เมื่อขายของแพงมานานก็ถึงเวลาที่จะต้องปล่อยตัวถูกออกมารองรับตลาดให้มีความครอบคลุม Tesla รุ่นที่มีราคาไม่แพงกำลังอยู่ในขั้นตอนของการวิจัยและพัฒนา โดยมีการคาดกันว่า New Model ของอีลอนจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทรงแฮตช์แบ็กที่มีระบบช่วยขับขั้นสูง แต่มีราคาที่พอรับได้ และถูกกว่า Model 3 สำหรับรถโมเดลใหม่ที่จะมีราคาถูกลง มีแนวโน้มที่จะได้รับการออกแบบในประเทศจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุด โมเดลใหม่จะมาพร้อมกับชุดแบตเตอรี่ LFP ราคาประหยัดและใช้งานได้ยาวนาน (คล้ายกับแบตเตอรี่ใน BYD Atto 3) และคาดว่าจะเปิดตัวหลังปี 2025
เดือนมิถุนายน พ.ศ.2564 Tesla ได้เปิดตัวสปอร์ตซีดานพลังงานไฟฟ้าสุดแรงอย่าง Model S Plaid เป็นรถยนต์ที่ผลิตในซีรีส์ S ซึ่งทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร็วที่สุด Model S Plaid กลายเป็นดาวจรัสแสงในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าระดับ Luxury และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ Tesla ตั้งใจที่จะผลักดันขีดจำกัดของรถยนต์ไฟฟ้าในระดับล่างสุด ไม่ใช่ในแง่ของการเร่งความเร็วและประสิทธิภาพของการทำระยะทาง แต่จะมีราคาที่ผู้คนส่วนใหญ่สามารถซื้อมาขับได้ เพื่อให้รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความแพร่หลายอย่างแท้จริง Tesla จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าด้วยราคา 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 25,000 ยูโร คิดเป็นเงินบาทเท่ากับ 941,700 บาท) ในทศวรรษนี้
...
อีลอน มัสก์ บอกกับสื่อมวลชนตะวันตกเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า Tesla มูลค่า 25,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 940,000 บาท จะยังไม่ถูกเปิดตัวในเร็ววันนี้จนกว่าจะมีการอัปเดตโครงการครั้งต่อไป นี่คือสิ่งอีลอนได้บอกกับนักข่าวเกี่ยวกับโครงการรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับตลาดมวลชนของ Tesla มีการเรนเดอร์ภาพรถยนต์ Tesla ขนาดกะทัดรัด ซึ่งจัดทำขึ้นโดยนักออกแบบยานยนต์และพวกที่มีจินตนาการเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกของ Tesla ซึ่งทั้งหมดนี้ยังไม่เป็นทางการ หรือเป็นรูปลักษณ์ที่จะถูกผลิตออกมาแต่อย่างใดทั้งสิ้น ยังคงมีการคาดเดาเกี่ยวกับเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนและแร่ธาตุที่จะใช้ในการผลิตแบตเตอรี่แบบใหม่อีกด้วย
ในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าราคาถูก Tesla คาดหวังกับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ในประเทศจีนมากกว่าที่อื่น จีนในฐานะศูนย์กลางของอนาคต สำหรับงานวิจัย พัฒนา และการผลิตในจำนวนมาก ด้วยค่าแรงที่ไม่แพงเท่าในอเมริกา หรือยุโรป ในระหว่างพิธีเปิดการประชุม World Internet Conference 2021 เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2564 อีลอน กล่าวว่า Tesla จะยังคงเพิ่มการลงทุนและความพยายามในการวิจัยและพัฒนาในสหรัฐอเมริกาต่อไป โดยมีศูนย์วิจัยและพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ในประเทศจีน งงกันมั้ยล่ะครับ
หลังจากเปิดโรงงาน Tesla Gigafactory Shanghai ในปี 2019 Tesla สร้างศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม Tesla Shanghai และศูนย์ข้อมูล Tesla Shanghai Super Factory ในปีที่ผ่านมา (2564) เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564 Tesla ประกาศว่า การสร้างศูนย์ R&D เสร็จสมบูรณ์ ศูนย์วิจัยรถใหม่ดังกล่าวใช้เครือข่ายที่เชื่อมโยงกับบริษัทแม่ในอเมริกา ศูนย์ R&D ของจีน จะมีหน้าที่พัฒนายานพาหนะไฟฟ้ารุ่นใหม่ ซึ่งรวมถึงการพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ ระบบอิเล็กทรอนิกส์แยกย่อย วัสดุน้ำหนักเบา ฯลฯ ศูนย์ข้อมูล Tesla ในจีน จะจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญ เช่น ข้อมูลการผลิตในโรงงาน การทดสอบประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อน และการวิจัยแบตเตอรี่ท่ีให้พลังงานได้มากยิ่งขึ้น แต่มีขนาดที่เล็กลง!
...
Tesla Model 2 ถูกตั้งเป้าที่จะทำให้การเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าของอีลอนนั้นง่ายขึ้น ด้วยราคาที่ถูกลง Tesla อาจจะไม่ใช้ชื่อ "Model 2" เพราะมันหมายถึงรุ่นที่เล็กกว่าของ Model 3 เพื่อทำตัวเป็นรถรุ่นที่ประหยัดกว่า เป้าหมายของ Tesla คือ รถยนต์ไฟฟ้ามูลค่า 9.4 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาท (ราคาในประเทศจีน) แต่โมเดล 3 กลับเป็นรถที่มีราคาแพง ท้ายที่สุดมันมีราคา $ 47k หรือประมาณ 1,770,000 บาท ในสหรัฐอเมริกา
...
Tesla Model 3 ลดขนาดลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยลดคุณสมบัติที่มีราคาแพงของ Model S รวมถึงอุปกรณ์ที่ยากต่อการผลิตและมีต้นทุนสูงอย่าง สวิตช์ ช่องระบายอากาศ คุณลักษณะหลายอย่างของ Model 3 ถูกทำให้ง่ายขึ้น หรือถูกถอดอุปกรณ์ที่มีราคาแพงออกทั้งหมด รวมถึงแผงหน้าปัด การแทนที่การควบคุมทางกายภาพบนหน้าจอ เช่น ปุ่มปรับกระจก ตัวควบคุมที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้า และอุปกรณ์ปลีกย่อยอื่นๆ อีกมากของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า เพื่อกดราคาค่าตัวให้ Model 3 ถูกลงกว่า Model S
การผลิตชิ้นส่วนอื่นๆ ถูกทำให้ง่ายขึ้นเพื่อลดความซับซ้อนและทำให้ต้นทุนลดลง ตัวอย่างบางส่วน ได้แก่ ระบบระบายอากาศแบบเรียบง่าย ปุ่มบนพวงมาลัย มือจับประตูภายในและภายนอก ที่ได้รับการออกแบบใหม่ เพื่อลดจำนวนชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว ย้อนกลับไปในปี 2016 เมื่อ Model 3 ถูกเปิดตัว ยังไม่ชัดเจนว่าคุณลักษณะใดจะเป็นมาตรการลดต้นทุนและคุณลักษณะใดเป็นการทำซ้ำคุณลักษณะดังกล่าว จะกลายเป็นมาตรฐานในการผลิต Teslas ทั้งหมดในอนาคตอันใกล้ นั่นก็คือเรียบง่าย มีประสิทธิภาพสูง และมีราคาที่หลากหลายมากกว่าเดิม
...
เมื่อเทสลาเปิดตัว Model S ใหม่ ในปี 2564 เห็นได้ชัดเจนว่าฟีเจอร์ใดที่อาจเป็นมาตรการลดต้นทุน คุณลักษณะต่างๆ ของ Model 3 ที่ถูกส่งต่อไปยัง Model S แล้วใช้การออกแบบใหม่ เช่น หน้าจอตรงกลางในแนวนอน ช่องระบายอากาศแบบต่อเนื่องหนึ่งช่อง ที่มีการควบคุมผ่านหน้าจอ แต่ไม่ใช่ทุกฟีเจอร์ที่ Tesla ทำสำเร็จ การลดต้นทุนเป็นสิ่งที่ทุกบริษัทต้องคำนึงถึง สิ่งเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นการประนีประนอม เพื่อสร้างยานพาหนะไฟฟ้า (Model 3) ที่ถูกกว่า เมื่อเทียบกับ Model S
ใน Model 3 ไม่มีระบบกันสะเทือนแบบถุงลม เบาะติดระบบปรับอากาศ จอภาพด้านหลัง หรือแผงหน้าปัด นอกจากนี้ยังมีหน้าจอตรงกลางที่เล็กกว่า การเก็บคุณสมบัติเฉพาะของซอฟต์แวร์ทั้งหมดไว้ เนื่องจากไม่ได้เพิ่มต้นทุนของรถมากนัก มีความเป็นไปได้ที่จำนวนลำโพงจะน้อยลง การถอดเบาะที่นั่งแบบปรับความร้อนที่ด้านหลังออก การถอดที่ชาร์จแบบไร้สายออกไป ไม่มีหลังคากระจก Panoramic Roof การถอดกล้อง หรือคอมพิวเตอร์ FSD นั้นไม่น่าจะเป็นความคิดที่ดีนัก เนื่องจากแพ็กเกจ FSD นั้นให้สร้างกำไรให้กับ Tesla จากคุณสมบัติด้านระบบความปลอดภัยที่อยู่ในฮาร์ดแวร์นั้นด้วย มีความเป็นไปได้ว่า Model 2 ของ Tesla จะเปลี่ยนเป็น Robotaxi ที่ถูกกล่าวถึงในงาน Giga Rodeo ก่อนหน้านี้ อีลอนเคยพูดคุยกับนักข่าวต่างประเทศ เกี่ยวกับการสร้างรถยนต์ที่ไม่มีพวงมาลัย หรือแป้นเหยียบ ซึ่งเหมาะสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอนาคต ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติโดยสมบูรณ์ หรือเต็มรูปแบบ
Tesla ในอนาคตจะใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอรอนฟอสเฟต แบตเตอรี่ LFP มีราคาถูกกว่าในการผลิต และมีข้อดีข้อเสียบางประการที่มีประสิทธิภาพมากกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับแบตเตอรี่นิกเกิล Tesla น่าจะใช้แบตเตอรี่ 4680 LFP สำหรับ Model 2 ซึ่งจะทำให้รถมีขนาดเล็กลงและเบาขึ้น แต่อาจทำระยะทางได้น้อยกว่า Model 3 เซลล์แบตเตอรี่ 4680 ของ Tesla ตั้งชื่อตามขนาด 46 มม. x 80 มม. แบตเตอรี่รุ่นดังกล่าวมีราคาถูกกว่าเมื่อขึ้นสู่ไลน์การผลิต มันจะให้พลังงานมากกว่า 5 เท่า ระยะใช้งานเพิ่มขึ้น 16% และพลังงานมากกว่า 6 เท่า ทำให้ประหยัดกว่าแบตเตอรี่แบบเดิมมาก การใช้แบตเตอรี่ 4680 คาดว่าจะทำระยะทาง 400-480 กิโลเมตร นั่นก็ถือว่าเป็นระยะทางที่สูสีกับ BYD Atto 3
เซลล์แพ็กที่มีโครงสร้าง 4680 ในตัวหล่อเพียงตัวเดียว เพื่อผลิตตัวเก็บประจุไฟฟ้าของ Model 2 ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด สายการผลิตแบตเตอรี่แบบใหม่จะใช้หุ่นยนต์ขั้นสูงเข้ามาช่วยในงานประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ของตัวแบตเตอรี่ ช่วยให้ Tesla ลดต้นทุนลง จากขนาดและการผลิตจำนวนมากในรถยนต์ที่มีราคาไม่แพง เดือนพฤษภาคม 2022 ในระหว่างการสัมภาษณ์ทางวิดีโอ ใน 'อนาคตของรถยนต์' จากสื่อ Financial Times อีลอน กล่าวกับนักข่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ Tesla จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่มีขนาดเล็กกว่า Model 3 โดยมีความเป็นไปได้สำหรับ New Model ที่มีขนาดเล็กกว่า และ Tesla ในเวอร์ชันโรโบแท็กซี่
โครงการที่พบกับความล่าช้าอย่าง Tesla CyberTruck คาดว่าน่าจะเสร็จในปีนี้ นอกจากนั้นยังมีรถรุ่นใหม่ที่รอเปิดตัวและประสบกับปัญหาซัพพลายเชน อย่าง Tesla Roadster และ Tesla Semi เมื่อถึงเวลานั้นเราอาจเห็นการปรับปรุงอย่างมากในระบบขับอัตโนมัติ FSD Full Self-Driving ที่สามารถรับประกันอนาคตของรถยนต์ไฟฟ้ามวลชนอย่าง Tesla Robotaxi ที่ขับอัตโนมัติได้อย่างเต็มรูปแบบโดยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีพวงมาลัยและแป้นคันเร่งอีกต่อไป คาดว่าเราจะได้เห็นรูปลักษณ์ของ Model 2 ก่อนสิ้นปี 2024 แต่ตอนนี้ดูภาพเรนเดอร์กันไปก่อนนะครับ.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/