ตช่องเหลี่ยมมุมที่นำไปสู่สปอยเลอร์สไตล์ 'หางเป็ด' ขนาดเล็ก แถบไฟท้าย LED แบบเต็มความกว้าง เชื่อมต่อไฟท้ายทั้งสองข้างด้วยเส้นไฟ LED เรียวเล็กและบางเฉียบ
...
รถยนต์ EV รุ่นที่สอง ต่อจาก Lexus UX Electric แชร์แพลตฟอร์มกับ Toyota bZ4X ของพี่โต ซึ่งหมายความว่า Lexus RZ 450e จะได้รับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ขนาด 75.0 kWh และระบบส่งกำลังสองมอเตอร์ กำลังถูกปรับเพิ่มเป็น 313 แรงม้า (230 กิโลวัตต์) เช่นเดียวกับ bZ4X ของ Toyota การติดตั้งแบตเตอรี่ชุดนี้ ทำให้ RZ 450e มีระยะทางสูงสุดเกือบๆ 500 กิโลเมตร และประสิทธิภาพที่หนักหน่วงด้านอัตราเร่ง ที่ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.6 วินาที
...
...
มิติตัวถัง มีขนาดความยาว 4,805 มิลลิเมตร กว้าง 1,895 มิลลิเมตร สูง 1,635 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,850 มิลลิเมตร หนัก 2,296 กิโลกรัม
ความแตกต่างอื่นๆ จากพี่น้อง Toyota จะรวมถึงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อใหม่ที่เรียกว่า DIRECT4 การตั้งค่านี้จะตรวจสอบกำลังที่ส่งไปยังล้อแต่ละล้อ และทำการปรับเปลี่ยนโดยอัตโนมัติ ตามอินพุตของพวงมาลัยและความเร็วรวมถึงสภาพถนน Lexus กล่าวว่า เทคโนโลยีดังกล่าวช่วยให้ RZ 450e สามารถสลับไปมาระหว่างระบบขับเคลื่อนด้านหน้า ด้านหลัง หรือสี่ล้อได้ใน "ชั่วพริบตา" RZ 450e จะได้รับการติดตั้งเทคโนโลยี Steer-by-wire โดยไม่มีกลไกเชื่อมโยงระหว่างพวงมาลัยและล้อหน้า Lexus กล่าวว่าระบบนี้ตอบสนองได้ดีกว่าระบบบังคับเลี้ยวแบบเดิม และทำให้รถมีวงเลี้ยวแคบ ทำให้กลับรถได้ง่ายขึ้น
ศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ Lexus Group บริษัท Toyota Motor Thailand แนะนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด The New All-Electric Lexus RZ (อาร์-ซี) พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าหรู ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์หัวลูกศร เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ระบบความปลอดภัยครบครัน
ศุภกร รัตนวราหะ กล่าวในการแถลงข่าวเปิดตัวรถรุ่นใหม่ว่า “นับตั้งแต่ที่ Lexus ทำตลาดในประเทศไทย เรามุ่งเน้นในเรื่องของการพัฒนารถพลังงานทางเลือกมาโดยตลอด ตั้งแต่การแนะนำ SUV หรู ที่เป็นระบบไฮบริดอย่าง “RX 400h” ครั้งแรกในปี 2005 ภายใต้ วิสัยทัศน์ “Lexus Electrified” เพื่อตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่าง Lexus มีการนำเสนอตัวเลือกพลังงานขับเคลื่อนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์พลังงานผสมไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า 100% โดยมีเป้าหมายในอนาคตเพื่อแนะนำรถไฟฟ้าทุกประเภท ภายในปี 2030 และวางแผนงานขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% ทั่วโลก ภายในปี 2035 เพื่อมุ่งสู่องค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 ปัจจุบันรถยนต์ LEXUS Electrified มียอดขายทั่วโลก กว่า 2 ล้านคัน ช่วยลดการปล่อย CO2 กว่า 19 ล้านตันทั่วโลก”
“ในวันนี้ ผมขอแนะนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด กับ The New All-Electric Lexus RZ (อาร์-ซี) ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง แต่ยังคงความสุนทรีย์ ในแบบเฉพาะตัวของเลกซัสไว้อย่างครบถ้วน พิสูจน์ได้จากหนึ่งในคุณสมบัติพื้นฐานของรถยนต์ Lexus ทุกคัน นั่นคือ Lexus Driving Signature หรือประสบการณ์การขับขี่ อันเป็นเอกลักษณ์ เป็นผลมาจากเทคโนโลยีโครงสร้างตัวถังแบบ e-TNGA ที่พัฒนาขึ้นอย่างประณีต รวมถึงการวางตำแหน่งแบตเตอรี่ไฟฟ้าที่เหมาะสม ทำให้ได้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ประกอบกับ DIRECT4 AWD ใน LEXUS RZ ช่วยกระจายแรงขับให้ล้อหน้า และล้อหลัง ตามสภาวะการขับขี่ ตอบสนองอย่างเฉียบคมทุกการสั่งการ ในทุกการขับขี่ ทั้งขณะเหยียบคันเร่ง บังคับพวงมาลัย และลดความเร็ว ผมเชื่อมั่นว่าทุกท่านจะได้รับความรู้สึกที่พิเศษ เมื่อได้ขับ LEXUS RZ”
แนวคิดในการออกแบบ "Seamless E-Motion" สะท้อนความพลิ้วไหว ในแบบของรถยนต์ไฟฟ้า และกระจังหน้าใหม่ภายใต้แนวคิดแบบ Spindle Body ผสมผสานศิลปะการออกแบบเข้ากับเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย ด้านหลังเน้นความเรียบง่าย เส้นไฟ LED ที่ลากยาว ภายในห้องโดยสาร ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความรู้สึกเชื่อมต่อกับธรรมชาติ หลังคากระจกพาโนรามา พร้อมฟังก์ชันปรับลดแสงอัตโนมัติ ช่วยให้ภายในห้องโดยสารดูโอ่โถง โปร่งสบาย และคอนโซลด้านหน้าถูกออกแบบภายใต้แนวคิด TAZUNA COCKPIT ที่เน้นให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ ควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้สะดวก
ระบบ ความปลอดภัย LEXUS Safety System Plus เช่น ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ ระบบป้องกันการเปิดประตู เมื่อมีรถวิ่งสวนมา Safe Exit Assist เลือกใช้วัสดุหุ้มเบาะ Ultra-suede ที่ผลิตจากพืช (Bio-based sustainable material) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังให้ผิวสัมผัสที่หรูหรา คล้ายกับหนังกลับคุณภาพสูง ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ พร้อมระยะทางการขับที่เพียงพอต่อการใช้งานจริง ยแบตเตอรี่ 71.4 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรงถึง 80% ภายในเวลาครึ่งชั่วโมง ให้กำลังรวมทั้งระบบ 308 แรงม้า โดยมีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.3 วินาที มาพร้อมการรับประกัน แบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร
The New All-Electric Lexus RZ
Lexus เป็นผู้บุกเบิกรถยนต์ลักชัวรีครอสโอเวอร์รายแรกของโลก ตั้งแต่การเปิดตัว Lexus RX ครั้งแรกในปี 2005 และได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ด้าน สำหรับ Lexus RZ รุ่นใหม่ ทีมวิศวกร และนักออกแบบมุ่งถ่ายทอดการขับขี่ที่เพลิดเพลินออกมาเป็นดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และมีสัดส่วนที่สะกดสายตา กระตุ้นให้รู้สึกมีชีวิตชีวา กระจังหน้าทรง Spindle Grill เอกลักษณ์ของ Lexus ออกแบบใหม่ให้เป็นตัวถังแบบ Spindle Body ผสมผสานศิลปะการออกแบบ เข้ากับเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย บังโคลนหน้ารูปทรงสามมิติที่โอบรับมาถึงกึ่งกลางตัวถังทั้งสองด้าน โคมไฟหน้าพร้อมไฟสูง-ต่ำโปรเจกเตอร์เดี่ยวแบบ Bi-AHS (Adaptive High-beam System) กระจายแสงได้อย่างทั่วถึง และชัดเจน พร้อมไฟเลี้ยวรูปทรงตัว L ของไฟ DRL (Daytime Running Light) ไฟท้ายทอดตัวยาวตลอดแนวขวางเป็นเส้นเพรียวบาง
แผงตกแต่งภายในรถยนต์ แผงควบคุมจัดวางในระดับต่ำไม่รบกวนสายตา และแผงคอนโซลระหว่างเบาะนั่งคู่หน้าดูเรียบง่าย โปร่งโล่งสะอาดตา พร้อมสัมผัสที่ละเมียดละไมแบบ Omotenashi ด้วยเบาะหนัง Ultrasuede นุ่มสบาย พื้นผิวลายไม้ประณีต พื้นที่ภายในห้องโดยสาร ฐานล้อที่ยาวขึ้นทำให้พื้นที่บริเวณเบาะหลังกว้างขวาง มีระยะห่างระหว่างตำแหน่งนั่งด้านซ้าย และขวาถึง 39.3 นิ้ว ตัวถังที่หลังคาด้านท้ายยกขึ้นสูง เพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะ หลังคาพาโนรามา ตั้งแต่เหนือเบาะคู่หน้าไปถึงเบาะคู่หลัง ให้ความรู้สึกเปิดกว้าง หน้าจอสัมผัสบริเวณกลางคอนโซล พร้อม Apple CarPlay แบบไร้สาย ขนาด 14 นิ้ว สั่งการฟังก์ชันได้หลากหลาย ด้วยสวิตช์ในจอ ใช้งานได้เป็นธรรมชาติ ด้วยการออกแบบที่ละเอียดรอบคอบ ทั้งขนาด รูปทรง องศาของจอ ตำแหน่งการติดตั้ง รูปแบบการแสดงข้อมูล และความถี่ในการเรียกใช้ฟังก์ชันต่างๆ
ตำแหน่งการนั่งขับ ภายในแนวคิดแบบ Tazuna Cockpit ความหมายของ Tazuna คือการควบคุมบังเหียนม้า เป็นการวางตำแหน่งให้ผู้ควบคุมนั่งอยู่บริเวณกึ่งกลางของทุกสิ่ง วางทุกอย่างให้โอบล้อมผู้ขับสามารถเอื้อมใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ พวงมาลัยมาพร้อมกับสวิตช์ที่เชื่อมต่อหน้าจอ Head-up Display* ทำให้ผู้ขับมีสมาธิ สามารถควบคุมการนำทาง และเสียง ไปจนถึงฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
หน้าจอ Head-up Display แบบสี แสดงผลโดยฉายข้อมูลไปยังบริเวณด้านล่างของกระจกหน้ารถ เน้นแสดงข้อมูลสำคัญในการขับขี่ให้อยู่ตรงกับมุมมองของผู้ขับขณะขับรถได้อย่างพอดี โดยไม่รบกวนการมองถนน และสภาพรอบรถ พร้อมเลือกโหมดการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ ปุ่มควบคุมพวงมาลัยแบบสัมผัส ปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยมีเซนเซอร์จับตำแหน่งของนิ้วมือว่าผู้ขับกำลังวางนิ้วมืออยู่บนปุ่มใด โดยแสดงแผนผังของปุ่ม และตำแหน่งนิ้วมือบนหน้าจอ Head-up Display เพื่อให้ผู้ขับเลือกกดปุ่มต่างๆ ได้โดยไม่ต้องก้มมองพวงมาลัย
มาตรวัด รายละเอียดต่างๆ บนจอถูกออกแบบมาให้อยู่ในตำแหน่งที่อ่านได้ง่ายในขณะขับขี่ ข้อมูลทั้งหมดแม่นยำเชื่อถือได้ นอกจากนั้นยังมาพร้อมจอแสดงผลระบบนำทางแบบต่อเนื่องซึ่งจะคำนวณเวลาโดยประมาณที่จะไปถึงจุดหมาย รวมทั้งบอกสถานะของระบบช่วยขับ และระยะทางในการขับขี่
การตกแต่งด้วยมิติของแสง และเงา สวยงามอย่างแตกต่าง ด้วยการใช้แสง และเงาตกแต่งแผงประตู สร้างมิติที่แตกต่างกันขณะที่ประตูเปิด และปิด เพิ่มความรู้สึกลุ่มลึก และมอบความพิเศษให้ห้องโดยสาร ปุ่มควบคุมเกียร์แบบหมุน ติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง เปลี่ยนเกียร์ได้สะดวกสบายด้วยการกดและหมุนไปตามตำแหน่งที่ต้องการ สั่งการด้วยระบบ Shift-by-Wire ให้ความรู้สึกมั่นคง และแม่นยำ พร้อมมอบเอกลักษณ์แบบรถไฟฟ้า BEV อย่างแท้จริง
แสงสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร ดีไซเนอร์ของ Lexus อาศัยแรงบันดาลใจจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามมาสร้างเป็นธีมสีสำหรับสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารทั้งหมด 14 ธีม โดยแสงไฟจะเรืองออกมาจากบริเวณคอนโซลอย่างนุ่มนวลสบายตา นอกจากนั้นหน้าจอแสดงผลกลางคอนโซลยังสามารถเลือกเปลี่ยนสีได้อีกถึง 50 สีอีกด้วย
พลังงานขับเคลื่อนไฟฟ้า Lexus Driving Signature
หนึ่งในคุณสมบัติพื้นฐานของรถยนต์ Lexus ทุกคันคือ Lexus Driving Signature หรือประสบการณ์การขับขี่ที่ตั้งใจปรับแต่งให้รู้ใจผู้ขับ ควบคุมได้ตามใจปรารถนา ตอบสนองอย่างเฉียบคมทุกการสั่งการ ทั้งขณะเหยียบคันเร่ง บังคับพวงมาลัย และลดความเร็ว เมื่อนำคุณสมบัติเหล่านี้มาผนวกกับเทคโนโลยีของยานยนต์ไฟฟ้าที่ Lexus พัฒนาขึ้นอย่างประณีต จะได้รับความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ เมื่อขับ RZ ทั้งจากการควบคุมแรงบิดของมอเตอร์ด้วยความแม่นยำ การวางตำแหน่งมอเตอร์ และแบตเตอรี่ไฟฟ้าที่เหมาะสม ส่งผลให้รถมีการกระจายน้ำหนักที่สมดุล ตอบสนองได้อย่างฉับไว การส่งกำลังแบบ DIRECT4 AWD (ขับเคลื่อนสี่ล้อ) กระจายแรงขับให้ล้อหน้า และล้อหลังได้ตามสภาพการขับขี่
DIRECT4 ควบคุมการกระจายแรงขับโดยประมวลข้อมูลจากความเร็วล้อ การเร่ง และเซนเซอร์องศา
พวงมาลัย เพื่อปรับอัตราการกระจายแรงขับระหว่างล้อหน้า และล้อหลังให้อยู่ระหว่าง 100:0 และ 20:80 (ล้อหน้า:ล้อหลัง) ช่วยให้รถออกตัวได้อย่างปราดเปรียว เพิ่มเสถียรภาพในการควบคุมรถ และลดการใช้พลังงาน รวมทั้งยังช่วยให้ผู้ขับ และผู้โดยสารไม่ต้องเปลี่ยนมุมมองไปมาโดยไม่จำเป็นขณะรถเคลื่อนตัว จึงลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่และเพิ่มความสบายในการโดยสาร เมื่อออกตัวขณะจอดหรือทำความเร็วในทางตรง ระบบ DIRECT4 จะช่วยให้ทะยานไปข้างหน้าได้อย่างเฉียบคม ขณะเข้าโค้งระบบจะปรับการจ่ายกำลังขับเพื่อช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นคง รวมทั้งเพลิดเพลินกับสมรรถนะการเข้าโค้งที่นุ่มนวล
การควบคุมการทรงตัวขณะเบรก ระบบเบรกของ RZ ควบคุมไฮดรอลิกด้วยไฟฟ้า แยกอิสระจากกันทั้ง 4 ล้อ และประสานการป้อนกำลังไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ไฟฟ้าจากการเบรกของล้อหน้า และล้อหลังได้อย่างราบรื่น ส่วนระบบควบคุมการทรงตัวขณะเบรกจะช่วยเพิ่มความมั่นใจ ผ่านการควบคุมเบรกที่ไปตามแรงกดของเท้าอย่างแม่นยำ รวมทั้งเพิ่มความรู้สึกมั่นคงผ่านการกระจายแรงเบรกระหว่างล้อหน้า และล้อหลังที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้รถยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้น การที่ระบบช่วยควบคุมรถให้นิ่งยังช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องส่ายสายตาไปมา จึงควบคุมรถได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นอีกด้วย
ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ (BEV) ให้สมรรถนะที่ทรงพลังพร้อมระยะทางการขับที่เพียงพอต่อการใช้งานจริง ขับเคลื่อนด้วยระบบ 4 ล้อไฟฟ้าโดยใช้เพลาขับไฟฟ้า eAxles ทั้งกับล้อคู่หน้า และคู่หลัง และพละกำลังจากแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนความจุสูงที่มาพร้อมระบบหล่อเย็นที่มีประสิทธิภาพ เพลาขับไฟฟ้า eAxles ของ RZ เป็นการควบรวมทั้งมอเตอร์ เพลาส่งกำลังไฟฟ้า และตัวแปลงไฟเข้าด้วยกันเป็นหน่วยเดียว มีขนาดกะทัดรัดเพื่อลดน้ำหนัก เพิ่มระยะทางวิ่งต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และเอื้อพื้นที่ให้ห้องโดยสาร รวมทั้งดีไซน์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยว เพลา eAxle ที่ล้อหน้าประกอบอยู่ในกล่องทรงสั้นวางตัวตามแนวยาว ส่วนที่ล้อหลังติดตั้งอยู่ต่ำเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้ห้องโดยสาร และที่เก็บสัมภาระท้ายรถ
แบตเตอรี่ไฟฟ้าแม้จะมีขนาดใหญ่แต่ถูกออกแบบให้เป็นส่วนเดียวกับโครงสร้างตัวถัง จึงช่วยดึงจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถให้ต่ำ เพิ่มความแข็งแรงของตัวถัง และยังเพิ่มพื้นที่ให้ห้องโดยสาร พร้อมด้วยระบบหล่อเย็นที่ติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม ทำให้ทำความเย็นได้ดีเยี่ยม และยังช่วยด้านความปลอดภัย เพิ่มประสิทธิภาพในการให้กำลัง และการ ชาร์จไฟ รวมทั้งยืดอายุแบตเตอรี่ให้ยาวนาน ส่วนระบบทำความร้อนให้แบตเตอรี่ช่วยให้ชาร์จไฟได้รวดเร็วท่ามกลางอากาศหนาวเย็น
สำหรับการชาร์จไฟ ชุดชาร์จไฟของ RZ ติดตั้งมาพร้อมตัวรถ มาพร้อมมาตรวัดระดับการชาร์จ ไฟแจ้งสถานะการชาร์จ ระบบล็อกฝาปิดช่องชาร์จขณะจอด และระบบล็อกหัวชาร์จติดกับช่องชาร์จเพื่อการชาร์จที่ปลอดภัยสำหรับทั้งไฟกระแสตรง (DC) และกระแสสลับ (AC) นอกจากนั้นยังมีโหมด My Room สำหรับเปิดใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่นระบบปรับอากาศและเครื่องเสียงในขณะชาร์จไฟรถ โดยไม่ต้องกังวลว่าไฟในแบตเตอรี่จะหมด โหมดมายรูมไม่สามารถใช้งานได้ขณะชาร์จแบบ V2H หรือชาร์จด้วยแหล่งพลังงาน V2H
การชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ช่องเสียบหัวชาร์จแบบ DC เป็นแบบควิกชาร์จ ติดตั้งอยู่ที่บังโคลนหน้าด้านซ้าย รองรับกำลังไฟได้สูงสุดถึง 150kW จึงชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็ว
การชาร์จด้วยไฟกระแสสลับ (AC) ช่องเสียบหัวชาร์จแบบ AC ติดตั้งอยู่ที่บังโคลนหน้า สามารถเสียบสายชาร์จเข้ากับปลั๊กไฟบ้านที่ใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ หรือเสียบกับแท่นชาร์จไฟกระแสสลับแล้วชาร์จไฟเข้ารถได้ตามปกติ สามารถตั้งเวลาการชาร์จไฟอัตโนมัติได้ 2 รูปแบบคือ ตั้งเวลาเริ่มชาร์จ ระบบจะเริ่มชาร์จไฟตามเวลาที่กำหนด หรือตั้งเวลาที่จะออกเดินทาง ระบบจะชาร์จไฟให้เต็มภายในเวลาที่กำหนด
ความแข็งแกร่งของตัวถังรถ ข้อต่อ และจุดเชื่อมของโครงสร้างตัวถังใช้การยึดด้วยสกรูว์และหมุดเลเซอร์ (Laser Screw Welding และ Laser Pinning Welding) เพื่อให้แข็งแกร่ง และช่วยเพิ่มความมั่นคงในการควบคุมรถรวมทั้งความสบายขณะโดยสาร และยังป้องกันการบิดตัวของกรอบประตูฝาท้ายโดยการใช้โครงสร้างแบบวงแหวนสองชั้นร่วมกับโฟมความแข็งแกร่งสูงอีกด้วย
ตัวถังน้ำหนักเบา ตัวถังของ RZ มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งสูง โดยเสาคู่หน้า คู่กลาง และรางคู่หน้าทำจากโครงสร้างชนิดผสมผสานที่นำโลหะแรงดึง 1.8GPa และ 1.5GPa มาทับซ้อนกันและเชื่อมเข้าด้วยกันขณะเป็นแผ่นเรียบ แล้วจึงนำมาปั๊มขึ้นรูปร้อนตามทรงที่ต้องการ ส่วนแกนกลางหลังคาใช้เหล็กแผ่นค่าความต้านทานแรงดึงสูง 1,470MPa ฝากระโปรงหน้าใช้อลูมินัมน้ำหนักเบา ประตู ซุ้มล้อ และวัสดุตกแต่งประตูฝาท้ายขึ้นรูปจากโฟมเรซินที่มีน้ำหนักเบาเช่นกัน
ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท และด้านหลังเป็นแบบปีกนกคู่พร้อมเทรลลิงอาร์ม ระบบกันสะเทือนหน้าใช้ตัวดูดซับแรงกระแทกชนิด FRD II ที่ปรับการรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแกนโช้คได้หลายระดับตามแต่ละสภาพพื้นผิวถนน ทั้งช่วยให้รถมีความมั่นคง ควบคุมได้ง่าย และยังนุ่มนวลนั่งสบายอีกด้วย ซึ่งการนำตัวดูดซับแรงกระแทก FRD มาใช้กับโครงสร้างที่ออกแบบมาเพื่อรถ BEV โดยเฉพาะทำให้เลกซัสสามารถคงเอกลักษณ์ของ Lexus Driving Signature เอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
อากาศพลศาสตร์ RZ ถูกออกแบบมาให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า BEV โดยกำเนิดการลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (ค่า Cd) จึงมีผลต่อระยะการวิ่งต่อการชาร์จหนึ่งครั้งโดยด้านบนหลังคาของ RZ มีสปอยเลอร์ที่ช่วยสร้างลมหมุนตามยาวเพื่อลดแรงลมต้านบนตัวถัง และลมขวาง ช่วยให้ตัวรถนิ่ง และมั่นคงขณะขับขี่ กึ่งกลางหลังคาออกแบบให้ไล่ลมจากกระจกหลังไปยังท้ายรถได้อย่างราบรื่น ที่ด้านท้ายมีสปอยเลอร์สั้น (duck tail) ที่คอยกระจายลมด้านท้ายอย่างสมดุลพร้อมทั้งกดท้ายรถให้นิ่งขณะใช้ความเร็ว ใต้ท้องรถปิดด้วยฝาครอบแบบเรียบเพื่อลดแรงต้านลม พร้อมรอยบุ๋มเพื่อสร้างลมหมุนขนาดเล็กใต้ท้องรถ ช่วยเพิ่มความรู้สึกเกาะถนน และเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ นอกจากนั้นฝากระโปรงหน้าที่อยู่ต่ำ และการไม่จำเป็นต้องมีช่องดักลมที่กระจังหน้า ยังช่วยให้อากาศพลศาสตร์ของ RZ มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เงียบสบาย พร้อมเสียงสังเคราะห์พิเศษจากเลกซัส
เพื่อความเงียบสูงสุด ห้องโดยสารของรถ Lexus ทุกคันต้องปราศจากเสียงรบกวนอันไม่พึงประสงค์ ความใส่ใจในทุกรายละเอียดของช่างทาคูมิ เพื่อสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบ ตั้งแต่การควบคุมการไหลของอากาศรอบๆ ตัวรถ เพื่อช่วยลดเสียงลมปะทะต่างๆ การวางแบตเตอรี่ไว้ที่พื้นรถเพื่อเพิ่มการดูดซับเสียงจากถนน ทำให้ห้องโดยสารของ RZ เงียบและมีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย การพูดคุยในรถ ระหว่าง คนขับ ผู้โดยสารเบาะหน้า และผู้โดยสารเบาะหลัง แม้ในขณะใช้ความเร็วสูงก็มีเสียงรบกวนจากภายนอกน้อยมาก
ความเงียบในห้องโดยสารส่วนหนึ่ง เกิดจากการวางตำแหน่งของแบตเตอรี่ หน่วยกักเก็บพลังงานไฟฟ้าของ RZ ถูกจัดวางไว้ใต้พื้นห้องโดยสารเพื่อดักเสียงรบกวนจากถนน พร้อมการอุดช่องโหว่ระหว่างฝากระโปรงรถ และตัวรถอย่างแน่นหนาเพื่อไม่ให้มีเสียงเล็ดลอดออกมา กระจกที่ประตูคู่หน้า และคู่หลังเป็นแบบอะคูลติกสะท้อนเสียงรบกวน เสริมด้วยยางขอบประตูแนวขวาง ช่วยกรุขอบกระจกให้ยิ่งเงียบสนิท รวมทั้งแทรกตัวซับเสียง และแรงสั่นสะเทือนไว้ในแผงหลังคา เคลือบโฟมที่ฐานของเสาคู่หน้า และคู่กลาง ติดตั้งตัวซับเสียงใต้บังโคลน และที่ช่องระหว่างฝากระโปรง และกระจกหน้า รวมทั้งใต้ฝากระโปรง และซุ้มล้อ ASC ระบบสร้างและควบคุมเสียงอัตโนมัติ ความเงียบสำหรับรถยนต์ไม่ใช่การปราศจากเสียงใดๆ ไปทั้งหมด เพราะผู้ขับยังคงต้องการสื่อสารกับรถในขณะขับขี่ วิศวกรของ Lexus ได้สร้างเสียงพิเศษให้กับห้องโดยสารเพื่อเพิ่มความสนุกเร้าใจในการขับขี่ เมื่ออยู่ใน Lexus RZ จะได้ยินเสียงที่เปลี่ยนไปตามความเร็วของรถ เพื่อให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติขณะใช้สมรรถนะ และความเร็ว รวมทั้งเสียงของระบบส่งกำลังที่ผ่านการปรับจูนให้รื่นรมย์ขณะขับขี่ เครื่องกระจายความอุ่น ติดตั้งอยู่ใต้คอพวงมาลัย และแผงหน้าปัดส่วนล่าง ช่วยเพิ่มความอุ่นให้บริเวณขาของผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า โดยจะปิดระบบอัตโนมัติ และลดอุณหภูมิลงทันทีเมื่อเกิดการสัมผัสจากผู้ใช้งาน ทำงานร่วมกับเครื่องทำความอุ่นบริเวณที่นั่ง และระบบปรับอากาศโดยไม่เพิ่มภาระให้การใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้า
ระบบควบคุมการปรับอากาศ ทำงานร่วมกับระบบปรับอากาศอัตโนมัติ โดยตรวจวัดอุณหภูมิจากจุดสัมผัสต่างๆ เช่นเบาะคู่หน้า พวงมาลัย และเบาะหลัง แล้วปรับอุณหภูมิแบบแยกอิสระ 3 โซนตามความเหมาะสม
หลังคากระจกพาโนรามา พร้อมฟังก์ชันปรับลดแสงอัจฉริยะ* เสริมบรรยากาศในห้องโดยสารให้โปร่งสบาย พร้อมกระจก Low-e ช่วยป้องกันความร้อนและรังสียูวีได้ 99% เพิ่มความสบายแม้ขณะอยู่กลางแดด ฟังก์ชันลดแสงจะทำงานโดยอัตโนมัติ จึงไม่จำเป็นต้องใช้ม่านบังแดด
ระบบกลอนประตูอัจฉริยะ e-latch สร้างโดยแรงบันดาลใจจากความสะดวกในการเลื่อนบานประตูกระดาษสาของชาวญี่ปุ่น เมื่อต้องการขึ้นรถ เพียงเอื้อมมือมาแตะสวิตช์ด้านในมือจับประตูนอกตัวรถ ประตูจะแง้มออกเพื่อให้คุณดึงเปิดได้ทันที และเมื่อต้องการลงจากรถก็เพียงกดสวิตช์ที่มือจับภายในรถพร้อมกับผลักประตูออกได้ในขั้นตอนเดียว ในกรณีที่ระบบไฟฟ้าไม่ทำงาน คุณสามารถดึงมือจับสองครั้งเพื่อเปิดด้วยวิธีปกติได้
แท่นชาร์จแบบไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟน ซ่อนอยู่ในกล่องเก็บของด้านหน้าคอนโซลกลาง เพียงวางโทรศัพท์หรืออุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จแบบไร้สายลงบนแท่นชาร์จ
พื้นที่เก็บของใต้คอนโซล เพิ่มพื้นที่สำหรับใส่คู่มือรถหรือวางของอเนกประสงค์ พร้อมทั้งเพิ่มพื้นที่วางขาให้แก่ผู้โดยสารข้างหน้า โดยคอนโซลที่พาดผ่านระหว่างที่นั่งคนขับ และผู้โดยสารช่วยเพิ่มความรู้สึกสะอาดตาและโล่งกว้าง
มีการสร้างอากาศที่สดชื่น ด้วย nanoeX ระบบปรับอากาศของ Lexus RZ มาพร้อมเทคโนโลยี nanoeX ที่มีตัวปล่อยประจุลบนาโนอี เพื่อช่วยฟอกอากาศในห้องโดยสาร เพิ่มความสดชื่นให้การเดินทาง
กล่องคอนโซลด้านหลัง ด้านหลังกล่องคอนโซลกลางติดตั้งช่องชาร์จ USB-C จำนวน 2 ช่อง DC12V และ AC ที่แผงด้านล่างของส่วนท้ายคอนโซล เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลเมื่อนั่งอยู่ที่เบาะด้านหลัง
ห้องเก็บสัมภาระ ให้พื้นที่กว้างขวางสำหรับรถยนต์ BEV โดยสามารถบรรจุถุงกอล์ฟเต็มขนาดได้ถึง 3 ใบ หรือกระเป๋าเดินทางขนาด 140 ลิตร และ 90 ลิตรพร้อมกันได้อย่างง่ายดาย การวางระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าในตำแหน่งที่เหมาะสมช่วยให้ RZ มีพื้นที่เก็บของเพียงพอต่อความต้องการ นอกจากนั้นม่านปิดห้องเก็บสัมภาระยังเปิด และปิดโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดหรือปิดฝาท้าย หรือสามารถถอดเก็บได้เมื่อต้องการบรรทุกของที่มีความสูง พร้อมให้ความสว่างด้วยไฟ LED บริเวณด้านข้างและที่ฝาท้าย
ความปลอดภัย
ระบบป้องกันก่อนการชน เมื่อเรดาร์ และเซนเซอร์ตรวจพบยานพาหนะ คนเดินเท้า หรือสิ่งแปลกปลอม ด้านหน้ารถ และประเมินว่าอาจเกิดการชน ระบบจะแจ้งเตือนคนขับด้วยเสียงสัญญาณและข้อความบนจอแสดงผล พร้อมเพิ่มแรงเบรกให้โดยอัตโนมัติ หรือหากระบบประเมินว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการชนกับยานพาหนะที่ใกล้เข้ามา ระบบจะส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ และเบรกให้โดยอัตโนมัติเพื่อบรรเทาความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ทุกช่วงความเร็ว) ระบบจะควบคุมความเร็วของรถตามที่ผู้ขับตั้งค่าโดยไม่ต้องเหยียบคันเร่ง และหากเรดาร์ และเซนเซอร์กล้องที่หน้ารถตรวจพบว่ามียานพาหนะอื่นๆ อยู่ด้านหน้า ระบบจะลดหรือเพิ่มความเร็วโดยอัตโนมัติเพื่อรักษาระยะห่างที่เหมาะสม
ระบบติดตามช่องทางการวิ่ง พร้อมระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน เมื่อเปิดใช้งานระบบจะช่วยรักษารถให้อยู่ในเส้นทางเพื่อความปลอดภัย โดยหากรถเริ่มเฉออกจากเลนหรือแนวถนนระบบจะส่งสัญญาณเตือนผู้ขับ และช่วยหน่วงพวงมาลัยเพื่อนรักษาแนวการวิ่งของรถ และหากขับขี่บนทางหลวงหรือทางเฉพาะรถยนต์โดยเปิดใช้ระบบ Dynamic Radar Cruise Control และใช้ความเร็วเต็มระดับที่ตั้งค่าไว้ ระบบ LTA จะช่วยสนับสนุนโดยควบคุมพวงมาลัยเพื่อรักษารถให้วิ่งอยู่
ระบบช่วยเปลี่ยนเลน ทำงานร่วมกับระบบ LTA เพื่อช่วยควบคุมการเลี้ยวขณะเปลี่ยนเลน พร้อมตรวจสอบยานพาหนะในเลนที่จะไป เริ่มทำงานเมื่อผู้ขับเปิดสัญญาไฟเลี้ยว และเมื่อเปลี่ยนเลนเรียบร้อยไฟเลี้ยวจะดับโดยอัตโนมัติ โดยจะทำงานเมื่ออยู่บนทางหลวง หรือเส้นทางเฉพาะรถยนต์ซึ่งมีเส้นแบ่งเลนชัดเจน
ระบบไฟหน้าปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้การขับขี่ตอนกลางคืน โดยคอยตรวจหาลำแสงจากไฟหน้าของรถที่แล่นสวนมา จากไฟท้ายของรถคันหน้า หรือจากแหล่งกำเนิดแสงไฟสูงของ Lexus RZ ระบบก็จะเลือกดับไฟ LED แต่ละดวงในชุดไฟสูงแต่ละข้าง เพื่อตัดแสงไม่ให้รบกวนสายตาของผู้ขับยานพาหนะคันอื่นๆบนถนน ระบบจะเปิดไฟสูงอีกครั้งเมื่อยานพาหนะที่แล่นสวนมา เคลื่อนออกจากรัศมีไฟสูง
ระบบไฟสูงอัตโนมัติ เพิ่มความสะดวกให้การเดินทางตอนกลางคืน ด้วยระบบไฟสูงอัตโนมัติที่จะสลับเป็นไฟต่ำให้เมื่อตรวจพบยานพาหนะคันอื่นที่ด้านหน้าหรือในเลนตรงข้าม และจะสลับกลับเป็นไฟสูงเมื่อยานพาหนะดังกล่าวเคลื่อนออกไป
ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ Lexus Teammate Advanced Park ช่วยให้จอดรถได้ง่ายขึ้นเมื่อเข้าจอดในที่พื้นที่เปิด เริ่มใช้งานโดยหยุดรถข้างจุดที่ต้องการจอดแล้วกดปุ่มเปิดระบบ พื้นที่จอดจะปรากฏขึ้นบนจอเพื่อยืนยัน เมื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมแล้ว ให้ผู้ขับกดปุ่ม “เริ่มจอด” แล้วปล่อยพวงมาลัย และถอนเบรก ระบบจะนำรถเข้าจอดให้เองโดยอัตโนมัติ โดยควบคุมทั้งพวงมาลัย คันเร่ง เบรก และเกียร์ พร้อมแสดงภาพมุมสูงเพื่อให้เห็นสภาพแวดล้อมโดยรวมของจุดจอด ตัวรถ และสิ่งกีดขวางต่างๆ และจะส่งสัญญาณเตือนพร้อมเบรกโดยอัตโนมัติเมื่อเข้าใกล้สิ่งกีดขวางที่อาจชนได้
ระบบตรวจสอบจุดอับสายตา BSM ช่วยให้เปลี่ยนเลนได้อย่างปลอดภัย โดยใช้เรดาร์บริเวณมุมกันชนท้ายตรวจสอบยานพาหนะในเลนข้าง ๆ ที่อยู่ในจุดอับสายตา และมองเห็นได้ยากจากกระจกมองข้าง พร้อมสั่นเตือน และส่งสัญญาณเตือนบนกระจกมองข้างด้านนั้นๆ
ระบบความปลอดภัยขณะเปิดประตู ทำงานร่วมกับระบบตรวจสอบจุดอับสายตา (BSM) เพื่อตรวจสอบว่ามียานพาหนะหรือจักรยานแล่นเข้ามาทางด้านหลังรถหรือไม่ หากพบจะส่งสัญญาณเตือนบนกระจกมองข้างด้านนั้นๆ เพื่อไม่ให้ผู้ขับหรือผู้โดยสารเปิดประตูออกไป หรือหากมีการพยายามเปิดประตู ระบบ e-Latch จะไม่เปิดให้พร้อมแสดงสัญญาณเตือนด้วยไฟกะพริบที่กระจกมองข้างและบนหน้าจอ
ระบบช่วยเบรกขณะถอยออกจากที่จอด PKSB ช่วยตรวจหาทั้งวัตถุคงที่รอบๆ รถและยานพาหนะรวมทั้งคนเดินเท้าที่กำลังเข้าใกล้ท้ายรถ 1 ได้ในวงกว้าง ขณะกำลังถอยออกจากที่จอด และหากตรวจพบระบบจะช่วยควบคุมทั้งเบรก และคันเร่ง เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และให้คุณถอยรถได้อย่างปลอดภัย
จอแสดงภาพรอบทิศทาง ประมวลข้อมูลจากกล้องบริเวณด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังของตัวรถ เพื่อแสดงภาพจำลองมุมสูง ช่วยให้เห็นสภาพแวดล้อมได้รอบคันรถ โดยเฉพาะจุดที่สังเกตเห็นได้ยากจากเบาะคนขับ เลือกการแสดงผลได้ 3 แบบคือ แบบ see-through มองทะลุตัวรถได้ แบบ side clearance ช่วยกะระยะ 2 ข้างของตัวรถ และแบบ cornering แสดงตำแหน่งรถขณะเลี้ยวรถในทางแคบ เพื่อป้องกันการชนสิ่งกีดขวาง
The All New Lexus RZ 450e
มอเตอร์ไฟฟ้าชนิด Synchronous Alternating current Motor (Permanent magnet type)
มอเตอร์หน้า กำลังสูงสุด 201 / 204 / 150 กิโลวัตต์/แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 226.3 นิวตัน-เมตร
มอเตอร์หลัง กำลังสูงสุด 107/ 109 / 80 กิโลวัตต์/แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 168.5 นิวตัน-เมตร
กำลังรวมทั้งระบบ 308 / 312 /230 กิโลวัตต์
แบตเตอรี่ไฮบริดชนิดลิเธียมไอออน
แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 355.2 โวลต์
ความจุแบตเตอรี่ 201 แอมแปร์/ชั่วโมง
จำนวนเซลล์แบตเตอรี่ 96 เซลล์
กำลังแบตเตอรี่ 71.4 กิโลวัตต์ /ชั่วโมง
รองรับหัวชาร์จ AC/DC (ด้านซ้ายหน้า) Type 2 (11kW) / CCS (150kW)
เวลาในการชาร์จประจุกระแสสลับ (AC) 6.5 ชั่วโมง
เวลาในการชาร์จประจุแบบเร็ว (DC) 30 นาที
สมรรถนะ
ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง
อัตราการเร่ง 5.3 กิโลเมตร/วินาที
ค่าเฉลี่ยมลพิษ Co2 0 กรัม/กิโลเมตร
ระยะทางสูงสุดโดยเฉลี่ย 470 กิโลเมตร* (*มาตรฐาน NEDC)
เลือกเป็นเจ้าของ The All New Lexus RZ 450e ได้ 6 สี
Sonic Quartz - Sonic Chrome
Sonic Iridium - Graphite Black Glass Flake
Sonic Copper - สีใหม่ Aether Metallic
สีภายใน RZ 450e 2 สี Hazel และ Grayscale รุ่น Luxury Grade (Synthetic leather)
และรุ่น Premium (Ultrasuede)
เป็นเจ้าของ The All New Lexus RZ 450e ทุกรุ่นวันนี้
ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
RZ 450e เกรด Luxury 3,870,000 บาท
RZ 450e เกรด Premium 4,190,000 บาท
Lexus RZ ทุกคัน มาพร้อมกับแพ็กเกจ Lexus LXP Standard เพิ่มความมั่นใจยิ่งกว่าด้วยการขยายการรับประกันรถยนต์ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และมั่นใจสูงสุดด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน นานถึง 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร
จอง Lexus RZ ผ่าน Lexus Online Booking ได้ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม ศกนี้ เวลา 15.00น. เป็นต้นไปที่ www.lexus.co.th
บริการ KINTO ONE บริการเช่ารถระยะยาวที่ ครอบคลุมทุกค่าใช้จ่าย สามารถเลือกระยะเวลา และระยะทางได้หลากหลาย โดยค่าบริการสำหรับ Lexus RZ เริ่มต้น 69,990 บาทต่อเดือน
สิทธิ์เป็นสมาชิก Lexus Club รวมทั้งสิทธิพิเศษจาก Lexus Privilege ผ่าน Mobile Application “Lexus Elite Club”
บริการ lexus service corner ในศูนย์บริการ Toyota ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ มาตรฐานLexus ทั้ง 15 แห่ง ทั่วประเทศ บริการ Home Visit Mobility Service โดยส่งช่างผู้เชี่ยวชาญของ Lexus เพื่อบริการลูกค้าทั่วประเทศ
Lexus Exclusive Package
Lexus Exclusive Package โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมบริการ Lexus Concierge Service เลขาส่วนตัว และ การช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงค่าบำรุงรักษารถยนต์ตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
STANDARD ครอบคลุมค่าแรงตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (50,000 บาท)
PLUS ครอบคลุมการบำรุงรักษารถยนต์ทั้งค่าแรงและค่าอะไหล่ตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (ยกเว้นอะไหล่เสื่อมสภาพ) (70,000 บาท)
PREMIUM ครอบคลุมการบำรุงรักษารถยนต์ทั้งค่าแรงและค่าอะไหล่ตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร รวมอะไหล่เสื่อมสภาพ (90,000 บาท)